HomePR Newsเมเจอร์ฯ เปิดตัวคอนโดหรู “MUNIQ Sukhumvit 23” อย่างเป็นทางการ ชูแนวคิด ‘LIVE AS ART’ บนทำเลพรีเมียม อโศก-สุขุมวิท [PR]

เมเจอร์ฯ เปิดตัวคอนโดหรู “MUNIQ Sukhumvit 23” อย่างเป็นทางการ ชูแนวคิด ‘LIVE AS ART’ บนทำเลพรีเมียม อโศก-สุขุมวิท [PR]

แชร์ :

บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซ์ชัวรี่เปิดตัวคอนโดมิเนียมเซ้กเม้นท์ ลักซ์ชัวรี่ “MUNIQ Sukhumvit 23” (มิวนีค สุขุมวิท 23) โครงการคอนโดมิเนียมหรูไฮไรซ์ บนทำเลระดับพรีเมียมย่านอโศก – สุขุมวิท มูลค่า 2,800 ล้านบาท ใจกลางย่านธุรกิจ แวดล้อมด้วยศูนย์การค้าชั้นนำ อาคารสำนักงานเกรดเอ โรงแรม โรงพยาบาล ร้านอาหาร สถาบันการศึกษา ใกล้สถานีรถไฟฟ้า MRT สุขุมวิท 200 เมตร และจาก BTS อโศก 300 เมตร โดดเด่นด้วยดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ ชูจุดแข็งตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่รสนิยมดี ภายใต้แนวคิด “LIVE AS ART” ผสานศิลปะเข้ากับการออกแบบ และการใช้สอยพื้นที่อย่างลงตัว

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ดร.สุริยา พูลวรลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า
“โครงการมิวนีค สุขุมวิท 23 เป็นแบรนด์ที่สร้างขึ้นเพื่อตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มพรีเมียมในปัจจุบัน โดยเน้นกลุ่มที่รักการใช้ชีวิตในเมือง เนื่องจากที่ตั้งโครงการฯ อยู่ในย่านที่ถือเป็นศูนย์กลางธุรกิจอย่างแท้จริง เป็นแหล่งความเจริญ และเป็นไลฟ์สไตล์ของกรุงเทพฯ ฯ เดินทางสะดวกด้วย BTS และ MRT ในระยะเดินได้ จึงเดินทางสะดวกทั้งด้วยรถยนต์ส่วนตัว

และขนส่งสาธารณะ ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นจุดแข็งของโครงการที่เรามั่นใจว่าสามารถตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้อย่างแน่นอน”

โครงการ มิวนีค สุขุมวิท 23 ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท 23 มีขนาดพื้นที่ประมาณ 1-1-35 ไร่ สูง 36 ชั้น จำนวน 201 ยูนิต มีห้องชุด 2 รูปแบบ โดยเป็นห้องชุดขนาดเริ่มต้น และห้องชุดแบบ The collection หรือที่เรียกว่า “มินิเพ้นท์เฮ้าส์” ที่มีเพียง 12 ยูนิต ของทั้งโครงการ ขนาดใช้สอยอยู่ที่ 83.22 – 191.11 ตร.ม. ในรูปแบบของห้องชุดซิมเพล็กซ์ (Simplex) ,ห้องชุด ดูเพล็กซ์ (Duplex) และห้องชุด ทริเพล็กซ์ (Triplex) สำหรับห้องชุดปกติขนาดเริ่มต้น 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 34.74 – 43.46 ตร.ม. ห้องชุด 2 ห้องนอน มีพื้นที่ใช้สอย 54.68 – 99.27 ตร.ม. การจัดวางจำนวนห้องชุดถูกจัดสรรพื้นที่ ไม่ให้หนาแน่นเกินไป มีความเป็นส่วนตัวและร่มรื่นด้วยธรรมชาติด้วยสวนสีเขียวภายในโครงการ พรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งฟิตเนส สระว่ายน้ำลอยฟ้า จากุชชี่ พื้นที่ส่วนกลาง ขณะเดียวกันยังสะดวกสบายด้วยที่จอดรถ ซึ่งมีพื้นที่สำหรับจอดทั่วไปและที่จอดรถอัตโนมัติ (Automatic Parking) โดยสามารถรองรับได้ถึง 166 คัน หรือ 82% ของจำนวนห้อง เรียกว่าตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง

ผู้บริหารเมเจอร์ฯ กล่าวต่อว่า “แรงบันดาลใจในการออกแบบโครงการนี้ มองว่า การใช้ชีวิตเหมือนศิลปะอย่างหนึ่ง ต้องมีความสมดุลระหว่างการทำงานกับชีวิตส่วนตัว คือ มีศิลปะในการใช้ชีวิต มีความรับผิดชอบในการทำงานและรู้จักหาความสุขให้กับตนเอง เรียกว่าสมดุลทั้ง ชีวิตการทำงาน ชีวิตส่วนตัว และครอบครัว โดยกลุ่มเป้าหมายวางไว้ชัดเจน คือ กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่กำลังสร้างฐานะและความมั่นคงในการทำงาน ช่วงอายุประมาณ 20 ปลาย ไปจนถึง 30 ต้น มีไลฟสไตล์ที่ทันสมัย อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ ภูมิใจกับการทำอะไรด้วยตนเอง สนใจเทคโนโลยีใหม่ ๆ ต้องการที่พักอาศัยที่จะสามารถสามารถสะท้อนไลฟ์สไตล์ของตนเองได้ ภายหลังโครงการสร้างเสร็จราคาห้องชุดปรับเพิ่มขึ้นอยู่ที่เริ่มต้น 250,000 บาท/ ตร.ม. จากช่วงพรีเซลล์ 220,000 บาท/ ตร.ม. ในปลายปี 2559 เชื่อว่าทำเลนี้ยังมีศักยภาพในการลงทุนอย่างต่อเนื่อง และยังคงเป็นที่ต้องการของชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง

สำหรับคอนเซ็ปต์การตกแต่งโครงการ “มิวนีค สุขุมวิท 23” ใช้แนวคิด ‘LIVE AS ART’ เพื่อสื่อถึงการใช้ชีวิตอย่างมีศิลปะ มีรสนิยม สะท้อนผ่านการออกแบบโครงการทั้งเอ็กซ์ทีเรีย (Exterior) และ อินทีเรีย (Interior) คือ การผสมผสานศิลปะเข้ากับการออกแบบ ขณะเดียวกันยังตอบสนองต่อพื้นที่ใช้สอยได้อย่างลงตัว โดยทีมออกแบบไม่ว่าจะเป็น Palmer & Tuner ทำการออกแบบงานสถาปัตยกรรม, J&H BOIFFILS ดูแลออกแบบอินทีเรียภายใน และ SHAMA ออกแบบแลนด์สเคป จึงเห็นความแตกต่างจากคอนโดมิเนียมทั่วไปอย่างชัดเจน คือ โดดเด่นด้วยสไตล์
การออกแบบ แบบ มอนเดรียน อาร์ท (Mondrian Art) โดยการใช้แนวเส้นนอนและเส้นตรงที่ตั้งฉากกันเข้ามาใส่ในรายละเอียดในการออกแบบ ขณะเดียวกันก็มีความเรียบง่ายกึ่งมินิมอล (Minimal) และเลือกใช้วัสดุที่แตกต่าง เพื่อสะท้อนถึงถึงความพรีเมียมและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ปัจจุบันโครงการมียอดขายอยู่ที่ 70% จากจำนวนห้องชุดทั้งหมด ขณะที่สถานการณ์การแข่งขันในตลาดย่านอโศก – สุขุมวิท เมเจอร์ฯ มองว่า แม้จะมีคู่แข่งที่เป็นกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน แต่ก็ยังเชื่อมั่นในศักยภาพและจุดแข็งของโครงการ “ผมมองว่าตลาดอสังหาฯ ในปีนี้ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ประกอบกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด – 19 ตั้งแต่ต้นปี คาดว่าก็ยังคงกระทบกับอีกหลายทุกธุรกิจตลอดปีนี้ หรือจนถึงปีหน้า ในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เรามีการวางแผนรัดกุมตั้งแต่ปีที่ผ่านมา โดยจะเน้นระบายสต๊อกที่มีอยู่ก่อน สำหรับตลาดลักซ์ชัวรี่ยังไม่น่าเป็นห่วงมาก ยอดขายยังคงไปได้เรื่อย ๆ แต่ไม่หวือหวา เชื่อว่าเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว ตลาดอสังหาริมทรัพย์ก็จะฟื้นตัวด้วย และเชื่อในศักยภาพของทำเลและโครงการของเมเจอร์ โดยเฉพาะโครงการที่อยู่ใน Prime Area ที่แทบจะไม่เหลือพื้นที่ในการพัฒนาโครงการต่อได้” ดร.สุริยา กล่าวทิ้งท้าย

ด้าน คุณอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “จากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั้งมหภาคและจุลภาค ในด้านของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้รับผลกระทบในช่วงไตรมาสที่ 2 หลังจากการผ่อนคลายมาตรการ Lock Down และเปิดให้ธุรกิจต่างๆ ดำเนินต่อไปได้ตามปกติ ซีบีอาร์อีเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นในตลาดที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะในช่วงที่ผู้ประกอบการเริ่มปรับตัวมากขึ้นโดยการเน้นระบายยูนิตที่เหลืออยู่ในมือทั้งโครงการที่กำลังก่อสร้างและโครงการที่แล้วเสร็จ เพื่อสร้างยอดขายและกระแสเงินสดให้ได้มากที่สุด ทำให้มีการโหมจัดโปรโมชั่นที่ดึงดูดผู้ซื้อ ในส่วนของธนาคารเอง ดอกเบี้ยในช่วงนี้ถือว่าเป็นผลดีต่อผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย”

โครผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ mjd.co.th/muniq/sukhumvit23 หรือ MJD Contact center 1266


แชร์ :

You may also like