กลายเป็นแพลตฟอร์มมาแรงแห่งปีไปแล้วสำหรับ Zoom ผู้ให้บริการวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ผ่านอินเทอร์เน็ตที่ได้แรงหนุนจากวิกฤติ Covid-19 จนบริษัทต้องปรับตัวเลขคาดการณ์รายได้เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว จากเป้าเดิม 905 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 1,780 ล้านเหรียญสหรัฐ
โดยปัจจุบัน Zoom มีลูกค้าถึง 265,400 รายที่มีพนักงานในสังกัดมากกว่า 10 คน ซึ่งตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นจากเมื่อปีก่อนถึง 354% นอกจากนั้น Zoom ยังมีลูกค้า 769 รายที่จ่ายเงินให้บริษัทปีละกว่า 100,000 เหรียญสหรัฐเพื่อเข้าใช้บริการ ซึ่งเพิ่มขึ้น 90% จากปีก่อนด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ดี บริษัทไม่มีการเปิดเผยตัวเลขลูกค้าทั้งหมด ซึ่งทาง CNBC มีการอ้างอิงตัวเลขจาก Apptopia ว่า Zoom น่าจะมีลูกค้าทั้งสิ้น 173 ล้านรายที่เข้าใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (ตัวเลข ณ วันที่ 27 พฤษภาคม)
ลูกค้าเพิ่ม รายได้เพิ่ม ต้นทุนเพิ่ม
สำหรับรายได้ในไตรมาสแรกของบริษัทนั้น พบว่า มีถึง 328.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เหนือกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ค่อนข้างมากเลยทีเดียว (นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 202.7 ล้านเหรียญสหรัฐ) นอกจากนี้ สัญญาณบวกของ Zoom ยังคงมีต่อเนื่อง เพราะหลายประเทศที่เริ่มกลับมาคลายมาตรการล็อกดาวน์อีกครั้งนั้น ก็ยังไม่ฟื้นตัวดี และมีแนวโน้มว่าจะเกิดการประชุมงานผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ต่อไปอีกยาวนานพอสมควร
กระนั้น รายได้ที่เพิ่มขึ้นก็มาพร้อมต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งต้นทุนของ Zoom ก็คือค่า Data Center และค่าคลาวด์ที่บริษัทต้องจ่ายให้กับ AWS, Microsoft และ Oracle ซึ่งในไตรมาสแรกนั้น บริษัทจ่ายเงินไปถึง 103.7 ล้านเหรียญ หรือเพิ่มขึ้น 330% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าเลยทีเดียว ซึ่งการเปิดเผยถึงค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นนี้ทำให้หุ้นของ Zoom ตกลงถึง 3.5% ด้วย
โดยทางผู้บริหารของ Zoom เผยว่าบริษัทอยู่ระหว่างขยาย Data Center ของตนเอง เพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น