HomePR Newsผลลัพธ์จากการพลิกฟื้นผืนดินและชีวิตความเป็นอยู่ใน 3 ประเทศ สู่กาแฟเนสเพรสโซอันเป็นเอกลักษณ์แห่งความยั่งยืน [PR]

ผลลัพธ์จากการพลิกฟื้นผืนดินและชีวิตความเป็นอยู่ใน 3 ประเทศ สู่กาแฟเนสเพรสโซอันเป็นเอกลักษณ์แห่งความยั่งยืน [PR]

แชร์ :

เพราะไม่เพียงแค่มอบประสบการณ์ความสะดวกและง่ายดายในการรังสรรค์กาแฟสุดพิเศษ แต่เนสเพรสโซยังให้ความสำคัญและใส่ใจในคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไร่กาแฟ ผู้ซึ่งอยู่เบื้องหลังกาแฟสุดพิเศษในทุก ๆ แก้ว จากเนสเพรสโซ จึงทำให้มีโครงการเพื่อช่วยเหลือ ดูแล รวมไปถึงเข้าร่วมพัฒนาและฟื้นฟูคุณภาพชีวิตของชาวไร่กาแฟ เฉกเช่นเดียวกับโครงการพลิกฟื้น 3 ประเทศใน Zimbabwe (ซิมบับเว), Columbia (โคลอมเบีย) และ Uganda (อูกันดา)

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

เริ่มต้นในปีพ.ศ. 2562 โครงการ Reviving Origins (รีไววิง ออริจินส์) มุ่งฟื้นฟูพื้นที่เกษตรกรรมที่เพาะปลูกกาแฟ และพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาต่าง ๆ อาทิ  ซิมบับเวและโคลอมเบีย จากความขัดแย้งภายในประเทศ หรืออูกันดาที่ประสบปัญหาจากภัยธรรมชาติ เพื่อให้ชาวไร่กาแฟในประเทศเหล่านี้สามารถผลิตกาแฟที่มีคุณภาพ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของพวกเขา ทำให้สามารถสร้างรายได้ให้แก่ตนเองและชุมชน อีกทั้ง ยังอนุรักษ์พื้นที่เกษตรกรรมเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีในอนาคต

ปรีติ ฮาลัย ผู้อำนวยการบริหารธุรกิจ ผลิตภัณฑ์เนสเพรสโซประเทศไทย กล่าวว่า “ที่เนสเพรสโซ เรามุ่งมั่นในการมอบพันธสัญญาด้านความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม รวมถึงรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์และส่งมอบบริการที่ดีที่สุดอยู่เสมอ สำหรับ โครงการ Reviving Origins เราได้เข้าไปช่วยเหลือชาวไร่กาแฟในพื้นที่ที่ประสบปัญหาและเผชิญกับความยากลำบากในการปลูกกาแฟ อีกทั้ง ยังส่งเสริมให้เกิดการเกษตรกรรมแบบยั่งยืน เพราะเราเชื่อว่ากาแฟแต่ละแก้วของเนสเพรสโซ ไม่เพียงแต่จะช่วยเติมเต็มวันของคุณเท่านั้น แต่ยังช่วยพัฒนาสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของชาวไร่กาแฟอีกด้วย”

นอกจากนี้ เนสเพรสโซยังได้วางแผนฟื้นฟูอุตสาหกรรมกาแฟใน 3 ประเทศดังกล่าว ด้วยการลงทุนเเงิน 10 ล้านสวิสฟรังซ์ เป็นระยะเวลา 5 ปี โดยมีเป้าหมายในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับชนบท และยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวไร่กาแฟ ผ่านโครงการ Reviving Origins ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ โครงการเพื่อความยั่งยืน หรือ Nespresso AAA Sustainable Quality Program (เนสเพรสโซ เอเอเอ ซัสเทนเนเบิล ควอลิตี้ โปรแกรม) ที่เนสเพรสโซได้ทำงานร่วมกับชาวไร่กาแฟ เพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขาสามารถเพาะปลูกกาแฟที่มีคุณภาพได้ตลอดทั้งปี ส่งผลให้เกิดการพัฒนาสภาพสังคม สิ่งแวดล้อม และสภาพเศรษฐกิจสำหรับชาวไร่กาแฟและชุมชนการเกษตร จึงทำให้สามารถมั่นใจได้ว่าผลผลิตกาแฟของเนสเพรสโซเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพเต็มแก้ว

ประเทศอูกันดา

ประเทศอูกันดาประสบปัญหาจากการผันแปรของภูมิอากาศ ความยากจนของคนในท้องถิ่น รวมถึงชาวไร่กาแฟขาดความรู้ ความเข้าใจในการทำเกษตรกรรม ส่งผลให้ผลผลิตกาแฟมีปริมาณและคุณภาพต่ำ จึงนำมาซึ่งการยื่นมือเข้าไปให้ความช่วยเหลือ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวไร่กาแฟผ่านโครงการ Reviving Origins จากเนสเพรสโซ ที่ได้ร่วมมือกับ Agri Evolve (อากริ อีโวลว์) ผู้เชี่ยวชาญในการทำธุรกิจการเกษตรในประเทศอูกันดา โดยเนสเพรสโซได้ทำงานร่วมกับชาวไร่กาแฟท้องถิ่นมากกว่าสองพันคน และจัดการฝึกอบรม และให้ความรู้ทางเทคนิค เพื่อให้พวกเขาสามารถเพิ่มผลผลิตพัฒนาคุณภาพของกาแฟ และทำการเกษตรแบบยั่งยืน

Joseph Kiribwa (โจเซฟ คิริบวา) เกษตรกรชาวอูกันดาผู้ร่วมโครงการของเนสเพรสโซกล่าวว่า “ผมเลือกที่จะปลูกกาแฟเพราะเล็งเห็นถึงความยั่งยืน และจะช่วยลูกหลานได้ในอนาคต ตอนนี้ผมจัดการการปลูกกาแฟได้ดีกว่ารุ่นพ่อ เพราะหลังจากได้รับความรู้และการฝึกฝนจากเนสเพรสโซแล้ว ผมเปลี่ยนวิธีการเก็บผลเชอร์รี่กาแฟจากที่เคยทำมาตลอด  ถ้าผมเลือกเก็บผลเชอร์รี่กาแฟที่แดงสุก จะทำให้ได้กาแฟที่มีคุณภาพดี และทำให้ผมมีรายได้มากขึ้นกว่าเดิม ถึงแม้ว่าหนทางการปลูกกาแฟนั้นยังอีกยาวไกล แต่ผมไม่กังวลเลย เพราะผมรู้ว่าจะมีรายได้ที่ดีอย่างแน่นอน เมื่อได้ยินว่าผู้คนทั่วโลกดื่มกาแฟที่ผมปลูก ทำให้ผมภูมิใจมาก และเป็นแรงผลักดันให้เดินหน้าปลูกกาแฟที่ดีต่อไป”

ประเทศซิมบับเว

ด้านประเทศซิมบับเว มีผลผลิตกาแฟที่ลดน้อยลงเป็นระยะเวลานานกว่า 50 ปี จากเดิมที่มีผลผลิตกาแฟในช่วงปีพ.ศ. 2520 มากถึง 15,000 แต่กลับเหลือเพียง 500 ตันในปีพ.ศ 2560 ในขณะเดียวกัน ประเทศโคลอมเบีย ที่เกิดปัญหาความขัดแย้งภายในพื้นที่ในเมืองคาควอต้า (Caquetá) และ เอล โรซารีโอ (El Rosario) ทำให้ชาวไร่กาแฟไม่สามารถทำเกษตรกรรมได้อย่างเคย จึงละทิ้งพื้นที่เพาะปลูกตนเอง ส่งผลให้ผลผลิตทางการเกษตรโดยเฉพาะกาแฟลดลงเป็นจำนวนมาก

ทั้งสองประเทศได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Reviving Origins ตั้งแต่แรกเริ่มในปีพ.. 2562 โดยเนสเพรสโซยังเข้าไปช่วยเหลือผู้คนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องการให้ความรู้ความเข้าใจในการทำการเกษตรเพื่อเพิ่มผลผลิต และยังช่วยสร้างเครือข่ายเกษตรกรรมให้แก่ผู้คนในท้องถิ่น อีกทั้ง ยังลงทุนในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานให้แก่ชาวไร่ท้องถิ่น ทั้งการสร้างโรงสีเปียกสำหรับเมล็ดกาแฟ (Wet mill) รวมไปถึงสร้างสหกรณ์สำหรับชาวไร่กาแฟ ให้สามารถมีพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจ รวมไปถึงความช่วยเหลือทางการเงินและการลงทุน

ประเทศโคลอมเบีย

การปลูกกาแฟแทบจะเลือนหายไปจากเมืองคาควอต้า เนื่องจากปัญหาความขัดแย้งภายในประเทศต่อเนื่องเป็นเวลานาน 50 ปี จึงทำให้เกษตรกรต้องหยุดการทำไร่กาแฟ เนสเพรสโซได้ร่วมมือกับชาวไร่ท้องถิ่นและ Colombian National Coffee Growers Federation ในการสนับสนุนและฟื้นฟูอุตสาหกรรมกาแฟในประเทศโคลอมเบียขึ้นมาใหม่ผ่านโครงการ Nespresso AAA Sustainable QualityTM Program  โดยนักปฐพีวิทยาของเนสเพรสโซได้คอยจัดการอบรมและให้ความรู้แก่ชาวไร่กาแฟในการทำการเกษตรแบบยั่งยืน และการจัดการสภาพแวดล้อมและระบบน้ำให้ได้คุณภาพและมาตรฐาน

Don Fernando (ดอน เฟอร์มานโด) เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟชาวโคลอมเบีย กล่าวว่า “การปลูกกาแฟช่วงที่มีปัญหาขัดแย้ง คุณจะต้องเตรียมตัวให้ดีและระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะอาจมีสิทธิ์ไปเหยียบโดนกับระเบิดได้ สำหรับผมแล้วโครงการ Nespresso AAA สอนให้เราผลิตกาแฟที่ดีที่สุดออกสู่ท้องตลาด ตอนนี้ผมมีความหลงใหลในการปลูกกาแฟมาก และอยากจะส่งต่อความรู้นี้ให้กับลูกหลานรุ่นต่อไป”

และจากการเข้าไปพลิกฟื้นคุณภาพชีวิตของชาวไร่กาแฟและผืนดินใน 3 ประเทศ จึงทำให้เกิดเป็นผลลัพธ์ที่พร้อมจะมอบประสบการณ์กาแฟสุดพิเศษอันเกิดจากโครงการ Reviving Origins ทั้ง 3 แคปซูล

AMAHA awe UGANDA

 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากพลิกฟื้นผืนดินที่เหมาะแก่การเพาะปลูก ให้มีผลผลิตที่ดียิ่งขึ้น โดยชื่อ AMAHA awe UGANDA มาจากภาษาท้องถิ่น หมายถึงความหวังของอูกันดา เพราะกาแฟนี้เติบโตมาจากพื้นที่ท้องถิ่นที่ได้รับร่มเงาและความสมบูรณ์จากต้นกล้วยท้องถิ่น ทำให้เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมแก่การเพาะปลูกกาแฟอาราบิก้า จึงได้กาแฟที่เข้มข้นระดับ 8 พร้อมกลิ่นหอมดุจผลไม้ที่ปลายสัมผัส

TAMUKA mu Zimbabwe

 

ผลลัพธ์ที่นำกลับมาจากผลผลิตที่หายไปสืบเนื่องจากปัญหาความขัดแย้งภายในประเทศ เกิดเป็นกาแฟ TAMUKA mu ZIMBABWE ที่ให้รสชาติซับซ้อน มีความหอมอมฟรุ๊ตตี้จากผลเชอร์รี่กาแฟ ให้กลิ่นสัมผัสดุจเบอร์รี่ แต่นุ่มละมุนและลงตัว ด้วยความเข้มข้นระดับ 5

 

ESPERANZA de COLOMBIA

 

ผลลัพธ์จากการสานสัมพันธ์ จากความขัดแย้งภายใน ส่งผลให้พื้นที่ทางการเกษตรไม่สามารถเข้าถึงได้ เกิดเป็นกาแฟ ที่ให้รสชาติความสดชื่นจากความหอมและฟรุ๊ตตี้ของผลเชอร์รี่กาแฟ แต่ยังคงความสมดุลไว้ พร้อมกลิ่นซีเรียลที่ปลายสัมผัส ในความเข้มข้นระดับ 5

 

ค้นพบประสบการณ์กาแฟครั้งใหม่จาก 3 ประเทศในกลุ่ม Reviving Origins

ได้ตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน – 4 สิงหาคม 2563 ในราคาแคปซูลละ 30 บาท ทั้งทางออนไลน์และบูติกเนสเพรสโซ

#NespressoTH #RevivingOrigins

สามารถสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ของ Nespresso ได้ที่

  • Nespresso boutique ศูนย์การค้าสยามพารากอน ชั้น 1
  • Nespresso boutique ศูนย์การค้าไอคอนสยาม ชั้น 1
  • Nespresso Pop-Up Boutique Emquartier Helix Quartier ชั้น G
  • Nespresso Mega Bangna ชั้น 1
  • Nespresso Central Embassy ชั้น 2
  • Nespresso Central ลาดพร้าว ชั้น 1
  • Nespresso Central ปิ่นเกล้า
  • Nespresso Central พระราม 9
  • Nespresso เดอะ คริสตัล
  • Nespresso Central ภูเก็ต ฟลอเรสตา
  • โทรฟรี 1800-019090 ตั้งแต่เวลา 09.00 – 19.00 น.
  • เว็บไซต์ http://www.nespresso.com/ หรือ Nespresso แอปพลิเคชั่นสำหรับ iPhone, iPad และ Android TM

และสามารถติดตามข่าวสารรวมทั้งกิจกรรมของ Nespresso ได้ที่ Facebook.com/Nespresso.thailand, Instagram: @Nespresso.th #NespressoTH, Line: @NespressoTH


แชร์ :

You may also like