HomePR News“เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย” ชู Customer Centric Solution เป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจยุคปัจจุบัน [PR]

“เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย” ชู Customer Centric Solution เป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจยุคปัจจุบัน [PR]

แชร์ :

  • บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ “FPT” (ชื่อเดิมไทคอน) ตอกย้ำความสำเร็จจากการดำเนินธุรกิจโดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric Solution) ทำให้อัตราการเช่าพื้นที่ (Occupancy Rate) โรงงานและคลังสินค้าเพื่อการอุตสาหกรรมแบบพร้อมใช้ (Ready-Built) แถบบางพลีสูงถึงร้อยละ 95
  • มุ่งขยายการเติบโตให้กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม (Industrial Property) รองรับการขยายตัวของกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์และอุตสาหกรรม ชี้ชัด ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ เติบโตอย่างก้าวกระโดด
  • เพิ่มมูลค่าทรัพย์สินในพอร์ต (Value Added) ด้วยการปรับปรุงอาคารให้รองรับความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน  (Asset Enhancement Initiatives) ชูจุดแข็งด้วยคุณภาพอาคารระดับมาตรฐานสากล บนทำเลยุทธศาสตร์ของภาคโลจิสติกส์และอุตสาหกรรมทั่วประเทศ พร้อมบริการที่ครอบคลุมและโซลูชั่นที่ทันสมัยครบวงจร
  • มั่นใจตลาดพัฒนาโรงงานและคลังสินค้าพร้อมใช้ยังเติบโตต่อเนื่อง เผยมีลูกค้าในไปป์ไลน์จ่อเข้ามาใช้บริการอีกจำนวนมาก ตั้งเป้าเพิ่มอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยรวม (Occupancy Rate) ให้อยู่ในระดับร้อยละ 80
  • พร้อมส่งมอบประสบการณ์อันทรงคุณค่าให้แก่ลูกค้าและพนักงาน ตามแนวคิดอันเป็นหนึ่งเดียวที่ว่า “ประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญ” หรือ “Experience matters”

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ “FPT” (ชื่อเดิมไทคอน) ผู้นำการให้บริการสมาร์ทแพลตฟอร์มด้านอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ตอกย้ำความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจโดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric Solution) โชว์อัตราการเช่าพื้นที่ (Occupancy Rate) โครงการย่านบางพลีสูงแตะร้อยละ 95 พร้อมประกาศเดินหน้าสร้างการเติบโตให้กับกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม (Industrial Property) อย่างต่อเนื่อง รองรับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ ที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ดังจะเห็นได้จากมูลค่าตลาดอี-คอมเมิร์ซในประเทศไทยเปรียบเทียบระหว่างปี 2560 และปี 2561
มีอัตราการเติบโตประมาณร้อยละ 14.04 โดยคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดอี-คอมเมิร์ซปี 2561 จะสูงกว่า 3.1 ล้านล้านบาท[1] ชูจุดแข็งโรงงานและคลังสินค้าแบบพร้อมใช้ (Ready-Built) ที่มีคุณภาพสูงได้มาตรฐานระดับสากล ตั้งอยู่บนทำเลยุทธศาสตร์ทั่วประเทศ พร้อมนำเสนอบริการที่ครอบคลุมและโซลูชั่นที่ทันสมัยครบวงจรเพื่อรองรับความความต้องการของลูกค้า

นายโสภณ ราชรักษา ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “แนวโน้มตลาดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม สำหรับเช่าในประเทศไทยยังคงเติบโตได้ดี เนื่องจากที่ผ่านมา ได้แรงหนุนจากปัจจัยบวกด้านการค้าและการบริโภคภายในประเทศ ตลอดจนนโยบายของภาครัฐที่ส่งเสริมโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ซึ่งเป็นแผนยุทธศาสตร์ภายใต้ ไทยแลนด์ 4.0 อีกทั้งยังมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ (e-Commerce) ในประเทศไทยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ความต้องการใช้พื้นที่โรงงานและคลังสินค้าในภาพรวมเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโครงการที่ตั้งอยู่บนทำเลแถบบางพลี ซึ่งเป็นทำเลยุทธศาสตร์สำคัญของธุรกิจโลจิสติกส์ในการให้บริการจัดส่งสินค้าในช่วงสุดท้าย หรือ Last Mile Delivery นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีโครงการที่ตั้งอยู่บนทำเลยุทธศาสตร์ของภาคอุตสาหกรรมอีกกว่า 50 แห่งทั่วประเทศ โดยรูปแบบอาคารแบบพร้อมใช้งาน หรือ Ready-Built ที่พัฒนาด้วยคุณภาพและมาตรฐานระดับสากล จะตอบโจทย์ความต้องการพื้นฐานและความสะดวกสบายในการเข้าใช้พื้นที่เพื่อให้ธุรกิจของลูกค้าสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้บริษัทยังมีบริการและโซลูชั่นที่มุ่งเน้นให้ตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก (Customer Centric Solution) เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์อันทรงคุณค่าให้แก่ลูกค้าและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย”

ด้านมร. แฮร์รี่ ยาน เก็ก วี ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานบริหารอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบริหารงานด้านการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมประเภทพร้อมใช้ หรือ Ready-Built ว่า “บริษัทฯ ให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจโดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อส่งมอบประสบการณ์อันทรงคุณค่าตามแนวคิดอันเป็นหนึ่งเดียวกันที่ว่า “ประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญ” หรือ “Experience matters” บริษัทฯ จึงไม่เคยหยุดที่จะมองหาโอกาสในการพัฒนาธุรกิจและเทคโนโลยี เพื่อส่งมอบบริการที่ครบวงจรตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน อีกทั้งยังนำเสนอโซลูชั่นที่ทันสมัย ดึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ เข้ามาช่วยเสริมประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจและสร้างการเติบโตให้แก่ลูกค้า นอกจากนี้บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญในการเพิ่มมูลค่าทรัพย์สิน (Value Added) ด้วยการปรับปรุงอาคารให้มีความทันสมัย (Asset Enhancement Initiative) จึงทำให้สามารถรองรับความต้องการที่หลากหลายได้อย่างครอบคลุม ทำให้
บริษัทฯ สามารถดันอัตราการเช่าโรงงานและคลังสินค้าแบบพร้อมใช้ในเขตพื้นที่บางพลีเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 95”

“ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ยาวนานกว่า 28 ปี ในการพัฒนาโรงงานและคลังสินค้าคุณภาพระดับมาตรฐานสากล ตลอดจนการก้าวเข้าเป็นสมาชิกในกลุ่ม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อย่างเป็นทางการ ทำให้บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้าบริษัทชั้นนำระดับโลก บริษัทฯ มั่นใจในก้าวที่แข็งแกร่งของรอบปีงบประมาณนี้ ที่จะสามารถรักษาระดับอัตราการเช่าพื้นที่ของโรงงานและคลังสินค้าประเภทพร้อมใช้ (Ready Built) เฉลี่ยรวมไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 โดยนอกเหนือจากการเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งให้กับโรงงานและคลังสินค้าแบบพร้อมใช้แล้ว บริษัทฯ ยังมีลูกค้าที่อยู่ในระหว่างการเจรจาเพื่อพัฒนาโรงงานและคลังสินค้าแบบสร้างตามความต้องการ (Built-to-Suit) อีกเป็นจำนวนมาก ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมแบบครบวงจรในประเทศไทย” นายโสภณกล่าวสรุป


แชร์ :

You may also like