HomePR NewsNISSAN นำเสนอแนวคิดของเทคโนโลยี Invisible-to-Visible ที่งาน CES 2019 [PR]

NISSAN นำเสนอแนวคิดของเทคโนโลยี Invisible-to-Visible ที่งาน CES 2019 [PR]

แชร์ :

ในมหกรรมแสดงนวัตกรรมระดับโลกหรือ Consumer Electronics Show – CES ที่กำลังจะมาถึงนี้ นิสสันนำเสนอวิสัยทัศน์เทคโนโลยีการเชื่อมต่อของยานยนต์ในอนาคตที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่ “มองเห็นในสิงที่ไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า” โดยผสานโลกของความเป็นจริงและโลกเสมือนจริงที่สร้างที่สุดของประสบการณ์ในการเชื่อมต่อ เทคโนโลยี Invisible-to-Visible หรือ I2V เป็นเทคโนโลยีสำหรับอนาคตการขับเคลื่อนอัจฉริยะของนิสสันหรือ
Nissan Intelligent Mobility อันเป็นวิสัยทัศน์ของบริษัทฯในการเปลี่ยนพลังงานในการขับเคลื่อน วิธีการขับขึ่และการบูรณาการยานยนต์ให้เข้ากับสังคม เทคโนโลยี I2V นี้จะแสดงให้เห็นถึงยานยนต์ในอนาคตกับผู้เข้าชมงาน CES
ผ่านประสบการณ์การแบบอินเตอร์แอคทีฟแบบสามมิติในพื้นที่การจัดแสดงของนิสสัน

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

เทคโนโลยี I2V ทำงานโดยการรวมข้อมูลจากเซ็นเซอร์ทั้งภายนอกและภายในรถเข้ากับข้อมูลจากคลาวด์ เพื่อติดตามสภาพแวดล้อมของยานพาหนะแบบเรียลไทม์ พร้อมคาดการณ์ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นข้างหน้า – เช่น การแสดงเหตุการณ์บริเวณมุมต่างๆ โดยรอบ หรือแม้แต่ภายหลังอาคารและแสดงผลผ่านอวตารทำให้การสื่อสารใกล้เคียงกับมนุษย์เพื่อให้ผู้ขับขี่รู้สึกสนุกสนาน และปลอดภัย นวัตกรรม I2V บนโลกเสมือนจริง เปิดโอกาสให้การบริการและการสื่อสารที่ไม่มีที่สิ้นสุดซึ่งทำให้การขับขี่สะดวกสบายและน่าตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น “ด้วยการช่วยให้คุณมองเห็นสิ่งที่มองไม่เห็น เทคโนโลยี I2V นี้จะช่วยเพิ่มความมั่นใจและทำให้การขับขี่สนุกยิ่งขึ้น”

 

เท็ตสึโร อุเอดะ ผู้นำผู้เชี่ยวชาญของศูนย์วิจัยนิสสัน (Tetsuro Ueda, an expert leader- Nissan Research Center) กล่าว “คุณลักษณะแบบอินเทอร์แอคทีฟนี้ สามารถสร้างประสบการณ์ที่ปรับแต่งให้เหมาะกับความสนใจและสไตล์การขับขี่ของแต่ละคน เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้งานได้ในแบบของตัวเอง” การเชื่อมต่อของการขับขี่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เทคโนโลยี I2V ขับเคลื่อนจากเทคโนโลยี Omni-Sensing ของนิสสัน ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการรวบรวมข้อมูลแบบเรียลไทม์จากสภาพการจราจรและจากสภาพแวดล้อม รวมถึงภายในของรถยนต์
โดยมีเทคโนโลยี SAM (Seamless Autonomous Mobility) ทำการวิเคราะห์สภาพถนนผ่านข้อมูลที่เกี่ยวข้องแบบเรียลไทม์และมีระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติแบบ ProPILOT ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมของรถยนต์ เทคโนโลยีนี้สร้างพื้นที่เสมือนจริงแบบ 360 องศารอบ ๆ รถ ในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ เช่นสถานะถนน และทางแยก ทัศนวิสัย ป้ายจราจรหรือคนเดินเท้าในบริเวณใกล้เคียง

นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบผู้โดยสารภายในรถโดยใช้เซ็นเซอร์ที่ติด ตั้งอยู่เพื่อคาดการณ์ ในกรณีที่ต้องการความช่วยเหลือในการหาบางสิ่งหรือแม้แต่แจ้งเตือนในการพักดื่มกาแฟ เทคโนโลยี I2V ยังสามารถเชื่อมต่อผู้ขับขี่และผู้โดยสารกับผู้คนในโลกเสมือนจริงของ Metaverse แพลตฟอร์มด้วยสิ่งนี้จะทำให้ครอบครัว เพื่อน หรือคนอื่นๆปรากฏตัวในรถในรูปแบบสามมิติ เป็นอวตารแบบ Augmented reality (AR) เพื่อให้มีผู้ร่วมเดินทางหรือให้ความช่วยเหลือ การสนับสนุนเพิ่มเติมในระหว่างการขับขี่อัตโนมัติหรือการขับขี่ด้วยตนเอง ในระหว่างการขับขี่แบบอัตโนมัติ เทคโนโลยี I2V สามารถทำให้เวลาที่ใช้ในรถยนต์สะดวกสบายและสนุกสนานยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น เมื่อขับรถท่ามกลางฝนตก ทิวทัศน์ของวันที่มีแดดสดใส สามารถฉายภาพภายในรถได้ เมื่อไปในสถานที่ใหม่ๆ ระบบสามารถค้นหาภายในฐานข้อมูลแบบ Metaverse ให้มีไกด์ท้องถิ่นที่มีความรู้และสามารถสื่อสารกับผู้คนในรถยนต์ได้แบบ   เรียลไทม์

ข้อมูลที่ให้ไว้โดยไกด์นี้สามารถรวบรวมด้วยเทคโนโลยี Omni-Sensing และถูกเก็บไว้ในคลาวด์เพื่อให้ผู้อื่นที่เข้าเยี่ยมชมพื้นที่เดียวกันสามารถเข้าถึงคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์แบบออนบอร์ดเพื่อให้การขับขี่ในพื้นที่นั้นๆ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และในระหว่างการขับขี่ด้วยตนเอง เทคโนโลยี I2V นี้จะให้ข้อมูลจาก Omni-Sensing เป็นภาพทับซ้อนในมุมมองเต็มของผู้ขับขี่ ข้อมูลดังกล่าวช่วยให้ผู้ขับขี่ประเมินและเตรียมความพร้อมสำหรับสิ่งต่างๆ อาทิ หัวมุมถนนที่มีทัศนวิสัยไม่ชัดเจน สภาพพื้นผิวถนนที่ไม่สม่ำเสมอ หรือ การจราจรที่กำลังเดินทางเข้าไปหา ผู้ขับสามารถจองคนขับรถมืออาชีพจากฐานข้อมูล Metaverse เพื่อรับคำแนะนำส่วนตัวได้ในเวลาจริง โดย ผู้ขับขี่ที่มีความชำนาญจะปรากฏเป็นภาพประจำตัวแบบอวตาร ฉายไว้ หรือจะเลือกเป็นรถเพื่อขับตามเสมือนจริงในมุมมองของผู้ขับขี่ในการสาธิตวิธีที่ดีที่สุดในการขับขี่ ไม่เพียงแต่ เทคโนโลยี I2V จะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับการจราจร และ เวลาของการเดินทางโดยประมาณเท่านั้น เทคโนโลยีนี้ยังสามารถสื่อสารรายละเอียดที่ไม่ซ้ำกันเพื่อแจ้งให้ผู้ขับขี่ทราบเกี่ยวกับ ถนนข้างหน้า ที่จะลดความตึงเครียดในการขับขี่ โดย I2V จะให้คำแนะนำต่างๆ ให้ทางเลือกของช่องจราจรที่เคลื่อนที่ได้ดีที่สุด ในการจราจรที่หนาแน่น โดยใช้การใช้ข้อมูลท้องถิ่นแบบเรียลไทม์ผ่าน Omni-Sensing และเมื่อมาถึงที่จุดปลายทางเทคโนโลยี I2V สามารถใช้เทคโนโลยี SAM ในการตรวจหาที่จอดรถและจอดยานพาหนะสำหรับผู้ขับขี่ในสถานการณ์ที่การจอดมีความยากลำบากได้ การสาธิตเทคโนโลยี I2V ของนิสสัน

ผู้เข้าชมงาน CES สามารถสัมผัสกับเทคโนโลยี I2V ได้ที่ส่วนจัดแสดงของนิสสัน โดยใส่แว่นแบบ Augmented-Reality (AR) และก้าวเข้าไปในห้องปฏิบัติการสาธิตที่มี การเชื่อมต่อและจอแสดงผลสามมิติ ผู้ทดลองจะได้รับคำแนะนำผ่านสถานการณ์ต่างๆ รวมถึงการเที่ยวชมเมือง การรับความช่วยเหลือในการหาที่จอดรถแบบเปิดโล่งในห้างสรรพสินค้าที่พลุกพล่าน เห็นวันที่ข้างนอกมีฝนตกซึ่งถูกเปลี่ยนเป็นวันที่มีแดดสดใสภายในรถ การขับขี่ตามอวตารของผู้ขับขี่มืออาชีพ และวิธีที่ I2V สามารถมองเห็นอาคารและหัวมุมถนนต่างๆ


แชร์ :

You may also like