“Global Brand” คือเป้าหมายใหญ่ของ “สิงห์ คอร์เปอเรชั่น” บริษัทในเครือ “บุญรอดบริวเวอรี่” …ซึ่งการก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ระดับโลกได้ในยุคนี้ แค่สินค้าดี เข้าใจกลไกลการตลาดอาจไม่พอ แต่ต้องรู้จักสร้างแบรนด์ให้เป็นอย่างถูกที่ ถูกทาง และถูกจริตกับสินค้า
หนึ่งในกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ในสไตล์ของ “สิงห์” ที่มีธุรกิจเบียร์เป็นแกนหลักสำคัญ คือ การเข้าร่วมเป็นผู้สนับสนุนในรายการการแข่งขันประชันความเร็ว ความแรงของรถยนต์ และรถมอเตอร์ไซค์ ที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก อย่าง MotoGP™ รายการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบโมโตจีพี ที่ทางค่าย สิงห์ เป็นผู้สนับสนุนหลักมาตั้งแต่ปี 2014 และเซ็นสัญญาสัมพันธ์อันดีกับมอเตอร์สปอร์ตรายการนี้ไปจนถึง 2021 เป็นที่เรียบร้อย
รายการ MotoGP™ เป็นการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบที่มีมาอย่างยาวนาน โดยในปีนี้ 2018 ถือเป็นการแข่งขันครั้งที่ 70 มีการจัดแข่งขันถึง 19 สนาม และประเทศไทย จ. บุรีรัมย์ คือ หนึ่งในสนามประลองครั้งสำคัญนี้ด้วย
“สิงห์” ซึ่งถือเป็น Global Partner แบรนด์สำคัญของ MotoGP™ ซึ่งไม่ได้แค่สนับสนุนการแข่งขันที่จะจัดขึ้นในประเทศไทยเท่านั้น แต่ได้ไปแสดงศักยภาพความเป็นแบรนด์ไทยที่ไม่แพ้ต่างชาติ บนสนามการแข่งขันในต่างประเทศมานักต่อนัก
“โลโก้ของสิงห์” ที่ผงาดติดอยู่ในสนามการแข่งขันที่ต่างประเทศ ร่วมถึงทางเว็บไซต์ และ Social Network ต่างๆ ได้ปรากฏต่อสายตาคนทั่วโลกมาแล้วกว่าล้านล้านสายตา และในฐานะเป็นผู้สนับสนุนหลัก จึงได้สิทธิ์ในการใช้ VIP Village เช่น การได้รับอนุญาตให้ลงไปข้างสนามบริเวณ Pit Stop ซึ่งทุกคนจะสามารถเห็นการทำงานของทีมเซอร์วิสมืออาชีพได้แบบใกล้ชิด แถมยังสามารถถ่ายรูปและขอลายเซ็นนักแข่งในดวงใจพร้อมได้ของที่ระลึกติดไม้ติดมือกลับมาอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นยังได้รับสิทธิพิเศษในการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มสิงห์ตลอดการแข่งขัน ดังนั้น “เบียร์สิงห์” ได้ถูกเสิร์ฟให้แก่ผู้ชื่นชอบความเร็วที่เข้ามาร่วมงาน MotoGP™ ลิ้มลองมานักต่อนัก และขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชั้นยอดที่ถูกใจนักดื่มทั่วโลก
“ร่วมเชียร์ให้ดังกระหึ่ม ติดขอบ 3 สนามแข่งขันระดับโลกไปกับ สิงห์ ในฐานะผู้สนับสนุน MotoGP™ อย่างเป็นทางการ และ เรย์ แมคโดนัลด์ หนุ่มที่รักความเร็วเป็นชีวิตจิตใจ”
เพื่อตอกย้ำถึงการเป็นพันธมิตรกับรายการแข่งขันระดับโลกแบบ Global Partner และตอบแทนผู้บริโภคคนไทยที่ชื่นชอบรักกีฬาความเร็ว ในการแข่งขัน MotoGP™ 2018 ครั้งนี้
“สิงห์” ได้จัด แคมเปญพิเศษขึ้นมา Singha World of Speed : Exclusive trip with Ray MacDonald ด้วยการพาแฟนคนไทยไปร่วมชมการแข่งขัน MotoGP™ แบบสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ชิดติดขอบสนามกับ เรย์ แมคโดนัลด์ นักแสดงหนุ่มมาดเซอร์ขี้เล่น อดีตนักแข่งขันรถแข่ง ผู้รักในความเร็ว ถึง 3 สนามด้วยกัน ได้แก่ สนาม CIRCUITO DE JEREZ ที่สเปน , สนาม SILVERSTONE CIRCUIT ที่อังกฤษ และกลับไปที่สเปนอีกรอบกับสนาม CIRCUIT RICARDO TORMO
“Singha World of Speed ที่ได้หนุ่มเรย์ แมคโดนัลด์ มานำทีม จะ มันส์ สนุก ฮา ครบรสแค่ไหน งานนี้ไม่พูดเยอะเจ็บคอ ลองไปดู https://www.facebook.com/SinghaMotorsport/ กันได้เลย”
Sport marketing จุดพลุสร้างแบรนด์สิงห์ดังทั่วโลก
ถ้าย้อนกลับไปถึงถึงแนวทางการสร้างแบรนด์ของ “สิงห์” นอกจากการไปร่วมมือกับพันธมิตรที่เจนจัดในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม และมีช่องทางการจำหน่ายที่เข้มแข็งในแต่ละประเทศแล้ว สิ่งที่ “สิงห์” ให้ความสำคัญอย่างมาก คือ การใช้ “Sport Marketing” มาเป็นตัวเบิกสำคัญในการทางสร้างแบรนด์เข้าให้ถึงใจผู้บริโภคทั่วโลก
“สิงห์” ไม่ได้สนับสนุนแค่ MotoGP™ เท่านั้น แต่ผนึกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขัน Ferrari ทีประชันความเร็ว สนุก มันส์ ติดอันดับโลก”
อย่างในปี 2016 สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ได้ก้าวไปอีกขั้นในเวทีระดับโลก ด้วยการเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของทีมรถแข่งฟอร์มูล่า วัน Scuderia Ferrari ในรายการแข่งขันรถฟอร์มูล่า วัน ตลอดทั้งฤดูกาลแข่งขัน (2016-2018)
ทั้งนี้ในฐานะเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ โลโก้สิงห์ ได้ถูกนำไปติดอยู่ที่ด้านข้างของรถแข่งฟอร์มูล่า วัน ของทีม Scuderia Ferrari ทั้ง 2 คัน รวมถึงมีการติดโลโก้สิงห์ที่บริเวณแขนเสื้อนักแข่งรถสูตรหนึ่งชั้นนำของโลก ทีม Scuderia Ferrari ทั้ง 2 คน คือ เซบาสเตียน เวทเทล ครองแชมป์โลกติดต่อกันถึง 4 สมัย ตั้งแต่ปี 2010-2013 และคิมิ ไรโคเนน แชมป์โลกปี 2007
ซึ่งการเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ ทีมรถแข่งฟอร์มูล่า วัน Scuderia Ferrari ของสิงห์ คอร์เปอเรชั่น ในครั้งนั้น ถือเป็นเกียรติยศ และความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้เห็นแบรนด์ไทย ไปปรากฏอย่างยิ่งใหญ่ในเวทีระดับโลก และทำให้ “สิงห์” แบรนด์ไทยหนึ่งเดียวนี้ได้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
นอกจากนี้แล้วในรายการแข่งขัน “Ferrari Challenge Trofeo Pirelli ในปี 2013 – 2015 ซึ่งเป็นการแข่งขันซูเปอร์คาร์แบบวันแมคเรซ ระดับใหญ่ที่สุดของเฟอร์รารี่ “สิงห์” ไม่พลาดที่จะเข้าร่วมเป็นหนึ่งในสปอนเซอร์ด้วย.โดยในการแข่งขันครั้งนั้นมีการจัดแข่งกันถึง 23 สนาม ใน 3 ทวีป คือ อเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชียแปซิฟิค ซึ่งรถเฟอร์รารี่ที่ร่วมการแข่งขันกว่า 90 คัน มี “โลโก้สิงห์” ติดอยู่บนกระจกด้านหน้า และ หลังคาด้านหลัง สิงห์ กลายเป็นแบรนด์ที่ติดตา และถูกพูดถึงอย่างรวดเร็วทั้งในวงการความเร็วและทั่วไป
ภาพของโลโก้สิงห์ ที่ถ่ายทอดสดออกไปทั่วโลก ตอกย้ำกับคำพูดของ วรวุฒิ ภิรมย์ภักดี รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ได้เคยกล่าวให้สัมภาษณ์ว่า “การร่วมมือกันกับ Ferrari จะทำให้ สิงห์ จะก้าวสู่แบรนด์ระดับโลกในไม่ช้า”
“ไม่เพียงแค่กีฬาความเร็วเท่านั้น แต่ “สิงห์” มองไปที่กีฬาทุกประเภท ที่มีโอกาสสร้างแบรนด์สิงห์ให้แจ้งเกิด”
“ฟุตบอล” กีฬาลูกผู้ชาย กลายเป็นจิ๊กซอ อีกชิ้นที่สำคัญในการสร้างแบรนด์ในมุมของ “สิงห์”
ถ้ายังจำกันได้ “สิงห์” เคยเป็นผู้สนับสนุนด้านเบียร์ให้แก่สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด โดยเมื่อปี 2553 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด สนามของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด หรือแมนยู เบียร์สิงห์ ถูกเสิร์ฟครั้งแล้วครั้งเล่าให้กับแฟนผีแดง ธงโลโก้ สิงห์ โพกสะบัดไปทั่วสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด จนถึงปี 2559
ไม่ใช่แค่แมนยูเท่านั้น แต่ “เชลซี” ก็กลายเป็นอีกพันธมิตรสำคัญในการสร้างแบรนด์ โดยในปี 2553 “สิงห์” ได้ผู้สนับสนุน “สิงห์บูล” โดยที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ บ้านของเชลซี ก็มีการเสิร์ฟเบียร์ให้แก่คอบอลจำนวนมหาศาลที่เข้ามาชมการแข่งขัน และในปี 2557 แบรนด์เบียร์ กับสโมสรฟุตบอลดังนี้ ก็ได้ร่วมกันจัด Singha-Chelsea FC Football League 2014 โดยแข่งขันกันที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ประเทศอังกฤษ
เหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ที่ย้ำให้เห็นว่า “กีฬา” คือ หัวใจสำคัญของ “สิงห์” ในการสร้างแบรนด์ให้ดังไปไกลระดับโลกให้ได้ ตามเป้าหมายของ “สันติ ภิรมย์ภักดี” นายใหญ่แห่งบุญรอดฯ ที่หมายมั่นต้องการปั้นแบรนด์ “สิงห์” ให้เป็นโกลบอลแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับอย่างแท้จริง
เชิญร่วมสัมผัส และติดตามบิ๊กอีเว้นต์แข่งรถระดับโลก MotoGP™ 2018 ได้ที่ https://www.facebook.com/SinghaMotorsport/ หรือทาง http://www.singhaworldofspeed.com/