HomeDigitalGoogle ปรับนโยบาย เลิกแอบอ่านอีเมลเพื่อเอาไปเป็น Target ยิงโฆษณา

Google ปรับนโยบาย เลิกแอบอ่านอีเมลเพื่อเอาไปเป็น Target ยิงโฆษณา

แชร์ :

 

Google เป็นบริษัทหนึ่งในโลกที่กุมข้อมูลต่างๆ ของผู้ใช้อินเทอร์น็ตไว้มากมาย และเปลี่ยนมันให้กลายเป็นข้อมูลสำหรับการทำโฆษณาเพื่อสร้างรายได้ให้กับบริษัท หนึ่งในวิธีการที่ Google ทำคือการแอบอ่านอีเมลในแอคเคาท์ Gmail ของพวกเรานั่นเอง เมื่อ Google รู้ว่าวันๆ เราติดต่อสื่อสารหรือคุยอะไรกับใครบ้าง Google จะรู้ว่าเราเป็นคนยังไง สนใจอะไร และยิงโฆษณามาหาเราทางอีเมลต่อไป ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่เคยมีการถกเถียงกันหลายครั้งถึงความเหมาะสมในแง่ของความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล ตอนนี้มีการประกาศออกมาแล้ว Google จะเลิกใช้วิธีนี้ โดยเป็นการลงความเห็นร่วมกันของกลุ่มบริษัทในเครือ

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

Alphabet Inc. บริษัทใหญ่ที่บริหาร Google ขายสิ่งที่เรียกว่า G Suit ซึ่งก็คือซอฟท์แวร์สำหรับใช้ในออฟฟิศเหมือน Microsoft Office ที่เราคุ้นเคยกัน แต่ก็มีเวอร์ชั่นฟรีให้ใช้เช่นกัน ความต่างคือคนที่ใช้แบบพรีเมียมเสียเงินจะไม่ได้รับโฆษณาผ่านอีเมล แต่คนที่ใช้ฟรีจะถูกสแกนอีเมลด้วยระบบที่ Google สร้างขึ้น เพื่อเก็บไว้เป็นข้อมูลต่อไป ทำให้มีข้อสงสัยและกังวลมากมายเกี่ยวกับการทำแบบนี้ ในที่สุดมันก็กำลังจะถูกยกเลิก โดย Diane Greene, Senior VP ของ Google กล่าวว่า “สิ่งที่เรากำลังทำคือทำทุกอย่างให้มันโปร่งใสที่สุด”

 

อย่างไรก็ตามโฆษณาก็จะยังคงตามหลอกหลอนเราใน Gmail เวอร์ชั่นฟรีต่อไป แต่แทนที่จะแอบสแกนอีเมลเรา Google จะใช้วิธีอื่นในการคัดเลือกกลุ่มเป้าหมาย โดยใช้จากข้อมูลอื่นๆ ที่ Google มีในมือมากมายเช่นจากการ Seach และ Youtube หลังจากได้รับแรงกดดันมากมายจากการสแกนอีเมล แต่ก็ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาวิธีการนี้เป็นวิธีการที่นักการตลาดได้ประโยชน์จากมันมากเลยทีเดียว เพราะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบถึงเนื้อถึงตัวและแม่นยำมากๆ

 

ยอนกลับมาที่ตัว Greene เธอเป็นคนที่เรียกว่ามีอิทธิพลมากทีเดียวในทีมบริหารของกลุ่มบริษัทในเครือ Google การมาของเธอในปี 2015 ทำให้บริษัทพุ่งเป้าการผลิตและพัฒนาซอฟท์แวร์เพื่อท้าชนกับ Microsoft และ Amazon อย่างเต็มรูปแบบ เธอกล่าวในบล็อกของเธอเกี่ยวกับเรื่องการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ และบอกข้อมูลเพิ่มเติมว่าตอนนี้ G Suit มีผู้ใช้งานแบบจ่ายเงินกว่า 3 ล้านบริษัททั่วโลก และเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากปีที่แล้ว และรายได้ก็เติบโตขึ้น 49% อยู่ที่ 3.09 พันล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสแรก

 

 Source

 แปลและเรียบเรียงโดย Prim NM

 

 


แชร์ :

You may also like