โลกยุคดิจิทัลทำให้ทุกอย่างดูง่ายได้ดั่งใจ นั่นคือสิ่งที่เราเห็น แต่เบื้องหลังคือ การระดมทุกหนทางเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดและไปต่อได้ เรื่องราวเหล่านี้ถูกนำมาเล่าโดย 4 แบรนด์ดังของ 4 คนดังบนโลกออนไลน์ บนเวที THE PREMIER Success Forum 2017 : BEHIND the PRidE-TITUDE โดยบริการเดอะพรีเมียร์ ธนาคารกสิกรไทย ให้กลุ่มคนฟังที่เป็นคนรุ่นใหม่ได้รู้เป็นแนวทาง เป็นแนวคิด เป็นแรงบันดาลใจว่า การปั้น 1 แบรนด์บนโลกดิจิทัล ต้องก้าวข้ามผ่านอะไรกันมาบ้าง
“ทำตัวให้เล็ก ทำในสิ่งที่เชื่อ สร้างความสุข”
ทรงกลด บางยี่ขัน ผู้ก่อตั้งและบรรณาธิการบริหาร The Cloud ให้มุมมองในฐานะสื่อมวลชนที่สร้างสรรค์เนื้อหาทั้งสื่อออฟไลน์และออนไลน์ว่า “สื่อควรทำตัวให้เล็กแล้วสร้างคอนเทนท์ให้ใหญ่กว่าตัวเอง ผมเชื่อว่าการทำเรื่องเล่าที่ดี จะสร้างความหมายให้กับคนอื่น ทำเว็บไซต์ไม่ต้องเร็ว ไม่ต้องรีบ ทำงานประณีตก็ได้ ผมเชื่อว่า เราควรทำคอนเทนท์ที่มีความหมายกับผู้อ่าน และให้คอนเทนท์ที่ดีพาตัวเลขที่ดีมาหาเรา ในมุมการใช้ชีวิต ผมเคยคิดว่าดัชนีชี้วัดการทำงานคือต้องทำงานหนัก แต่ผมก็ได้เรียนรู้ว่า ผมจะไม่ทุ่มสุดแรง แต่จะออมแรงเก็บคนไว้สำหรับงานต่อไป เพราะที่จริงแล้ว ชีวิตยังมีอีกหลายศึกและหลายสิ่งที่เราต้องใช้พลังสู้ต่อไป เราควรออมแรงทั้งของเราและของทีม รู้จักใส่ใจตัวเองและคนรอบข้างให้มากขึ้น เมื่อชีวิตเรามีความสุข เราจะส่งต่อความสุขและสามารถพัฒนาเป็นงานที่ดีต่อไปได้ และเป็นที่มาของการยึดหลักชีวิตว่า “ทำตัวให้เล็ก ทำในสิ่งที่เชื่อ สร้างความสุข”
“ริเริ่ม เปลี่ยนโลก สำเร็จ”
ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง Ookbee แอปพลิเคชั่นสื่อออนไลน์ ให้มุมมองการทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ว่า
“ผมเชื่อว่าอีกไม่เกิน 5 ปีถัดจากนี้ เราจะเห็นภาพเกี่ยวกับการทำธุรกิจแบบนี้ชัดเจนขึ้น ส่วน Ookbee ก็กำลังพยายามขยายธุรกิจไปยังประเทศอื่นๆ และการทำสื่อประเภทอื่นๆ ด้วย ผมกับทีมพยายามคิดหาไอเดียใหม่ๆ ให้ตอบโจทย์พฤติกรรมของคนในยุคนี้ เพราะถือหลักว่า มีไอเดียต้องลงมือทำ สมัยนี้ต้นทุนด้านเทคโนโลยีถูกกว่าสมัยก่อนมาก ถึงจะเริ่มแล้วล้มก็ไม่เป็นไร ผมเองก็มีหลายไอเดียกว่าจะมาลงตัวที่การทำอีบุ๊ก เคยเจ๊งไปร้อยกว่าล้าน แต่ทุกครั้งที่ลงมือทำจะกำหนดขอบเขตว่ายอมรับได้ที่เท่าไหร่ หยุดถ้าไปต่อไม่ไหว และมองหาโอกาสใหม่ๆ เพราะทุกวันนี้โลกเปลี่ยนและหมุนเร็ว ผมเรียนรู้จากการทำธุรกิจนี้ว่า บางอย่างไม่ต้องเพอร์เฟกต์ทั้งหมด เพราะเราสามารถเอาฟีดแบ็กมาปรับและพัฒนา การทำอะไรบางครั้งไม่สำเร็จไม่เป็นไร เพราะอย่างน้อยเราได้เรียนรู้”
“เชื่อมั่น ลงมือทำ ทะลุเป้าหมาย”
รรินทร์ ทองมา เจ้าของแบรนด์รองเท้าและกระเป๋า O&B เธอคือหญิงสาวตัวเล็กๆ ที่สร้างปรากฎการณ์รองเท้าบัลเล่ย์หนังแกะ 50 สี จนกลายเป็นรองแท้ Signature ที่สาวๆ อยากจะมีให้ครบทุกสี และพาธุรกิจก้าวทะยานสู่หลักรายได้หลายร้อยล้านบาทต่อปี
“ตอนที่เริ่มคิดจะทำอะไรเป็นของตัวเอง ดิฉันถามตัวเองว่าถ้าอายุ 50 แล้ว ยังไม่ได้ทำอะไรแล้วจะเสียใจที่สุด ตอบได้ทันทีคือ การมีแบรนด์แฟชั่นเป็นของตัวเอง พอคิดได้ก็ลงมือทำทันที ดิฉันไม่ได้มีต้นทุนชีวิตอะไรมาเลยจึงไม่มีคอมฟอร์ทโซน (Comfort Zone) เริ่มต้นธุรกิจด้วยเงิน 90,000 บาท ช่วงแรกๆ เริ่มจากแค่ความชอบ ทำให้ผิดพลาดไปหลายอย่างมาก จนได้มาเรียนรู้ว่า สิ่งสำคัญในการทำธุรกิจคือ การบริหารจัดการ ทั้งจัดการคน ระบบบัญชี บริหารสต็อค บริหารการดูแลลูกค้า และอื่นๆ พอเริ่มลงตัวก็มาคิดต่อยอด พัฒนาให้ทันกับกระแสโลก ยุคนี้ไม่ใช่ยุคที่แข่งกันที่ความใหญ่เล็ก หรือทุนหนา แต่แข่งกันที่ไอเดียธุรกิจและการสื่อสารในโลกออนไลน์ ตั้งเป้าหมายกับตัวเอง และกับทีมว่า เราจะพัฒนาแบรนด์ให้เติบโตที่สุดเท่าที่คิดว่าจะทำได้ แล้วมุ่งมั่นไปตามนั้น อยากให้ O&B เป็นแบรนด์รองเท้าบัลเลต์ที่ดีที่สุดในโลก เป็นแบรนด์รองเท้าที่ต่างชาติมาไทยแล้วต้องนึกถึง ต้องซื้อกลับไปเป็นของฝาก ”
“กล้า เชื่อมั่น คิดแล้วทำ”
ยอด ชินสุภัคกุล ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น “วงในดอทคอม” (wongnai.com) เขาเล่าให้ฟังว่า หลังจากที่เรียนจบปริญญาโท MBA จาก UCLA Anderson เมื่อปี 2553 จึงรวบรวมเพื่อนพ้อง 4 คนระดมสมอง เปิดเว็บไซต์ wongnai.com ซึ่งแนวคิดในการเปิดเว็บไซต์ เขายึดแนวทางจาก เว็บไซต์ YELP.COM ซึ่งเป็นเว็บรวบรวมร้านอาหาร ในประเทศสหรัฐอเมริกา
“ในช่วง 2 ปีแรกที่ทำเว็บไซต์ wongnai เคยรู้สึกท้อแท้ เพราะมีจำนวนคนที่ใช้และรายได้ที่เข้ามาน้อยมาก เว็บไซต์ก็ยังหน้าตาไม่ดีอีก แต่ค่อยๆ ปรับและพัฒนาต่อมาจนสำเร็จ จนพอธุรกิจเราโตขึ้น สร้างกำไรมากขึ้น ก็ยังมีเรื่องให้คิดมากอีกอยู่ดี โดยเฉพาะปัญหาในการบริหารจัดการ การทำงานต้องมีเป้าหมาย คอยวัดผลงานอยู่ตลอดเวลา และไม่สนใจคู่แข่ง มุ่งหน้าทำหนึ่งสิ่งที่มีเป้าหมาย เพราะเชื่อว่าเราควรเป็นคนนำก่อนที่โลกจะตามทัน เปิดหูเปิดตาให้กว้าง มีโอกาสแล้วรีบลงมือทำ ถ้าช้าเราจะกลายเป็นผู้ตามทันที”
ยอด ชินสุภัคกุล