ในระยะหลังธุรกิจ Retail แข่งขันกันสูง ไม่ว่าเป็นห้างสรรพสินค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ ผลักดันให้เกิดการจ้างงานในธุรกิจบริการเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจลักษณะนี้ที่ต้องการพนักงานดูแลหน้าร้านตั้งแต่ 10.00-22.00 น. เป็นประจำทุกวัน ยังไม่นับการจัดเรียงสินค้าก่อน-หลังห้างสรรพสินค้า อีกทั้งประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมากขึ้นทุกที ดังนั้น IKEA(อิเกีย) ซึ่งกำลังจะเปิดสโตร์แห่งใหม่ ตามแผนกำหนดการต้นปี 2018 จึงต้องเปิดรับสมัครงานพาร์ทไทม์กว่า 250 ตำแหน่ง หลังจากรับสมัครงานประจำ 80 ตำแหน่งไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยระบุชัด “ไม่จัดอายุ วุฒิการศึกษา และประสบการณ์การทำงาน”
ด้วยนโยบายของ “อิเกีย” ที่เชื่อว่าเปิดกว้างโอกาสให้กับคนในท้องถิ่นที่อิเกียเข้าไปดำเนินงาน กฎเกณฑ์การรับสมัครงานขององค์กรแห่งนี้ จึงมุ่งเน้นพิจารณา 3 องค์ประกอบสำคัญในการคัดเลือกพนักงาน
1.ทัศนคติที่สอดคล้องกับค่านิยมทั้ง 10 ประการของอิเกีย
2.รักการแต่งบ้าน
3.รักงานบริการ
โดยในวันที่ 20-23 กรกฎาคมนี้ อิเกีย เปิดรับพนักงาน 250 ตำแหน่ง ในแผนก พนักงานขาย, ลูกค้าสัมพันธ์, ปฏิบัติการสายธุรกิจ, สื่อสารและตกแต่งภายใน, อาหาร และโลจิสติกส์ คาดว่าจะมีผู้สมัครมากกว่า 3,000 คน ก่อนหน้านี้ในเดือนมกราคม อิเกียรับสมัครพนักงานประจำเพียง 80 อัตรา แต่ก็มีผู้ให้ความสนใจมาสมัครถึง 1,500 คน ซึ่งทางอิเกียคาดหวังว่านอกเหนือจากจำนวนผู้ที่ให้ความสนใจจำนวนมากแล้ว จะยังได้พนักงานที่มีคุณสมบัติตรงตามความต้องการขององค์กร
คุณศิระวีรย์ เนื่องศรี Deputy Store Manager สาขา อิเกีย บางใหญ่ กล่าวถึงประเด็นที่น่าสนใจในตลาดแรงงานพาร์ทไทม์เอาไว้ว่า “ที่ผ่านมาเราคัดเลือกโดยมีการสัมภาษณ์กลุ่ม เพื่อพูดคุยว่าตัวตนของผู้สมัครตรงกับค่านิยมของเราไหม ดังนั้นจึงมักจะได้พนักงานที่มีความความชื่นชอบแต่งบ้าน และมีใจรักบริการอยู่แล้ว จุดแข็งของเราก็คือ ค่าตอบแทนชั่วโมงละ 64 บาท ซึ่งถือว่า competitive เมื่อเทียบกับตลาดในตอนนี้ แต่สิ่งที่เราให้มากกว่าก็คือสวัสดิการที่เทียบเท่ากับพนักงานประจำเลย ดังนั้นก็จะมีผู้ที่ให้ความสนใจค่อนข้างมาก สำหรับจุดที่จะต้องเพิ่มเติมสำหรับพนักงานก็คงจะเป็นเรื่องภาษาอังกฤษ เพราะองค์กรเราเป็นองค์กรข้ามชาติ บางครั้งหัวหน้างาน พนักงานในบางส่วน หรือ Store Manager ของเราเป็นชาวต่างชาติ และเมื่อองค์กรของเรามีความหลากหลาย มีโอกาสที่จะเติบโตในสายงานอื่นๆ หรือแม้แต่ในสาขาต่างประเทศ การสื่อสารก็เป็นเรื่องสำคัญ อย่างไรก็ตามเรามีคลาสสินภาษาอังกฤษ และการได้ทำงานร่วมกันก็เป็นการฝึกไปในตัว”
การรับสมัครในตำแหน่งพาร์ทไทม์ของอิเกีย มีความยืดหยุ่นในแง่เวลาทำงาน ขอเพียงอาทิตย์หนึ่งมีเวลาทำงานรวม 12 ชั่วโมง โดยสามารถแจ้งวัน เวลาที่สะดวกกับหัวหน้างานได้ ที่ผ่านมาเคยมีนักศึกษาที่ร่วมงานพาร์ทไทม์กับอิเกีย ตั้งแต่เพิ่งจบชั้นมัธยมปีที่ 6 กระทั่งปัจจุบันศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 แล้ว อีกทั้งยังมีผู้สูงอายุ ที่ตอนนี้สถิติสูงสุดอยู่ที่ 63 ปี ถึง 2 ท่าน ทำงานในแผนกคลังสินค้า และอาหาร โดยคุณลุงที่ทำงานคลังสินค้า ก็เริ่มต้นจากพนักงานพาร์ทไทม์ จนกระทั่งตอนนี้ได้เป็นพนักงานประจำแล้ว นอกจากนี้ยังมีพนักงานวัยเกิน 55 ปี อยู่อีกถึง 9 ท่าน ที่สาขาบางนา
คุณศิระวีรย์ เล่าถึงพนักงานสูงอายุว่า “หลายคนอาจจะคิดว่าผู้สูงอายุอาจจะ Low Tech หรือว่าเรียนรู้ช้า ใช่ไหม แต่เพราะการคัดเลือกของเรา เราคัดเลือกบุคลากรที่รักการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ดังนั้นคุณลุงอายุ 63 ปี ที่อยู่กับเราตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว เขายังรักการเรียนรู้อยู่ เวลาให้เรียนรู้งานในแผนกอื่น ก็มีความกระตือรือร้น มีความยินดีที่จะเข้าไปเรียน”
แนวโน้มการรับผู้สูงอายุเข้าทำงานเป็นกระแสที่เกิดขึ้นทั่วโลก อิเกียที่ประเทศอื่นๆ ก็มีนโยบายในแนวทางนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศพัฒนาแล้ว ถ้าหากเทียบกับประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น สิงคโปร์ ก็มีผู้สูงอายุเข้าร่วมงานด้วยจำนวนมาก