HomePR News“เซ็นทรัล เอ็มบาสซี” และ “เซ็นทรัลชิดลม” จัด 3 งานใหญ่ ตอกย้ำจุดหมายปลายทางความอร่อย [PR]

“เซ็นทรัล เอ็มบาสซี” และ “เซ็นทรัลชิดลม” จัด 3 งานใหญ่ ตอกย้ำจุดหมายปลายทางความอร่อย [PR]

แชร์ :

ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี และห้างเซ็นทรัลชิดลม หนึ่งในย่านCentral Bangkok” ผนึกพลังปักหมุด  Food Destination”(ฟู้ดเดสทิเนชั่น) ของคนกรุงเทพฯ และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก จัด 3 งานใหญ่ ได้แก่  “The World on a plate” (เดอะ เวิลด์ ออน อะ เพลต) ณ ชั้น 5 และชั้น 6 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี, “ครบเครื่องครัว ๔ ภาค คราที่ ๒Eathai (อีทไทย) ชั้น LG ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี และ A World Of Desserts” (อะ เวิลด์ ออฟ ดีเซิร์ท)FoodLoft (ฟู้ดลอฟท์) ชั้น 7 ห้างเซ็นทรัล ชิดลม จุดบรรจบครบทุกความอร่อย ส่วนหนึ่งของเทศกาล Tastes of The World @ Central Bangkok” (เทสต์ ออฟ เดอะ เวิลด์ แอท เซ็นทรัล แบงค็อก) ระดมร้านดังจากทุกมุมโลก โดยคัดสรรเมนูสุดพิเศษ ชวนอร่อย จัดเต็มสีสันความบันเทิง พร้อมโปรโมชั่นพิเศษมากมาย ระหว่างวันที่ 13-31 ก.ค. 60

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

บรม พิจารณ์จิตร กรรมการผู้จัดการ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี เปิดเผยว่า “เซ็นทรัล เอ็มบาสซี และ เซ็นทรัล ชิดลม คือ ศูนย์กลางของทุกสิ่งที่ทำให้รู้สึกได้ถึงรสนิยมและไลฟ์สไตล์อันโดดเด่น ตอบโจทย์ความต้องการในการใช้ชีวิตทุกรูปแบบ และเพื่อตอกย้ำหนึ่งในความโดดเด่น ในฐานะแหล่งรวมร้านอาหารชั้นนำระดับโลก

การจัดงานครั้งนี้ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี และเซ็นทรัลชิดลม ใช้งบกว่า 10 ล้านบาท ในการจัด 3 งาน โดยความพิเศษที่จะเกิดขึ้น เริ่มที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ผนึกกำลัง 42 ร้านอาหารชั้นนำระดับโลกภายในศูนย์การค้าฯ จัด “เดอะ เวิลด์ ออน อะ เพลต” (The World on a Plate) ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Eating is a big Thing’ ระหว่างวันที่ 13-23 ก.ค. 60 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมภายใต้แคมเปญ “This brings me here” ที่นำพาให้ลูกค้าและเหล่านักชิมทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสอีกหนึ่งประสบการณ์ความอร่อย โดยที่บริเวณชั้น 5 พบสูตรลับเมนูเด่นจาก 10 ร้านดัง อาทิ Another Hound Café (อนาเธอร์ฮาวด์ คาเฟ่), Bao and Buns (เบา แอนด์ บันส์), Broccoli Revolution (บรอกโคลี่ เรฟโวลูชั่น), Egg My God (เอ้ก มาย ก็อด), Chikalicious Dessert Bar (ชิกาลิเชียส ดีเซิร์ท บาร์), SIWILAI Café (ศิวิไล คาเฟ่), Somtamnua (ส้มตำนัว), The Girl & The Pig (เดอะ เกิร์ล แอนด์ เดอะ พิค), The Meat Bar (เดอะ มีท บาร์) และ Rico (ริโค่) พร้อมชมนิทรรศการที่ให้ข้อมูลของอาหารชนิดต่างๆ ที่เรารับประทานในแต่ละวัน อีกทั้งเพลิดเพลินกับเมนูเด็ดจาก 20 บูธร้านดัง ที่จัดให้ชิมและช้อปอย่างจุใจ ไม่เพียงเท่านั้น ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตลอดเทศกาล ยังมีกิจกรรมชวนทำบุญร่วมกับ ดาราวัยรุ่นจากซีรี่ส์ฮอต ที่จะมาร่วมปรุงอาหารกับเชฟชื่อดัง ให้ลูกค้าและแฟนคลับได้ชิมและร่วมกันบริจาคเงินสมทบทุน มูลนิธิ เตียง จิราธิวัฒน์ เพื่อนำไปบริจาคให้กับองค์กรหรือมูลนิธิ ที่ให้ความช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสหรือขาดแคลนอาหารต่อไป”

นอกจากนี้ ที่ โอเพ่น เฮ้าส์ (Open House) Co-living space ชั้น 6 เซ็นทรัล เอ็มบาสซี พื้นที่สร้างสรรค์ใจกลางกรุงเทพฯ ที่รวบรวมความอร่อยจากร้านอาหารหลากสไตล์และร้านอาหารที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ และร้านคอนเซ็ปต์ใหม่ๆ มาอยู่ที่นี่ อาทิ Peppina (เพ็พพิน่า), Mövenpick Ice-Cream (โมเวนพิค ไอศกรีม), Muteki by Mugendai (มูเทกิ บาย มูเก็นได), PARIS MIKI (ปารีส มิกกิ), The Casks (เดอะ แคส), The Raw Bar (เดอะ รอว์ บาร์) เป็นต้น ยังเตรียมกิจกรรม Your Delicious Moment! ไว้เซอร์ไพรส์สำหรับทุกท่านที่มารับประทานอาหาร โดยจะได้พบกับสองนักแสดงหนุ่มหล่อจากซีรี่ย์ดัง ไอซ์ซึ-ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์ ในวันเสาร์ที่ 15 ก.ค. 60 และ ทอย-ปฐมพงศ์ เรือนใจดี ในวันเสาร์ที่ 22 ก.ค. 60 จะมาสวมบทช่างภาพกิตติมศักดิ์เพื่อมาสแนปภาพเหล่านักชิม พร้อมใส่กรอบเก๋ๆ ให้ เพื่อมอบเป็นที่ระลึก และในช่วงเวลาสุดพิเศษนี้ ทุกร้านในศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ยังได้จับมือกันมอบโปรโมชั่นพิเศษหลากหลายให้ลูกค้าได้มีความสุขกับการรับประทานอาหารอีกด้วย

 พิเศษ ตลอดเทศกาล พบกับโปรโมชั่นพิเศษจากร้านอาหารชั้นนำมากมายภายในศูนย์การค้าฯ ที่ร่วมรายการ เมื่อรับประทานอาหารครบทุก 1,000 บาท จะได้รับสิทธิ์ร่วมสนุก โดยนำใบเสร็จมาแสดง เพื่อเล่น Fruit Machine ลุ้นรับรางวัลมากมาย โดย 1 ใบเสร็จรับสิทธิ์สูงสุด ไม่เกิน 3 ครั้ง/คน/วัน

ในส่วนของEathai” (อีทไทย) ชวนอร่อยกับเทศกาลอาหารพื้นบ้านทั่วไทย จาก 4 ภูมิภาค กับงาน “ครบเครื่องครัว ๔ ภาค คราที่ ๒ระหว่างวันที่ 21-31 ก.ค. 60 ที่รวบรวมของอร่อยต้นตำรับ จากทุกภาคมาเสิร์ฟความอร่อยถึงใจกลางเมือง เริ่มกันที่ภาคเหนือ ลำแต้ อิ่มขนาด ของกิ๋นถิ่นล้านนาจาก ครัวป้าตา เชียงใหม่ ยกเมนูพื้นบ้านจากภาคเหนือมาให้อร่อยกัน กับ ไข่ป่าม การเจียวไข่บนใบตองโดยไม่ใช้น้ำมัน เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านเพื่อความสะดวกในการทำอาหารระหว่างไปทำไร่ทำนา,  ลาบหมูคั่ว ปรุงด้วยสมุนไพรที่มีกลิ่นแรง และคลุกเคล้ากับเลือดสด (ลาบดิบ) และทานแบบสุกเรียก ลาบคั่ว, เห็ดเผาะน้ำพริกข่า ความพิเศษคือเห็ดเผาะเป็นเห็ด ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ในต้นฤดูฝน ไม่สามารถเพาะได้ นิยมทานคู่กับน้ำพริกข่า (พริกตำกับข่าสด), จิ้นส้มหมกไข่ คือแหนมที่ผ่านการหมกจนทำให้แหนมสุก ลดความเปรี้ยวด้วยการเติมไข่และนำไปปิ้งบนใบตอง, แกงโฮะ ทำมาจากการทำแกงฮังเล นำมาปรุงกับหน่อไม้ดอง วุ้นเส้น และผักต่างๆ, ตำขนุน คือการนำเอาขนุนอ่อนมาตำกับน้ำพริกแกง แล้วนำไปผัด เป็นเมนูที่นิยมรับประทานในช่วงวันสงกรานต์ หรือวันปากปี เพื่อเป็นสิริมงคล และอีกหนึ่งเมนูหารับประทานยาก อย่างข้าวแรมฟืนทอด อาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อของ จ.เชียงราย ที่หากใครได้ลองเป็นต้องติดใจ ถัดมากับภาคใต้ ชวนมาหรอยอย่างแรง กับเครื่องแกงรสจัดจ้านจาก ร้าน ณ ฉลอง ทั้งกุ้งผัดพริกแกงสะตอ, แกงส้มปลากระพงยอดมะพร้าวอ่อน ที่พริกแกงตำสดตามแบบฉบับเฉพาะของภาคใต้, ใบเหลียงผัดไข่, ขนมจีนน้ำยาปูใบชะพลู, ผัด 3 เกลอ, สะโพกไก่ทอดขมิ้น, เนื้อย่างแกงคั่ว เป็นต้น ต่อด้วยความอร่อยกับเมนูเด็ดจากภาคกลาง กับ

ร้านข้าวแกงชื่อดัง ครัวอัปสร ที่ยกเมนูยอดนิยมห้ามพลาด อาทิ แกงเผ็ดเป็ดย่าง, แกงมัสมั่น, แกงเขียวหวานเนื้อ มาเสิร์ฟให้รับประทานกันถึงที่ ปิดท้ายที่ ภาคอีสานชวนมาเทิงแซ่บเทิงนัว รสอีสานบ้านเฮา กับส้มตำสุดแซ่บหลากหลายเมนู อาทิ ส้มตำสี่ภาค, ส้มตำถาด, ไก่บ้านย่าง และเมนูแซ่บๆ อีกมากมาย

พร้อมเพลินเพลินกับสินค้าหัตถกรรมและของที่ระลึก สินค้าท้องถิ่นพื้นบ้านจากทั่วภูมิภาคทั่วไทย อาทิหัตถกรรมของฝากจากแม่ฮ่องสอน, ป๊อบคอร์นไทยใหญ่ ที่ทำจากข้าวโพดข้าวเหนียวจากคนในท้องถิ่น มาแปรรูปเป็นข้าวโพดคั่วเกลือ ทำให้มีความกรอบ อร่อย ไม่เหมือนใครและเต็มไปด้วยคุณค่าทางอาหารมากมาย, ผ้ากะเหรี่ยงแม่ฮ่องสอน เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีมาแต่โบราณของชาวกะเหรี่ยงปากะญอ ใช้สีย้อมจากธรรมชาติและการสร้างลวดลายจากการปักด้วยเส้นไหมและลูกเดือย สวยงามเป็นเอกลักษณ์ ต่างจากผ้าทออื่นๆ ทั่วไป, สบู่ภูโคลน ณ ภูโคลน จ.แม่ฮ่องสอน สถานที่ที่มีน้ำแร่และโคลนธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติบำบัดผิวเทียบเท่าโคลนจากทะเลสาบ Dead Sea หรือโคลนลาวาภูเขาไฟซึ่งพบได้เพียงไม่กี่แห่งในโลก พร้อมกลิ่นหอมที่สร้างความผ่อนคลาย หรือจะช้อปเพลินกับสินค้าหัตถกรรมจากภาคใต้ อาทิ ผ้าทอจากโครงการผ้าทอ ซาโอริ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเยียวยาจิตใจผู้ประสบภัยมหันตภัยสึนามิ ในพื้นที่เขตอำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา โดยได้รับการสนับสนุนจากสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และมีการสนับสนุนไปในกลุ่มผู้ต้องขังหญิง รวมทั้งถ่ายทอดการ

ทอผ้านี้ไปในโรงเรียนภายในจังหวัดภูเก็ตอีกด้วย  และชวนช้อปปิ้งสินค้าของดีจาก 4 ภาคที่ตลาดอีทไทย (Eathai Market) นอกจากนี้ชวนเพลิดเพลินกับการแสดงรำ 4 ภาค, กิจกรรมเวิร์กช็อปแบบไทยๆ 4 ภาค ในวันเสาร์-อาทิตย์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และเรียนทำอาหารไทยทุกวันที่อิษยา คุกกิ้งสตูดิโอ (Issaya Cooking Studio) พร้อมมอบข้อเสนอพิเศษให้แก่ลูกค้ามากมาย ระหว่างวันที่ 21-31 ก.ค. 60 ที่ Eathai ชั้น LG เซ็นทรัล เอ็มบาสซี

สุดท้ายคือที่ ห้างเซ็นทรัลชิดลม ความพิเศษจะเกิดขึ้นที่ “FoodLoft” ฟู้ดลอฟท์ ชั้น 7 ห้างเซ็นทรัล ชิดลม แหล่งรวมร้านอาหารนานาชาติของเมืองไทย ซึ่งจะจัดงาน อะ เวิลด์ ออฟ ดีเซิร์ท (A World Of Desserts) ระหว่างวันที่ 21 – 31 ก.ค. 60 รวบรวมขนมหวานนานาชาติแสนอร่อยจากร้านดังมากมาย อาทิ ไอศกรีมนมท๊อปด้วยรังผึ้งออร์แกนิกจากแคลิฟอร์เนีย จากร้าน Honeymee, ไอศกรีมชาเขียวและชาโคล พร้อมโมจิหยดน้ำ จากร้าน Kyo Roll En, ซาลาเปาลาวา จากร้านซาลาเปาซั่งไห่, ขนมเค้กแสนอร่อย จากร้าน Vanilla Prince cafe สำหรับคนชอบพุดดิ้งในเนื้อเค้กสไตล์อังกฤษ และขนมทาร์ตพลาดไม่ได้กับร้าน Yellow spoon และพบกิจกรรมแสนสนุก ทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ อาทิ การแสดงดนตรีสด, กิจกรรมสำหรับคุณหนูๆ และรับสิทธิ์ลุ้นรับของรางวัลพิเศษจากร้านค้า พร้อมมอบข้อเสนอพิเศษให้แก่ลูกค้ามากมาย  อาทิ บัตร Central The 1 รับส่วนลดสูงสุด 5% พร้อมรับคะแนนเดอะวันคาร์ด สูงสุด x4 หรือใช้คะแนน เดอะวันคาร์ด 50 คะแนน  เพื่อรับส่วนลด 10% รวมถึงสิทธิพิเศษจากบัตรอื่นๆ ที่ร่วมรายการ

ขอเชิญสัมผัสประสบการณ์ความอร่อย สุดประทับใจ กับเมนูคัดสรร ร้านดังจากทุกมุมโลก พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ ตลอดจนกิจกรรมที่น่าสนใจ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี และห้างเซ็นทรัลชิดลม ระหว่างวันที่ 13 – 31 ก.ค. 60 ตั้งแต่เวลา 10:00-21:00 น.


แชร์ :

You may also like