HomeInsightช็อกโลก! “นอร์เวย์” ปิด “วิทยุ FM” และเปลี่ยนไปใช้ “วิทยุดิจิตอล” ประเทศแรกของโลก

ช็อกโลก! “นอร์เวย์” ปิด “วิทยุ FM” และเปลี่ยนไปใช้ “วิทยุดิจิตอล” ประเทศแรกของโลก

แชร์ :

resize-shutterstock_384517537

แต่ไหนแต่ไรคนทั่วโลกคุ้นเคยกับการฟังวิทยุ ผ่านคลื่นความถี่ระบบ “FM” มานาน แต่แล้วล่าสุดได้เกิดปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ เมื่อ “นอร์เวย์” เป็นประเทศแรกของโลกที่ประกาศทยอยปิดคลื่นวิทยุ “ระบบ FM” ทั่วประเทศ และเปลี่ยนไปใช้ “วิทยุดิจิตอล” หรือที่เรียกว่า “DAB” (Digital Audio Broadcasting) โดยจะดำเนินการให้เสร็จภายในปี 2017

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

เหตผลสำคัญที่ทำให้รัฐบาลนอร์เวย์ ตัดสินใจยกเลิกวิทยุ FM เนื่องจากสภาพภูมิประเทศของนอร์เวย์ เต็มไปด้วยภูเขาสูงมากมาย และมีอ่าวน้ำลึกที่ยาวและแคบ (Fjord) ทำให้การส่งสัญญาณคลื่นความถี่วิทยุระบบ FM มีต้นทุนการดำเนินงานสูง เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ขณะที่การเปลี่ยนไปใช้ “วิทยุดิจิตอล” หรือ “DAB” ทำให้มีจำนวนช่องสถานีมากขึ้น คุณภาพเสียงดีขึ้น และประหยัดต้นทุนในการกระจายเสียง

รัฐบาลนอร์เวย์ คาดการณ์ว่าการเปลี่ยนระบบออกอากาศมาเป็นดิจิตอล จะทำให้สถานีวิทยุประหยัดต้นทุนดำเนินการกว่า 200 ล้านโครนต่อปี หรือประมาณ 23.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะช่วยทำให้สถานีวิทยุต่างๆ สามารถลดต้นทุนส่วนนี้ และนำไปพัฒนาคอนเทนต์ให้ดียิ่งขึ้น ขณะเดียวกันการเปลี่ยนแปลงของวงการวิทยุในครั้งนี้ จะไม่มีผลกระทบต่อการจ้างงาน และการปิดสถานี

ปัจจุบันนอร์เวย์ มีประชากร 5.2 ล้านคน รัฐบาลคาดว่า 70% ของครัวเรือนในนอร์เวย์ มีวิทยุ DAB แล้ว ขณะที่ในฝั่งสถานีวิทยุ ขณะนี้มี 22 สถานีที่กระจายเสียงในระบบดิจิตอล มีเพียง 5 สถานีที่ยังคงเป็นระบบ FM เพราะก่อนที่รัฐบาลจะยกเลิกใช้ระบบ FM ทั่วประเทศ นอร์เวย์มีโครงการนำระบบ DAB มาแทนระบบ FM มานานแล้ว และเริ่มใช้ครั้งแรกในปี 1995 แต่ที่ผ่านมายังคงเป็นการใช้คู่ไปกับระบบ FM

อย่างไรก็ตาม หลังจากรัฐบาลทยอยปิดคลื่นความถี่ FM ทั่วประเทศ ได้มีผลสำรวจออกมาพบว่า ชาวนอร์เวย์ 66% ไม่เห็นด้วยต่อการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ เพราะมองว่าต้องซื้อวิทยุเครื่องใหม่ ต้องซื้อวิทยุเครื่องใหม่ หรือซื้อ DAB Adapters อีกทั้งปัจจุบันมีรถยนต์ในนอร์เวย์ 2 ล้านคัน ไม่มีเครื่องรับวิทยุระบบ DAB

ทันทีที่นอร์เวย์ประกาศปิดคลื่นความถี่ระบบ FM หลายประเทศในแถบยุโรปต่างเฝ้าจับตามอง เพื่อดูผลการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ โดยสวิตเซอร์แลนด์ มีนโยบายเช่นเดียวกันภายในปี 2020 ขณะที่เดนมาร์ก และสหราชอาณาจักร ยังคงศึกษาและพิจารณาการเปลี่ยนไปสู่ระบบ DAB

dab-radio

Credit : Bloomberg

 

Source

Source

Credit Photo : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand

 


แชร์ :

You may also like