ผลประกอบการของโออิชิ กรุ๊ป (Oishi Group) ประจำปี 2558 มีรายได้จากการขายรวมทั้งสิ้น 12,879 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิรวม บริษัทฯ ได้ผลกำไรสุทธิรวม 712 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% จากปีก่อน โดยรายได้มาจากธุรกิจอาหารจำนวน 6,572 ล้านบาท เติบโตลดลงจากปีที่ผ่านมา 0.5% จาก 6,602 ล้านบาทในปี 2557 ทั้งนี้รายได้แบ่งเป็น ธุรกิจร้านอาหาร 94% และ ธุรกิจอาหารพร้อมรับประทาน 6% เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจและเหตุการณ์ความไม่สงบในกทม.ปัจจัยหลัก แม้ว่าจะอัดแคมเปญต่างๆเสริมแล้วก็ตาม ถึงอย่างไรตลาดอาหารไทยก็ยังเติบโตได้อีกมากมูลค่า 1.5 ล้านล้านบาท
ขณะที่รายได้จากธุรกิจเครื่องดื่มเป็นฮีโร่สำหรับปี 58 แม้ว่าตลาดชาพร้อมดื่มจะมีอัตราการเติบโตคงที่และติดลบในด้านยอดขาย แต่กลุ่มชารสผลไม้มีอัตราการเติบโต ถึง 48% อย่างมีนัยยะสำคัญ พร้อมกับการโฟกัสและปรับพอร์ตสินค้า และรายได้จากการรับจ้างผลิต OEM จนทำให้ปิดมาได้จำนวน 6,307 ล้านบาท เติบโต 9% จาก 5,802 ล้านบาท ในปี 2557 และสัดส่วนตลาดชาพร้อมเขียวพร้อมดื่มขยับขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งของตลาดที่ 45% ขณะที่คู่แข่ง 38% (สิ้นปี 2558)
“วันนี้โออิชิ กรุ๊ป เติบโตอย่างแข็งแกร่ง เราคงยังมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์, แบรนด์ และช่องทางการจัดจำหน่ายและกระจายสินค้า (Route to market) ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น กล่าวคือ ในส่วนธุรกิจอาหาร เราจะเสริมแกร่งแบรนด์ให้ทันสมัยเข้ากับเทรนด์ที่เป็นที่นิยมทั่วโลก (Strengthen Brand) พร้อมยกระดับทุกแบรนด์ในเครือโออิชิให้มีความโดดเด่นและความแตกต่าง สร้างความน่าสนใจแปลกใหม่ให้กับกลุ่มลูกค้า ขณะที่ ธุรกิจเครื่องดื่ม สามารถสร้างผลงานได้ดี ถือเป็นความภาคภูมิใจที่ยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน (Brand Sustainability) แม้ในสภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย หรือแม้แต่ในช่วงที่ไม่มีการทำโปรโมชั่น ยอดขายโออิชิก็ยังคงอยู่ในระดับคงที่และเติบโต ขณะเดียวกันความนิยมของแบรนด์จากการสำรวจล่าสุด โออิชิได้คะแนนในด้านความแข็งแกร่งของแบรนด์ (Brand Health) เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งการสนับสนุนของกลุ่มบริษัทในเครือที่มีศักยภาพแข็งแกร่งทั้งไทยเบฟฯ เสริมสุข และทีมงานทุกฝ่ายในองค์กรที่มีประสิทธิภาพ ส่งเสริมการทำงานเกื้อหนุนกัน จนประสบความสำเร็จทั้งด้านยอดขายและคุณภาพของแบรนด์” มารุต บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าว
เป้าหมายและกลยุทธ์ ปี 2559
ปี 2559 โออิชิกรุ๊ปเตรียมงบลงทุนไว้ราว 1,500 ล้านบาท เพื่อสร้างภาพลักษณ์ผู้นำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่น โดยแบ่งเป็นขยายกำลังการผลิตเครื่องดื่มบรรจุเย็นแบบปลอดเชื้อรายที่ 4 (Cold Aseptic Filling Line 4) 950 ล้านบาท ปรับ/ขยายสาขาร้านอาหาร 390 ร้านบาท และอื่นๆ 160 ล้านบาท พร้อมกับการโฟกัสเรื่อง แบรนด์, นวัตกรรม, การขายและการกระจายสินค้า ควบคู่กันไปนอกเหนือจากการทำโปรโมชั่น เพื่อให้ขยายกลุ่มลูกค้าใหม่และสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งในเชิงคุณภาพ
สำหรับธุรกิจอาหารปี 2559 ตั้งเป้ายอดขายที่ 7,000 ล้านบาท หรือ เติบโตราว 7% โดยแผนการตลาดเริ่มจากการขยายสาขาของร้านอาหารในเครืออีก 30 สาขาภายในประเทศ และในแง่ Product development ออกผลิตภัณฑ์ Packed Food ใหม่ ที่มีข้าวหรือเส้นบะหมี่เป็นส่วนประกอบ รวมไปถึงการขยายไปในรูปแบบ Street Food ทั้งแบบ Food Truck และ ตู้ Kiosk ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ตามเป้าหมายได้ และก้าวสู่เป็น Expert of Japanese Food ภายในปี 2020
สำหรับธุรกิจเครื่องดื่ม ปี 2559 ตั้งเป้ายอดขายที่ 7,000 ล้านบาท เช่นกัน หรือเติบโตราว 11% กลยุทธ์การตลาดสำหรับปีนี้เริ่มจาก1. แคมเปญโปรโมชั่นต้นปีรับหน้าร้อนแจกแมวเนะโกะทองคำ รวมทั้งแคมเปญ 200 ล้านบาท 2. ขยายกลุ่มเป้าหมาย ด้วยชารสผลไม้ ที่จะช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่หรือเพื่มการบริโภคมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 15 ปีขึ้นไป ซึ่งจะใช้ รสองุ่นเคียวโฮ เป็นตัวรุก 3.รุกดิจิตอล จากการใช้งบ 15% ในปีก่อน ปรับเป็น 25% จากงบการตลาดรวม เพื่อสร้าง Engagement กับลูกค้าวัยรุ่น 4.ปรับพอร์ตสินค้า ให้ชัดเจนมากขึ้น ชาเขียว ชาผลไม้ และ กลุ่มฟรุตโตะ เพื่อง่ายต่อการผลิตและการขาย
ทีมผู้บริหาร โออิชิ กรุ๊ป