HomePR News“เซ็นทรัล เอ็มบาสซี” ทุ่มงบ 200 ลบ. สร้างปรากฏการณ์ไลฟ์สไตล์เฟสติวัลครั้งแรกในเอเชีย [PR]

“เซ็นทรัล เอ็มบาสซี” ทุ่มงบ 200 ลบ. สร้างปรากฏการณ์ไลฟ์สไตล์เฟสติวัลครั้งแรกในเอเชีย [PR]

แชร์ :

cnetral embassy

“เซ็นทรัล เอ็มบาสซี” รุกตลาดลักชัวรี่รีเทลโค้งสุดท้ายปลายปี 57 ทุ่มงบ 200 ล้านบาท จัดงาน SIWILAI presents Le Cabinet De Curiosites of Thomas Erber 2014  at Central Embassy กิจกรรมการตลาดระดับเวิลด์คลาสที่ผสานความเป็นไทยในรูปแบบไลฟ์สไตล์เฟสติวัลครั้งแรกแห่งเอเชีย เจาะกลุ่มเป้าหมายทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ มุ่งนำเสนอประสบการณ์ใหม่ระดับสากล เดินหน้ายกระดับประเทศไทยสู่ Destination of Luxury Experience ระดับโลก

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

บรม พิจารณ์จิตร Managing Director ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี (Barom Bhicharnchitr; Managing Director of Central Embassyเจนเนอเรชั่นรุ่นที่ 4 ของตระกูล เซ็นทรัล และผู้ก่อตั้ง ศิวิไล (SIWILAI) คอนเซ็ปต์สโตร์สัญชาติไทย เปิดเผยว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีความโดดเด่นและเป็นศูนย์กลางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่ว่าจะเป็นด้านแฟชั่น วัฒนธรรม โดยเฉพาะด้านอาหาร ที่ได้รับการยอมรับและยกระดับสู่สากล อีกทั้งในปัจจุบันยังได้รับการสนับสนุนจากนโยบายภาครัฐทั้งการพัฒนาด้านคมนาคม การกระตุ้นการลงทุน ฯลฯ ส่งผลให้เป็นที่สนใจจากนักลงทุน และอีกประการหนึ่งคือตั้งแต่มีเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ซึ่งนับเป็นการเปิดตลาดสินค้าและบริการระดับเวิลด์คลาส  (World Class) ในประเทศเป็นครั้งแรก โดยเป้าหมายหลักไม่ใช่เพียงศูนย์การค้าธรรมดาแต่มุ่งหวังให้ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ไอคอนนิครีเทลแลนด์มาร์คแห่งประเทศไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Infinite Connections : ความเชื่อมโยงไม่มีที่สิ้นสุด เป็นศูนย์รวมของสิ่งที่ได้รับการคัดสรรจากทั่วโลก เชื่อมโยงสิ่งที่ดีที่สุดไม่ว่าจะเป็นผู้คน, สังคม, สินค้าแฟชั่น, ร้านอาหาร, ไลฟ์สไตล์, เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ และศิลปวัฒนธรรมเอาไว้ด้วยกัน สร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งรูปแบบใหม่และภาพลักษณ์เมืองไทยสู่ความเป็น Destination of World Class Experience 

“เพื่อสร้างสิ่งแปลกใหม่ให้ภาคธุรกิจรีเทลส่งท้ายปี และแสดงศักยภาพของคนไทยที่นอกจากจะสามารถสร้างศูนย์การค้าระดับลักชัวรี่จนได้รับการยอมรับจากคนทั่วโลก ว่าเป็นเวิลด์คลาสเดสติชั่น ตอกย้ำความตั้งใจในการสร้าง            สิ่งใหม่ๆ ให้กับลูกค้า เซ็นทรัล เอ็มบาสซี และ ศิวิไล จับมือร่วมมอบประสบการณ์ระดับโลกสู่คนไทย ทุ่มงบ 200             ล้านบาท จัดงาน SIWILAI presents Le Cabinet De Curiosites of Thomas Erber 2014 at Central Embassyกิจกรรมการตลาดระดับเวิลด์คลาสที่ผสมผสานความเป็นไทย ในรูปแบบไลฟ์สไตล์เฟสติวัล โดยงานนี้นับเป็นครั้งแรกในเมืองไทยและเอเชีย หลังจากประสบความสำเร็จมาแล้วในปารีส, ลอนดอน, เบอร์ลิน และนิวยอร์ค จนเป็นงานที่รู้จักกันดีทั่วโลก ความพิเศษของงานนี้เป็นการร่วมงานกันครั้งแรกกับ โทมัส เออร์เบอร์(Thomas Erder) ผู้มีชื่อเสียงในด้านศิลปะและแฟชั่น”

SIWILAI presents Le Cabinet De Curiosites of Thomas Erber 2014 at Central Embassy แบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ 1.Exhibition นิทรรศการแสดงผลงานแฟชั่น, เครื่องประดับ, สินค้าไลฟ์สไตล์, ศิลปะ และภาพถ่าย ที่ล้วนเป็นสินค้าลิมิเต็ดอิดิชั่น และถูกดีไซน์โดยหลากศิลปินดังทั้งไทยและต่างประเทศเพื่องานนี้โดยเฉพาะรวมกว่า 70 คอลเลกชั่น 2.ดนตรี เป็นการแสดงดนตรี SIWILAIi Tour พร้อมสนุกสนานไปกับศิลปินระดับโลก อาทิ The Cool Kids ศิลปินฮิพฮอพจากฝั่งอเมริกา, Hot Chip DJ Set เจ้าพ่อเพลงอิเล็คทรอนิคจากลอนดอน เป็นต้น และ 3.อาหาร จะได้ลิ้มรสความอร่อยจากฝีมือของสุดยอดเชฟชื่อดัง ได้แก่ เชฟแบร์ทร็อง เกรอโบต์ (Bertrand Brebaut) ดีกรีระดับมิชลินสตาร์,               เชฟเวอร์จินี่ ลาวัล (Virginie Laval) จากหมู่เกาะกอสิกา ประเทศฝรั่งเศส และ เชฟอนา รอส (Ana Ros) จากสโลวีเนีย โดยเชฟทั้งสามจะออกแบบเมนูอาหารเที่ยงที่ SIWILAI Rocket Coffebar และปรุงอาหารค่ำที่ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ

คุณบรม กล่าวต่อไปว่า “งานครั้งนี้นับเป็นการสะท้อนจุดยืนของ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ถึงความมุ่งมั่นในการเป็น Lifestyle Platform ที่มอบประสบการณ์ใหม่ๆ ระดับโลกให้แก่ลูกค้า โดยงานนี้ยังเป็นการยืนยันจุดยืนของ ศิวิไล ถึงการเป็นคอนเซ็ปต์สโตร์สัญชาติไทย ที่นอกจากจะคัดสรรสินค้าที่ได้รับการออกแบบมาอย่างดีจากดีไซเนอร์แบรนด์ดังจากทั่วโลก และยังมีรายละเอียดในการออกแบบที่สะท้อนให้เห็นถึงความภูมิใจในความเป็นไทย สอดแทรกอยู่ในสินค้าแบรนด์ดังทั่วโลก รวมไปถึงสินค้าจากแบรนด์ไทยที่ถูกดีไซน์ขึ้นเป็นพิเศษเพื่องานนี้ ทั้งหมดที่กล่าวมานี้นับเป็นการนำเสนอความภูมิใจในความเป็นไทยในโปรเจ็คต์ที่มีความเป็นสากลระดับโลก

และเพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มเป้าหมายทั้งคนไทยและต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลก เรายังได้ทำการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารโดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ในส่วนของตลาดต่างประเทศ เรามุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางประชาสัมพันธ์ของ International Press และ International Influencerเนื่องจากโปรเจ็คต์นี้เป็นโปรเจ็คต์             ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากมาแล้วในต่างประเทศ ดังนั้นครั้งนี้เราเชื่อว่า International Press และ International Influencer เนื่องจากโปรเจ็คต์นี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากมาแล้วในต่างประเทศ ดังนั้นครั้งนี้เราเชื่อว่า International Press และ International Influencerจะเป็นกระบอกเสียงทำให้ชาวต่างชาติรู้จัก เซ็นทรัล เอ็มบาสซี และ ศิวิไล มากขึ้น และเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะของการเป็นDestination of World Class Experience

นอกจากนี้เรายังเชื่อมั่นในชิ้นงานที่หลายชิ้นมีเพียงชิ้นเดียว ทุกชิ้นล้วนเป็นลิมิเต็ดอิดิชั่น ที่ถูกดีไซน์ขึ้นเพื่องานนี้โดยเฉพาะ โดยเป็นฝีมือของดีไซเนอร์และศิลปินดังทั้งชาวไทยและต่างชาติ และตัวชิ้นงานนี้จะดึงดูดความสนใจจากทั้งสื่อ และลูกค้าทั้งในไทยและต่างประเทศ

สำหรับในประเทศไทยเอง เหล่าผู้นำทางด้านศิลปะ แฟชั่นต่างๆ ก็ให้ความสนใจ ซึ่ง เซ็นทรัล เอ็มบาสซี และ ศิวิไล ก็มีการประชาสัมพันธ์ผ่านทางสื่อต่างๆ และเชื่อว่าด้วยความสมบูรณ์แบบและความพิเศษของประสบการณ์ระดับโลกที่ให้ไลฟ์สไตล์แบบ new luxury ที่ไม่ได้มีข้อจำกัดแค่สินค้าราคาแพง แต่หมายถึงประสบการณ์คุณภาพที่เติมเต็มชีวิตได้ 360 องศา และช่วยให้ผู้คนแสดงออกถึงความเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเป็นอิสระ อีกทั้งประสบการณ์ที่ผู้ชมได้สัมผัสจากงานนี้ จะทำให้ทุกคนอยากร่วมแบ่งปัน และบอกต่อเรื่องราวให้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากแน่นอน โดยงานนี้จะมีขึ้น ตั้งแต่วันที่ 20พฤศจิกายน – 21 ธันวาคม 2557 ที่ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในวันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายนนี้ 

ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงแห่ง เซ็นทรัล เอ็มบาสซี  กล่าวเพิ่มเติมว่า “เรามั่นใจว่าจากการจัดกิจกรรมในครั้งนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าชาวไทย และสามารถช่วยเพิ่มสัดส่วนลูกค้าชาวต่างชาติให้เรามาขึ้น และเพื่อเป็นการส่งมอบความสุขคืนสู่สังคมส่งท้ายปี เราจะหักรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายชิ้นงาน และรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจากกการจำหน่ายถึงผ้าที่ร้านศิวิไล มอบให้แก่โครงการส่งเสริมการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์หัตถกรรมร่วมสมัย และโครงการพัฒนาองค์ความรู้ด้านศิลปะและการออกแบบเพื่อสร้างความเข้มแข็งชุมชนหัตถกรรม” คุณบรม กล่าวทิ้งท้าย 


แชร์ :

You may also like