HomeDigital4 ข้อควรรู้ “ลงทุน” บน Social Media อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ

4 ข้อควรรู้ “ลงทุน” บน Social Media อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ

แชร์ :

Social Media Buttons

ยุคนี้แบรนด์ต่างๆ หรือคนที่ทำธุรกิจส่วนตัวก็ต่างคิดว่า เราต้องใช้ Social Media ทำการตลาดด้วยในยุคนี้ แต่บางทีด้วยความที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดีก็ใช้วิธีทำๆไปก่อนเดี๋ยวค่อยมาปรับแก้ไปเรื่อยๆเอาทีหลัง ในวันนี้ Brand Buffet มีบทความเกี่ยวกับ 4 ข้อที่ควรรู้เพื่อการลงทุนบน Social Media ให้มีประสิทธิภาพ มาแนะนำตามนี้ครับ

ADFEST 2024

Santos Or Jaune
  1. ลูกค้าของเราอยู่ที่ไหน

เราจำเป็นต้องรู้ก่อนว่าลูกค้าของเราอยู่ที่ไหนบน Social Media? ที่ Facebook? , Twitter? , Instagram? หรืออื่นๆ เพราะถ้าเราเริ่มต้นขายของผิดที่ ไปลงทุนในที่ๆลูกค้าเราไม่ได้อยู่ ก็คงคาดหวังผลลัพธ์ที่ดียาก

  1. Social Media เป็นช่องทางสื่อสารกับลูกค้าและกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างหนึ่งจากแผนที่มีอยู่ทั้งหมดเท่านั้น

ในยุคนี้แม้จะเป็นยุคที่ Social Media กำลังบูมมาก แต่เราต้องไม่ลืมว่า Social Media ไม่ใช่ทั้งหมดของการตลาด ไม่ว่ายังไงการสื่อสารทางการตลาดแบบ 360 องศา ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ก็ยังเป็นสิ่งที่ควรทำอยู่ แต่ข้อดีของ Social Media นั้นคือการที่เราสามารถสื่อสารกับลูกค้าแบบสองทาง (Two way communication) ได้ต่างหาก ซึ่งดีกับทั้งแบรนด์และลูกค้าเวลาที่ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมหรือมีคำถามกับสินค้าของเรา

  1. คอนเทนต์ต้องกลมกลืนไปกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า

คนอยู่บน Social media เพราะเขาต้องการพูดคุยกับเพื่อน, ครอบครัว, แบรนด์/ศิลปินที่ชอบ ในฐานะนักการตลาด คือต้องพยายามคิดว่าจะทำอย่างไรให้สามารถนำแบรนด์ของเรา กลมกลืนไปกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้ คงจะไม่ค่อยดีนักหากจะใช้วิธี Hard Sale มากๆบน Social Media เพราะคนส่วนใหญ่มักไม่ชอบถูกขายของตรงๆ สิ่งที่ควรทำคือพูดในสิ่งที่ลูกค้าอยากฟังและขายของได้ไปในตัวด้วยต่างหาก

ให้ระลึกไว้ว่า Social Media คือช่องทางที่จะช่วยสร้างตัวตนของแบรนด์บนโลกออนไลน์ ลูกค้าควรจะใช้สินค้าหรือบริการของแบรนด์เราเพราะเกิดจากการชื่นชมในสินค้า ประทับใจในแบรนด์ของเท่าต่างหาก

Content marketing

  1. Social Media คือโอกาสของการทำงานให้สร้างสรรค์ และน่าบอกต่อ

หลายกระบวนท่าที่ใช้ไม่ได้กับออฟไลน์ เมื่ออยู่บนออนไลน์ก็มีลูกเล่นแพรวพราวได้มากขึ้น ถ้านึกไม่ออก มีหลากหลายวิธีที่เราสามารถเอาไปประยุกต์ใช้ได้ เช่น

–      โชว์ภาพการใช้สินค้าในรูปแบบที่สร้างสรรค์หรือแหวกแนว ในขณะที่ยังนำเสนอคุณสมบัติของสินค้าได้ด้วย

mm

–      ตั้งคำถามกับแฟนๆถึงอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของเราด้วย เช่นสมมติว่าเราเป็นแบรนด์ขายบ้าน อาจจะตั้งคำถามว่า “บ้านในฝันของคุณเป็นยังไง” เป็นต้น

–      ให้คำแนะนำฟรีๆ – โพสต์ทิปส์ที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบสินค้าของเราฟรีๆบ้าง เช่นเราขายเฟอร์นิเจอร์ อาจจะโพสต์เทคนิคการดูแลเฟอร์นิเจอร์ โพสต์นี้อาจจะไม่ได้แนะนำสินค้าของเราแต่ถ้าวันนึงลูกค้าคิดอยากจะได้เฟอร์นิเจอร์ ก็อาจจะนึกถึงเราในอนาคตก็ได้ รวมไปถึงอาจจะแนะนำคนอื่นๆด้วย เพราะเราให้คำแนะนำที่ดี

และในกรณีที่ต้องการวัดผลบน Social Media ก็มีข้อมูลหลากหลายที่สามารถนำมาวัดผลได้ เช่น

Connection – จำนวน Fans, Followers ที่เข้าร่วมแคมเปญ

Page, Video views – จำนวนหน้าหรือวิดีโอที่ถูกเปิดดู

Engagement rate – อัตราส่วนคนของผู้ที่มีปฏิสัมพันธ์ด้วย (เป็น %)

แต่ทั้งนี้สิ่งที่ควรจำไว้เสมอก็คือว่า Social Media เป็นช่องทางนึงที่ข่าวสารกระจายได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นใครที่เข้ามาลงทุนในนี้หากค่อยๆสร้างชื่อเสียงที่ดีให้กับแบรนด์ก็จะเกิดการบอกต่อได้ แต่ถ้าใครทำไว้แย่ ก็มีโอกาสเกิดเป็นไวรัลลบๆ กระจายไปได้เร็วเหมือนกัน

 

Source : inc ,

รูปภาพประกอบจาก : hongkiat , scuttlebutt , simplemarketingnow


แชร์ :

You may also like