วันนี้ถือว่าเป็นวันที่สาวก Hello Kitty คาแรกเตอร์น้องเหมียวสุดน่ารัก ต้องออกมาเฉลิมฉลองวันเกิดให้กับสาวน้อยคนนี้ ที่ปัจจุบันเธอถือกำเนิดมาจนมีอายุครบ 40 ปีแล้ว แต่มีเรื่องราวที่น่าสนใจของ Hello Kitty Brand Buffet ขอนำเสนอ 14 เรื่องน่ารู้ที่เกี่ยวกับ Hello Kitty ดังนี้
1. Hello Kitty ถือกำเนิดเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 1974 เวลาว่างเธอชอบทำคุกกี้และเก็บสะสมของเล็กๆ น้อยๆ ชอบลูกกวาด ดวงดาว และปลาทอง
2. พลังทางสังคมที่ผลักดันให้เธอถือกำเนิดขึ้นมาก็คือ พลังซื้อของผู้หญิงยุคใหม่ช่วงทศวรรษที่ 70-80 และวัฒนธรรมแบบ Pop Culture สินค้าขายดีช่วงแรกที่ยอดฮิตก็คือ เครื่องเขียนและไดอารี่ ซึ่งวัยรุ่นสาวๆ นิยมเป็นอย่างมาก
3. นอกจากเป็นส่วนหนึ่งของสินค้าหรือการตลาดตลอดแล้ว Hello Kitty ยังได้รับหน้าที่อันยิ่งใหญ่มากมาย เช่น เป็น Brand Ambassador ด้านการท่องเที่ยว ช่วยโปรโมตประเทศญี่ปุ่นกับจีนและฮ่องกง ในช่วงเวลาทศวรรษที่ 90 ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับญี่ปุ่นไม่ค่อยดีนัก หรือ เป็น United States children’s ambassador สำหรับองค์การยูนิเซฟในปี 1983 (ว้าววว เท่อ่ะ)
4. เหตุผลที่ Hello Kitty ไม่มีปาก ก็เพราะว่าไม่อยากให้ตัวคาแร็กเตอร์แสดงออกรมณ์ แต่อยากให้สะท้อนอารณ์ได้ตามความรู้สึกที่เจ้าของมีอยู่ในช่วงเวลาที่เล่นกับคิตตี้ และสิ่งที่ Sanrio บริษัทต้นกำเนิดมักพูดอยู่เสมอเมื่อต้องอธิบายว่า “ทำไมคิตตี้ไม่มีปาก” นั่นคือ “คิตตี้พูดด้วยหัวใจ” (She speaks from the heart)
5. ผู้ก่อตั้งบริษัท Sanrio เจ้าของลิขสิทธิ์ Hello Kitty คือ Shintaro Tsuji โดยเขาก่อตั้งบริษัทช่วงปี 1960 ประวัติชีวิตของเขาในวัยเด็กค่อนข้างเศร้า สูญเสียแม่ตั้งแต่อายุ 13 ในช่วงอนุบาลเขาเรียนกับมิชชั่นนารีชาวแคนนาเดี้ยน ที่นี่เองที่ทำให้เขาได้พบกับประเพณีฉลองวันเกิดซึ่งไม่ใช่วัฒนธรรมแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น และนั่นคือแรงบันดาลใจที่ทำให้อยากจะก่อตั้งบริษัทที่ผลิตสินค้าที่เอาไว้เป็นของขวัญคาแร็กเตอร์แรกของบริษัทคือ My Melody กระต่ายน้อยในฮู้ดสีแดงที่ได้รับความนิยมมากในยุค 70
6. Hello Kitty มีสัญชาติอังกฤษ เพราะในช่วงที่เธอถือกำเนิด คนญี่ปุ่นไม่ค่อยเดินทางไปต่างประเทศเท่าใดนัก เรื่องราวแบบที่มีความเป็นแฟนตาซีผสมอยู่บ้าง จึงกลายเป็น Story ที่เหมาะกับการนำมาสร้างเป็นฉากหลังให้กับคาแร็กเตอร์นี้
7. สินค้าอย่างแรกที่วางจำหน่ายคือ กระเป๋าสตางค์พลาสติคใส่เศษเหรียญรูปทรงแบน วางจำหน่ายครึ่งแรกด้วยราคา 240 เยน แต่เดี๋ยวนี้สินค้าที่มีตราประทับ Hello Kitty มีนับแสนไอเท็ม
8. นอกจากตัวละคร Hello Kitty แล้ว ยังมี Dear Daniel แฟนหนุ่มของเธอ และเพื่อนๆ ประกอบด้วย Kathy, Tippy และ Thomas ส่วนคุณพ่อชื่อ George คุณแม่ Mary อ้อ…และน้องสาวฝาแฝดของคิตตี้ชื่อว่า Mimmy
9. เนื่องในวันครบรอบ 40 ปีของเธอ บรรดาสาวกของ Hello Kitty ก็เลยรวมตัวกันจัดงาน Hello Kitty fan convention โดยจัดที่ลอสแองเจลลิส ภายในบริเวณงานถูกตกแต่งให้เป็นดินแดนของคิตตี้ทั้งหมด ไม่เว้นแต่แต่กระดาษชำระในห้องน้ำยังมีลายคิตตี้เลย (หวังว่าแฟนๆ คงไม่มีใครขโมยกระดาษทิชชู่นะ สงสารคนเข้าห้องน้ำทีหลัง) คาดการณ์ว่าน่าจะมีผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 25,000 คน ภายในงานมีดารา, เซเลบบริตี้เข้าร่วมงานด้วย เช่น Katy Perry
10. จากข้อมูลของ Character Databank ระบุว่า ปี 2013 คาแร็กเตอร์ Hello Kitty เป็นตัวละครที่ทำเงินมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ซึ่งขึ้นมาจากอันดับ 4 ในปีก่อนหน้านี้
11.Offiicail Fanpage ของ Hello Kitty มีแฟนมากกว่า 15 ล้านคน ส่วนทวิตเตอร์มีแฟนติดตามอยู่ 2.2 แสนราย ส่วนอินสตาแกรมมีแฟน 336,788 followers
12. ดีไซน์เนอร์ผู้รับผิดชอบการออกแบบคาแร็กเตอร์ Hello Kitty ในปัจจุบัน คือ Yuko Yamaguchi แต่ความจริงแล้วเธอไม่ใช่ผู้ที่ออกแบบคนแรก Yuko เป็นดีไซน์เนอร์คนที่สามที่มาดูแลงานนี้ในปี 1980 Yukoบรรยายความรู้สึกที่ร่วมงานกับ Hello Kitty เอาไว้เป็นช่วงเวลาว่า “ช่วงปี 1980 ฉันรู้สึกว่าเธอคือเพื่อน ยุคปี 90 เธอคือ อัตตะที่สองของฉัน(Alter Ego) กระทั่งปี 2000 เธอคือหุ้นส่วนธุรกิจ(Business Partner) ฉันว่าทำอย่างไรถึงจะขายเธอให้ได้ เหมือนว่าตัวฉันเป็น Talent Manager แต่พอมาถึงช่วงต้น 2010 ฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็น President of a Talent Management Company” ทั้งหมดที่พูดมาคือความรู้สึกของ Yuko เพราะตำแหน่งจริงๆ อย่างเป็นทางการของเธอก็คือ Director of Production for the Character
13. ในแต่ละปี Sanrio จะมีการโหวตคาแร็กเตอร์ภายในของบริษัท ในปี 2014 นี้ My Melody ได้คะแนนเป็นอันดับ 1 ส่วน Hello Kitty เป็นอันดับ 2 ตามมาด้วย Little Twin Stars อย่างไรก็ตาม Yuko Yamaguchi มีความคาดหวังว่าต่อๆ ไปจะมีการพัฒนาให้เสียงจากนอกประเทศญี่ปุ่นมาโหวตมากขึ้น โดยการจัดทำเว็บไซต์ให้เป็นภาษาอังกฤษและประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น เพื่อที่จะได้รับรู้ความรู้สึกของแฟนๆ Sanrio ในต่างประเทศด้วย
14. กลุ่มเป้าหมายเดิมของ Hello Kitty ในตอนที่เปิดตัวก็คือสาววัยรุ่น แต่ปัจจุบันลูกค้าของคิตตี้มีอยู่ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นคนทำงานหรือแม้แต่คนวัยคุณแม่ ที่เติบโตมากับคิตตี้ เหตุผลที่คาแร็กเตอร์ตัวนี้สามารถปรับตัวเข้ากับยุคสมัยได้เป็นอย่างดี ก็เพราะมีทั้งส่วนที่ยั่งยืนตั้งแต่ต้น นั่นคือ ความน่ารัก สดใส อินโนเซน ซึ่งเป็นอินไซต์ของผู้หญิงทุกคน และมีทั้งส่วนที่คิตตี้ปรับตัวได้ดี เช่น การทำ Collaborate กับแบรนด์อื่นๆ อย่าง Paul Frank ก็ทำให้ภาพลักษณ์ของคิตตี้ทันสมัย เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอื่นๆ รวมทั้งมีการร่วมมือกับเซเลบบริตี้อย่าง Lady Gaga ทำคอลเลคชั่นเฉพาะ