ที่ Adfest 2014 รางวัล Direct Lotus และ Promo Lotus ตกเป็นของ ผลงานจากญี่ปุ่นทั้ง 2 รางวัล ประกอบด้วย The Photogenic Beer สร้างสรรค์โดย HAKUHODO ในหมวด Direct Lotus และ Sound of Honda – Ayrton Senna 1989 ของ DENTSU ในหมวด Promo เหตุผลที่คณะกรรมการเลือกผลงานทั้งสองนี้ได้รางวัลก็เพราะ
“งาน Photogenic Beer เป็นไอเดียที่ซิมเปิ้ลมากๆ ที่ทำให้คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจกับเบียร์คิริน และเปลี่ยนทัศนคติเรื่องของเบียร์ อีกทั้งยังกระตุ้นให้คนอยากแชร์รูปของเบียร์ไปยังโซเชี่ยลมีเดีย”
ผลงงานชิ้นนี้ใช้วิธีการง่ายๆ คือ สร้างสรรค์โฟมเบียร์ที่รูปร่างหน้าตาเหมือนไอศกรีมขึ้นมา ทำให้เบียร์แบบเดิมๆ เปลี่ยนแปลงไปเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้มากขึ้น กระตุ้นให้เบียร์ของคิรินได้รับการถ่ายรูปลงโซเชี่ยลมีเดีย ความยอดเยี่ยมอยู่ที่ไอเดียการต่อยอดโปรดักท์ ไม่ใช่แค่แคมเปญโฆษณาเท่านั้น
สำหรับงาน Promo คณะกรรมการก็จะเลือกจากงานที่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงทัศนคติของคนหรือสร้างปฏิสัมพันธ์ได้ทันที” Sound of Honda – Ayrton Senna 1989 เป็นผลงานที่ทำโดยจับเอาช่วงเวลาที่ Ayrton Senna นักแข่งรถชื่อดังของทีมฮอนด้าเคยทำสถิติการแข่งขัน F1 ที่สนาม Suzuka ประเทศญี่ปุ่นได้ดีที่สุดในปี 1989 และทำลายสถิติในเวลานั้น การแข่งขันครั้งนี้ยังเป็นภาพความทรงจำของคนญี่ปุ่นอยู่ และเมื่อ 24 ปีผ่านไป Ayrton Senna เสียชีวิต ฮอนด้าก็เลยทำแคมเปญนี้เพื่อเป็นเกียรติกับเขา พร้อมทั้งโปรโมตระบบ Internavi โดยใช้เสียงที่ถูกบันทึกเอาไว้มาเปิดร่วมกับการบังคับไฟในสนามแข่งให้สว่างขึ้นตามเสียงและความเร็วของรถที่เกิดขึ้นจริงในวันนั้น เพื่อให้ผู้เข้าชมได้รับรู้ถึงช่วงเวลาแห่งความยิ่งใหญ่ของนักแข่งผู้นี้อีกครั้ง โดยผู้ชมในสนามก็คัดเลือกจากนักข่าว วิศวกรที่เข้าชมการแข่งขันในวันนั้น
[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=oeO2q8FzcnM [/youtube]
เมื่อถามถึงผลงานของไทยที่ทำได้ดีที่สุดเพียงแค่รางวัล Silver จาก ONE BAHT FLYER ที่ LEO BURNETT GROUP THAILAND ทำให้กับลูกค้า TMB เท่านั้น Kentaro Kimura, Jury President of Direct Lotus & Promo Lotus, and Co-CEO & ECD at Hakuhodo Kettle กล่าวว่า
“ผลงานในหมวด Direct และ Promo เป็นผลงานที่ไร้กระบวนท่า จะต่อสู้ด้วยวิธีไหนก็ได้ มวยไทย คาราเต้ ก็ได้(เขาพูดพร้อมกับลุกขึ้นเตะ ต่อยให้ดู) เป็นแคทริกอรี่ที่ไม่จำกัดสื่อหรือว่าวิธีการ ทุกสื่อโอเคหมด และเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นทุกปี จะสื่อสารแบบไหนก็ได้ มันคือ การผสมผสาน(Combination) อย่างงานของฮอนด้า เป็นการผสานกันอย่างดีของ Big Data กับ Creativity จนทำให้เกิดอีโมชั่นดึงช่วงเวลาแห่งความทรงจำกลับมา เรามีตัวอย่างของผลงานที่ใช้ Big Data ให้เกิดประโยชน์ แต่งานนี้คือการใช้ Big Data ร่วมกับกับเทคโนโลยีได้ดีจริงๆ ส่วนงาน Photogenic Beer ก็เป็นการผสานกันของ การพัฒนาผลิตภัณฑ์(Product Development) ความคิดสร้างสรรค์(Creative) และโซเชี่ยลมีเดีย ที่ญี่ปุ่นเราต้องใช้สื่อที่หลากหลายดังนั้นครีเอทีฟจึงถูกฝึกให้คิดถึงหลายๆ สื่อ”
“คำแนะนำของผมก็คือ ความจริงแล้วครีเอทีฟไทยมีความโดดเด่นด้านหนัง ด้านดิจิตอล และด้านสิ่งพิมพ์มากๆ ก็น่าจะเอาทุกอย่างมาผสานรวมกันให้มากกว่านี้ หรือ ทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมอื่น นอกเหนือจากคนในวงการโฆษณา อย่างเช่น ดีไซน์เนอร์, สถาปนิก หรืออื่นๆ เพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่ไปไกลกว่าแค่งานโฆษณา แต่ทำให้แคมเปญเข้าใกล้ผู้คนให้มากขึ้น อย่างเช่นผลงาน News Bottle ก็เป็นความร่วมมือของ 2 ธุรกิจ”
