HomeBrand Move !!เจาะ 8 เทรนด์สุขภาพ 2013

เจาะ 8 เทรนด์สุขภาพ 2013

แชร์ :

 

้health wealthness

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

 

มายด์แชร์ (Mindshare)  เอเเย่นซี่ด้านการตลาดและการสื่อสาร เผยผลสำรวจเทรนด์สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี  ในปี  2013 “Health & Wealthness 2013”  พบว่าคนไทยให้ความสำคัญกับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีอย่างชัดเจนแต่ใช้ชีวิตสวนทาง  เช่น ออกกำลังกายน้อยลง  ทานผักผลไม้น้อยลง  เนื่องจากวิถีคนเมืองมีมากขึ้นในประเทศ  เร่งรีบจากการทำงาน  และเวลาจึงกลายเป็นสิ่งมีค่า  มีผลให้กระแสความงามที่มาซื้อได้รวดเร็วเป็นที่นิยมมากกว่าพฤติกรรมการออกกำลังกาย   8 เทรนด์สุขภาพ และ วิธีการสื่อสารกับผู้่บริโภคแต่ละเทรนด์  มีดังนี้

1 ความอ้วนกลายเป็นปัญหาที่พบทั่วไป (OBESITY BECOMING MAINSTREAM)

ถึงแม้คนไทยจะตระหนักถึงเรื่องสุขภาพแต่ก็ยังไม่ได้ดูแลสุขภาพอย่างจริงๆ จากการศึกษาพบว่า มีเพียง 26% ในกลุ่มผู้ใหญ่ที่ออกกำลังการอย่างสม่ำเสมอ เมื่อเทียบกับ 30% ในปี พ.. 2550  อัตราการรับประทานผักและผลไม้ 51% ในปี 2551 ลดลงเหลือ 43% ในปี 2555  ในขณะที่เทรนด์ความสวยอย่างรวดเร็วโดยใช้ศัลยกรรมความงามและคลีนิคความงามเกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง และการใช้ชิวิตแบบคนเมืองกลายเป็นการใช้ชีวิตที่ไม่เสริมสร้างสุขภาพที่ดี ในขณะที่มีความเสี่ยงเพิ่มในการเป็นโรคเช่นความดันสูงและโรคหัวใจ โดย คาดว่าประเทศไทยจะมีผู้ที่มีปัญหาความอ้วนประมาณ 24 ล้านคนในปี พ.. 2558 (แบ่งเป็น 18.8 ล้านคนที่มีน้ำหนักเกิน และ 5.6 ล้านคนเป็นคนอ้วน) เทียบกับผู้ที่มีปัญหาความอ้วนประมาณ  22 ล้านคนในปี พ.ศ. 2553 (แบ่งเป็น 17.7ล้านที่มีน้ำหนักเกิน และ 5.6 ล้านคนที่เป็นคนอ้วน)

สำหรับนักการตลาดในการวางแผนและการสื่อสาร :  ไม่ยอมเจ็บตัวเพื่อความสวย  ความเห็นของคนรอบข้างมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อเป็นส่วนใหญ่   ในแง่การสื่อสาร แบรนด์จะต้องเข้ามาเสมือนเพื่อนแนะนำเพื่อน

 

2 ความเครียดกลายเป็นปัญหาที่น่ากังวลกว่าความอ้วน (STRESS, THE NEW OBESITY)

ประเทศไทยเป็นประเทศที่ผู้บริหารมีความเครียดอยู่ในอันดับ 5 จาก 39 ประเทศอุตสาหกรรมของโลกในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา  โดยพบว่า ปัญหาความเครียดมาจาก ปัจจัย คือ 1) การเงิน 2) หน้าที่และความก้าวหน้าในการงาน 3) ความไม่แน่นอนทางการเมือง 4) ปัญหาครอบครัว 5) สิ่งแวดล้อม    ในขณะที่เด็กวัยรุ่นมีความเครียดและรู้สึกกดดันสูงขึ้น จากการวิจัยของ ส... เมื่อปลายปี 2554 พบว่า วัยรุ่นกว่า 1 ล้านคนมีความรู้สึกซึมเศร้าอย่างไม่มีสาเหตุ โดยกว่าครึ่งล้านคนมีความเครียดสูงจนเกิดอาการปวดท้อง และอาเจียน และหนึ่งในสามของเด็กเหล่านี้ใช้ยาลดน้ำหนักและทำศัลยกรรมความงามเพื่อให้ผอมและดูสวยงาม

สำหรับนักการตลาดในการวางแผนและการสื่อสาร : ชอบตัดสินใจเองเชื่อมั่นใจความคิดตนเอง   ยอมจ่ายถ้าได้ผลดีจริง  ในแง่การสื่อสารจะต้องสื่อสารให้ข้อมูลที่ความน่าเชื่อถือหรือแสดงความเป็นผู้เชี่ยวชาญ

 

3 กลุ่มผู้สูงวัยจะกลายเป็นกลุ่มหลักในกระแสสุขภาพ (AGEING POPULATION)

คนไทยมีแนวโน้มที่จะมีอายุยืนขึ้น และกลุ่มผู้สูงวัยจะเป็นกลุ่มที่มีจำนวนมากที่สุดในอีก8 ปีข้างหน้า (สังคมผู้สูงอายุ)  และจะเป็นกลุ่มสำคัญที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสุขภาพเติบโต  ธุรกิจที่จะเติบโตและมีแคมเปญการตลาดเจาะกลุ่ม Baby Boomer มาก คือธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพ โดยเฉพาะโรงพยาบาล การดูแลสุขภาพ และอาหารเสริม ที่คาดว่ามูลค่าของธุรกิจนี้จะเติบโตได้ถึง 20-30%เพราะโอกาสของธุรกิจมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคกลุ่มนี้ ที่ตัดสินใจซื้อง่าย โดยเน้นให้ตัวเองสุขภาพดี มีลมหายใจอยู่นานที่สุด 

 

4. แน้มโน้มประชากรโสด อยู่คนเดียว และดูแลตัวเองได้ดีมีสูงขึ้น (INDEPENDENT SINGLES)

จากการศึกษาพบว่า 37% ของคนไทยมีสถานะโสด หย่า และหม้าย ในขณะที่ อีก 45% ไม่มีลูก โดยพบอีกว่าอัตราของคน โสด หย่าร้าง หรือแต่งงานแต่ไม่มีลูก มีจำนวนเพิ่มขึ้น ดังนั้นคนไทยจะหันมาใส่ใจกับการเป็นอยู่ในรูปแบบที่ตอบความต้องการของตัวเองมากขึ้น

 

5 กระแสความงามและสุขภาพดีแบบไม่ต้องรอ (NOWISM)

พฤติกรรมการใช้ชีวิตแบบคนเมืองและความสวยงามตามกระแสสังคม  ทำให้ยุคนี้เป็นยุคทองของความงามแบบสั่งซื้อได้ ไม่ต้องรอ และสวยได้ทันตา ดังนั้นธุรกิจความงาม การทำศัลยกรรมใบหน้า จะได้รับความนิยมอย่างมาก จากรายงาน Culture Vulture ของมายด์แชร์ ความงามกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับวัยรุ่นตอนปลายเมื่อสัมภาษณ์งานและเชื่อว่ามีผลกับการรับเข้าทำงานในบริษัท

 สำหรับนักการตลาดในการวางแผนและการสื่อสาร : ชอบสินค้าที่แก้ไขได้อย่างทันที เห็นผลเร็ว  ซึ่งต้องใช้งานง่ายสะดวกและใหม่  โดยเซเลบคนดังจะมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ  ในแง่การสื่อสารจะต้องเข้าไปในฐานะพี่แนะนำน้อง

 

6 สูงสุดคืนสู่สามัญ (BACK TO BASIC)

จากการศึกษาพบว่าคนไทยโดยเฉพาะผู้ใหญ่และวัยทำงาน  จะหันไปให้ความสนใจกับผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ คาดว่าสมุนไพรและผลิตภัณฑ์ที่มาจากความรู้พื้นบ้านจะมีอัตราเจริญเติบโตไปถึง 14,000 ล้านบาทในปี 2558 จาก 12,000 ล้านบาทในปี 2555   นอกจากนี้ยังจะมีกลุ่มที่มองหาวิถีชิวิตทางเลือกอื่นๆ อันเนื่องมาจากต้องการหนีจากการใช้ชีวิตที่วุ่นวาย หันมาใช้ชีวิตแบบสบายๆ  รวมถึงปัจจัยจากกลุ่มผู้สูงวัย และผลจากการเติบโตของชีวิตคนเมือง

สำหรับนักการตลาดในการวางแผนและการสื่อสาร : ชอบความสมบูรณ์แบบ  สินค้าจะต้องบริสุทธิ์ ไร้สารพิษออแกนิค เป็นธรรมชาติ   ซึ่งสิ่งที่พวกเขาเชื่อก็คือ ส่วนผสมหรือองค์ประกอบได้รับการพิสูจน์จากสถาบันฯแล้ว  ในแง่การสื่อสารจะต้องมีตัวเลขหรือสถิติใช้ในการอ้างอิงพวกเขา

 

7 ผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพจะเข้าใกล้ผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้น (PRODUCT BLURRING)

ผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพเช่นวิตามินอาหารเสริม จะพบว่ากลายเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น  เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เติมวิตามิน เติมแร่ธาตุต่างๆ   อีกทั้งมีแนวโน้มได้รับความนิยมจากผู้บริโภคยิ่งมากขึ้น

สำหรับนักการตลาดในการวางแผนและการสื่อสาร :  ไม่ชอบกินอะไรจริงจัง กินเพื่อชดเชยเท่านั้น   ความใหม่ รสชาติใหม่ จะมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อ  ในแง่การสื่อสารจะต้องเข้าไปเสมือน Innovator

 

8. เทคโนโลยีเอื้อต่อการรักษาสุขภาพที่ดีของประชากรด้วยตัวเอง (TECHNOLOGY ETC.)

พบว่า จากจำนวนผู้ใช้อินเตอร์เนตที่เพิ่มมากขึ้น และเทคโนโลยีต่างๆ           ช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพได้ง่าย นอกจากผู้เชี่ยวชาญแล้ว ยังได้ข้อมูลจากผู้ที่มีประสบการณ์ตรง  รวมถึงช่องทางการซื้อขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพก็ขยายตัวสู่ช่องทางออนไลน์ ทั้งนี้การใช้โทรศัพท์มือถือยิ่งทำให้เปิดรับข่าวสารได้ตลอดเวลา แอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนก็มีหลากหลายที่เกี่ยวกับการดูแลและตรวจเช็คสุขภาพ  ตัวอย่างเช่น  App Doctor Me , App Samitivej

 

 

FYI

 ประเทศที่ผู้บริหารเครียดมากที่สุด  1.กรีซ  2. จีน  3.  ไต้หวัน  4.  เวียดนาม   5. ไทย


แชร์ :

You may also like