YLG ชี้ทองไทยพุ่งแรงทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 3,977.34 ดอลลาร์สหรัฐฯ 61,100 บาทต่อบาททองคำ ในวันที่ 7 ต.ค. 2568 รับปัจจัยหนุนใหม่จากความเสี่ยงวิกฤตการเมืองฝรั่งเศสหลังนายกลาออกกระทันหัน ญี่ปุ่นมีข่าวดีหนุนทองจากนโยบายชะลอการขึ้นดอกเบี้ยของนายกหญิงคนแรก
“วายแอลจี” ชี้ทองคำร้อนแรงเกินต้าน ปีนี้ปรับขึ้นแล้วกว่า 47% ทองไทยขึ้นมาแล้ว 39.6% แต่ยังไม่เข้าข่ายภาวะฟองสบู่ ชี้ปัจจัยทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานยังแข็งแกร่ง แม้ระยะสั้นเข้าเขตซื้อมากเกินไป อาจมีแรงขายทำกำไร แต่ระยะกลาง ระยะยาว ไปต่อมีโอกาสเห็น 4,000 ดอลลาร์
YLG มองเป้าหมายทองไทยปีนี้ยังคงไว้ที่ 57,000 บาทต่อบาททองคำ แต่มีโอกาสไปถึงเป้าหมายถัดไปที่ 60,000 บาทต่อบาททองคำ หากค่าเงินบาทยังไม่แข็งค่ามากกว่า 31.83 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ราคาทองคำในตลาดโลกได้ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง หากตัดประเด็นความไม่สงบของสถานการณ์ตะวันออกกลางออกไป YLG ยังมองปัจจัยพื้นฐานยังแข็งแกร่ง ราคาสามารถพุ่งได้ต่อ ให้เป้าหมายปีนี้ใหม่ที่ 2,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อทรอยออนซ์ เหตุธนาคารกลางทั่วโลกยังเก็บทองคำเข้าพอร์ตต่อเนื่องปีละกว่า 1,000 ตัน
ตลาดทองคำไทยเติบโตต่อเนื่อง YLG พบพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ลงทุนทองเพิ่มขึ้นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่สัดส่วนนักลงทุนทองคำออนไลน์เพิ่มเป็น 60% จากปีก่อนอยู่ที่ 40%
วายแอลจี เผยสาเหตุราคาทองคำพุ่งตลอดทั้งเดือน มาจาก 2 ปัจจัย ทั้งคาดการณ์เฟดไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย-ลดวงเงินทำ QE แม้เงินเฟ้อจะพุ่งขึ้น บวกกับกองทุน SPDR เริ่มเข้าซื้อทองคำ และบิตคอยน์ดิ่งแรง คาดรอบนี้มีลุ้นแตะ 1,900 เหรียญ แนะหากถึงเป้าหมายควรแบ่งขายทำบางส่วนออกมาก่อน เหตุระยะสั้นอาจมีแรงขายทำกำไร เพราะราคาปรับขึ้นมาสูงแล้ว ส่วนคนไม่มีของแนะรอรับที่ 1,850 -1,830 เหรียญ พร้อมจับตาการประชุมเฟดกลางเดือนหน้า
