Reels

Meta เผยความคืบหน้า Threads ประกาศทดสอบฟีเจอร์โฆษณาแล้วในญี่ปุ่น – สหรัฐอเมริกา พร้อมเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ “Opportunity Score” ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณาใน Ads Manager ได้แบบ real-time โดยจะทยอยเปิดใช้งานตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป

Meta จับมือ Bain & Company เปิด 5 เทรนด์สำคัญของผู้บริโภคใน APAC (รวมประเทศไทย) ผ่านการศึกษาในหัวข้อ ‘Bold Moves: Leading Southeast Asia’s next wave of consumer growth’ ประกอบด้วย

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วงครึ่งปีหลัง สิ่งที่แบรนด์ต่างเริ่มให้ความสนใจก็คือ เทศกาลช้อปปิ้งของผู้บริโภคที่จะทยอยเกิดขึ้นต่อเนื่องตลอดทุกเดือน โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ซึ่งปัจจุบัน ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีอัตราการมีส่วนร่วมของนักช้อปในช่วง Mega Sales Day ระดับต้น ๆ ของโลกที่ 83% เมื่อเทียบกับอัตราเฉลี่ยทั่วโลกที่ 69%

จากที่ Meta เคยมีแผนจะจ้างวิศวกรเพิ่ม 10,000 ตำแหน่งในปี 2022 ดูเหมือนว่าตอนนี้ทางบริษัทจะเปลี่ยนใจแล้ว โดยมีรายงานว่าซีอีโอของ Meta อย่าง Mark Zuckerberg อาจลดการจ้างวิศวกรให้เหลือเพียง 6,000 – 7,000 ตำแหน่งเท่านั้น พร้อมกันนี้ ทาง Meta ยังบอกให้พนักงานต้องลดความคาดหวังลง เรื่องทีมวิศวกรใหม่ หรือการมีงบประมาณให้ใช้อย่างอุ่นหนาฝาคั่งด้วย

เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ที่มักถูกจัดมาวัดฟอร์มกันอยู่บ่อยครั้งสำหรับเฟซบุ๊ก (Facebook) และติ๊กต่อก (TikTok) โดยสิ่งที่บรรดานักวิเคราะห์มักเปรียบเทียบกันก็คือภาพการเติบโตของทั้งสองแพลตฟอร์ม พร้อมความเห็นว่าความนิยมของติ๊กต่อกนั้นได้พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เฟซบุ๊กกลับเผชิญปรากฏการณ์ผู้ใช้งานลดลงครั้งแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และมีผลทำให้ราคาหุ้นดิ่งลงอย่างกู่ไม่กลับจนถึงทุกวันนี้

ที่ผ่านมา เราได้เห็นการต่อสู้ในสังเวียนโซเชียลมีเดียมาหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งผู้ที่คว้าชัยชนะได้ส่วนใหญ่หนีไม่พ้นเฟซบุ๊ก (Facebook) ที่สามารถเอาชนะคู่แข่งอย่างอินสตาแกรม (Instagram) ด้วยการเข้าซื้อกิจการ หรือเอาชนะสแนปแชท (Snapchat) ผ่านฟีเจอร์ Stories ที่ Facebook บอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจาก Snapchat เอง

  น่าสนใจทีเดียวสำหรับ TikTok แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานไม่ถึงร้อยล้านคนในสหรัฐอเมริกา และมีต้นกำเนิดจากนักพัฒนาในจีนแผ่นดินใหญ่อย่าง ByteDance ที่ปัจจุบันได้กลายเป็นสิ่งที่ทำให้ประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” กังวลอย่างมาก จนต้องใช้คำสั่งพิเศษ (Executive Orders) เพื่อแบนแอปพลิเคชันดังกล่าวให้พ้นแดนอินทรี หรือมิเช่นนั้นก็ต้องขายกิจการเพื่อจะได้มั่นใจว่าจะไม่มีการแชร์ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานกลับไปยังจีนแผ่นดินใหญ่