
คุณดาริกา ภคภาสน์วิวัฒน์ หัวหน้าทีมสร้างสรรค์ Kept by krungsri
Kept by krungsri เปิดผลวิจัย พบ “Gen Z อยากออม” โดยมีความกังวลด้านค่าครองชีพสูงเป็นแรงผลักดันมากเป็นอันดับหนึ่งถึง 69% ส่วนเป้าหมายในการออมของ Gen Z สามอันดับแรกได้แก่ การออมไว้ใช้ยามฉุกเฉิน, การออมเพื่อท่องเที่ยว และการออมเพื่อซื้อของขวัญให้ตนเอง นอกจากนี้ยังพบด้วยว่า 70% ของ Gen Z เริ่มเก็บเงินและลงทุนเป็นประจำด้วย
ข้อมูลข้างต้นมาจากงานวิจัย Gen Z Finance Survey 2568 โดย วิจัยกรุงศรี ที่พบว่า
- 69% ของ Gen Z มีความกังวลในเรื่องค่าครองชีพสูง โดยมาจากประสบการณ์ในช่วงโควิด-19 ที่ครอบครัว ตนเอง หรือ คนรอบข้างได้รับผลกระทบจากการปิดเมือง ตลอดจนการไม่สามารถออกไปทำงานได้ ทำให้ Gen Z ให้ความสำคัญกับความมั่นคง ปลอดภัย และการวางแผนทางการเงินระยะยาว
- Gen Z เห็นความสำคัญของการเก็บออม โดยเฉพาะ ออมไว้ใช้ยามฉุกเฉิน โดย 70% ของ Gen Z เริ่มเก็บเงินและลงทุนเป็นประจำ
- เป้าหมายในการออมเงิน 3 อันดับแรกของ Gen Z คือ การออมไว้ใช้ยามฉุกเฉิน (67.6%) รองลงมาคือ การออมเพื่อท่องเที่ยว (52.1%) และ การออมเพื่อซื้อของขวัญให้ตนเอง (50.0%)
- แม้ว่า Gen Z จะเห็นความสำคัญของการเก็บออม แต่เกือบครึ่งหนึ่งก็มีแนวคิดที่ว่า “ใช้จ่ายตอนนี้แฮปปี้กว่าออม” ซึ่งอาจจะเป็นอุปสรรคทำให้ออมไม่ได้ตามเป้าหมายที่ต้องการ
สำหรับรูปแบบในการออมของ Gen Z ผลสำรวจพบว่า 80% ของ Gen Z เลือกออมในบัญชีธนาคาร ซึ่งเป็นรูปแบบการออมที่มีความมั่นคงและปลอดภัยสูง โดยส่วนใหญ่ฝากในรูปแบบออมทรัพย์ธรรมดา หรือ ออมทรัพย์ดิจิทัล
คนรุ่นใหม่ไม่คุ้นเคย “เงินฝากประจำ”
อย่างไรก็ดี จากการเปิดเผยของคุณดาริกา ภคภาสน์วิวัฒน์ หัวหน้าทีมสร้างสรรค์ Kept by krungsri พบด้วยว่า คนรุ่นใหม่ที่เลือกออมเงินในบัญชีธนาคาร มีเพียงส่วนน้อยที่มีบัญชีเงินฝากประจำ โดยเฉพาะบัญชีเงินฝากประจำปลอดภาษี โดย 2 เหตุผลหลักที่บัญชีเงินฝากประจำปลอดภาษีไม่เป็นที่นิยมสำหรับคนรุ่นใหม่ คือ “ไม่รู้จัก” หรือ “หากรู้จัก ก็อาจเข้าใจผิดว่าต้องมีเงินก้อนใหญ่ฝากทุกเดือน” นั่นเอง
“จากพฤติกรรมและมุมมองทางการเงินของคนรุ่นใหม่ Kept by krungsri พบว่า แม้ Gen Z จะมีความรู้ทางการเงิน ให้ความสำคัญกับการมีวินัยทางการเงิน และมีเป้าหมายทางการเงินอย่างชัดเจน แต่ก็มีอุปสรรคที่ทำให้ Gen Z ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินที่ต้องการได้ โดยเฉพาะมุมมองต่อเงินฝากประจำที่คนรุ่นใหม่มองว่ามีความยุ่งยาก ต้องใช้เงินก้อนใหญ่และอาศัยการมีวินัยขั้นสูง”
ในจุดนี้ คุณดาริกา กล่าวว่า ได้มีการพัฒนาแอปพลิเคชัน Kept by krungsri ให้เข้ามาแก้ Pain Point ดังกล่าว โดยใช้เทคนิคต่าง ๆ เช่น
- เปิดตัว กระปุก “Happy tax free” สำหรับรองรับบัญชีเงินฝากประจำปลอดภาษีในแอป Kept เพิ่มเติม (จากเดิมที่มีกระปุก Together, Grow, Fun และ Invest)
- การแสดงผลให้เห็นอัตราดอกเบี้ยและผลลัพธ์ยอดเงินปลายทางจากแผนออมที่เลือกอย่างชัดเจน เพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจและแรงจูงใจให้อยากเริ่มออมจริง
- การช่วยให้เปิดบัญชีออนไลน์ได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องไปสาขา ตลอดจนเงินเริ่มต้นที่ 500 บาทต่อเดือน และมีระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติ
- การให้รางวัลผ่านแอปพลิเคชัน หรือการเปิดให้แชร์ความสำเร็จด้านการออมเงินผ่านโซเชียล
สำหรับจำนวนผู้ใช้งาน Kept by krungsri ในปัจจุบัน พบว่ามีผู้ใช้งานกว่า 705,000 ราย และมีสัดส่วน Gen Y และ Gen Z สูงถึง 86% โดยมียอดเงินฝากรวม 80,000 ล้านบาท เติบโตขึ้น 18% จากปี 2567 ส่วนเป้าหมายในสิ้นปีนี้ คาดว่าจะมีผู้ใช้งานเติบโตขึ้นประมาณ 40%





