HomeBrand Move !!ตลาดกระจุกกระจิกเดือด “Flying Tiger Copenhagen” ร้านสินค้าไลฟ์สไตล์สุดคิวต์จากเดนมาร์ก บุกไทย ชู “ดีไซน์- ราคา” จับ Gen Z

ตลาดกระจุกกระจิกเดือด “Flying Tiger Copenhagen” ร้านสินค้าไลฟ์สไตล์สุดคิวต์จากเดนมาร์ก บุกไทย ชู “ดีไซน์- ราคา” จับ Gen Z

แชร์ :

ตลาดสินค้าไลฟ์สไตล์ในประเทศไทยระอุขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อ “Flying Tiger Copenhagen” (ฟลายอิง ไทเกอร์ โคเปนเฮเกน) แบรนด์ค้าปลีกสินค้าวาไรตี้และไลฟ์สไตล์ระดับโลกจากเดนมาร์ก ปักหมุดสาขาแรก ณ ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ ภายใต้การนำเข้าของยักษ์ใหญ่ค้าปลีกของไทยอย่าง บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) นับเป็นการเติมสีสันและความแปลกใหม่ให้กับตลาด พร้อมตอกย้ำศักยภาพของอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ในการมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคปัจจุบัน

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

จากแผงขายร่ม สู่แบรนด์ระดับโลก การเดินทางของ Flying Tiger Copenhagen

เรื่องราวของ Flying Tiger Copenhagen เริ่มต้นขึ้นในปี 1995 ที่เมืองโคเปนเฮเกน โดยคู่สามี-ภรรยา Lennart Lajboschitz และ Suz Lajboschitz ผู้ที่เคยขายร่ม แว่นกันแดด และถุงเท้าในตลาดนัดมาก่อน แรงบันดาลใจในการสร้างร้านค้าจิปาถะแห่งนี้คือการมอบประสบการณ์ดีไซน์ที่ดีในราคาที่เข้าถึงได้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ง่ายๆ “สินค้าทุกชิ้น ราคา 10 โครนเดนมาร์ก” (ประมาณ 50 บาท) ชื่อเดิมของแบรนด์คือ “Tiger” ซึ่งมาจากเสียง “tee’-yuh” ที่แปลว่า 10 โครนนั่นเอง

 

Flying Tiger Copenhagen สร้างชื่อเสียงในฐานะร้านค้าปลีกที่จำหน่ายสินค้าเบ็ดเตล็ดหลากหลาย ทั้งของใช้ทั่วไป เครื่องเขียน ของเล่น และของตกแต่งสำหรับงานเฉลิมฉลองต่างๆ สื่อสารผ่านไอคอนตัว “t” ที่มีคาแรกเตอร์ขี้เล่นและเป็นกันเอง และในปี 2001 แบรนด์เริ่มขยายสาขาไปต่างประเทศ และเติบโตอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมีมากกว่า 1,000 สาขา ใน 41 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย

การนำ Flying Tiger Copenhagen เข้ามาในประเทศไทย ถือเป็นการตอกย้ำวิสัยทัศน์ของ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกในธุรกิจเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านมากว่า 50 ปี ปัจจุบันมี 35 สาขา และครอบคลุมแบรนด์ตั้งแต่ระดับแมสไปจนถึงลักชัวรี่ รวมถึงเป็นเจ้าของคอมมูนิตี้มอลล์อย่าง The Walk และ Little Walk

 

 

ในปี 2567 อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ มีรายได้สูงถึง 9,890.2 ล้านบาท เติบโต 5% จากปีก่อนหน้า และทำกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในครึ่งปีแรกของปี 2568 มีรายได้ 4,094.7 ล้านบาท แม้จะเป็นผู้เล่นรายใหญ่ แต่บริษัทยังคงมองหาโอกาสในการกระจายธุรกิจใหม่ๆ อยู่เสมอ โดยมองว่าตลาดสินค้าไลฟ์สไตล์เป็นตลาดที่น่าสนใจ มีมูลค่ารวม 3.3 หมื่นล้านบาท และเติบโตถึง 7% ซึ่งถือเป็นการเติบโตที่สวนทางกับตลาดอื่นๆ แม้จะมีหลายแบรนด์ แต่ก็ยังมีช่องว่างและสินค้าที่หลากหลายที่ยังไม่มีในตลาด

 

ทำไมต้อง Flying Tiger Copenhagen?

การนำเข้าครั้งนี้ เนื่องจาก “อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์” เล็งเห็นถึงศักยภาพของ Flying Tiger Copenhagen ด้วยเหตุผลหลายประการ ได้แก่

  1. แบรนด์ระดับโลก: มีสาขากว่า 1,000 แห่งใน 41 ประเทศทั่วโลก แสดงให้เห็นถึงการบริหารจัดการที่แข็งแกร่งและเป็นที่ยอมรับ
  2. สินค้ามีเอกลักษณ์: สินค้าทั้งหมดได้รับการออกแบบและดีไซน์เอง ทำให้มีความแปลกใหม่และไม่ซ้ำใคร และจะมีการนำสินค้าใหม่ๆ เข้ามาในร้านทุกเดือน เพื่อสร้างความตื่นเต้นให้กับลูกค้า
  3. ความหลากหลายและคุ้มค่า: มีสินค้าให้เลือกกว่า 1,700 รายการ ใน 14 กลุ่มสินค้า ตั้งแต่แกดเจ็ต ของใช้ในบ้าน เครื่องเขียน ของเล่น ไปจนถึงของตกแต่งปาร์ตี้ ครอบคลุมลูกค้าทุกเพศทุกวัย ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย เริ่มต้นเพียงหลักสิบไปจนถึงหลักร้อยบาท
  4. ตอบโจทย์เศรษฐกิจปัจจุบัน: ในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี สินค้าที่ไม่มีแบรนด์และราคาย่อมเยาได้รับความนิยม ผู้คนลดการกินข้าวนอกบ้าน แต่ก็ยังอยากได้ประสบการณ์ “ช้อปปิ้งบำบัด” Flying Tiger Copenhagen จึงตอบโจทย์ด้วยสินค้าคุณภาพดีในราคาที่ถูก ทำให้การช้อปปิ้งยังคงเป็นความสุขที่จับต้องได้
  5. ยั่งยืนและใส่ใจสิ่งแวดล้อม: Flying Tiger Copenhagen ให้ความสำคัญกับ “ความยั่งยืน” ในการผลิตและออกแบบผลิตภัณฑ์ เช่น การใช้ส่วนประกอบที่แยกจากกันได้ง่าย ส่งเสริมวัสดุรีไซเคิล และใช้ไม้/กระดาษที่ได้รับการรับรอง FSC โดยมีเป้าหมายลดการใช้พลาสติกลง 50% และลดการใช้วัสดุบรรจุภัณฑ์ลง 50% ภายในปี 2025

 

วางเป้ารายได้ 800 ล้านบาทในปี 2570 พร้อมสยายปีก 30 สาขา

Flying Tiger Copenhagen สาขาแรกที่ เอ็มสเฟียร์ มีพื้นที่ 160 ตารางเมตร ตั้งเป้าดึงดูดลูกค้าทุกกลุ่ม ทั้งพนักงานออฟฟิศ นักเรียน และชาวต่างชาติที่คุ้นเคยกับแบรนด์ โดยในปีนี้มีแผนเปิดเพิ่มอีก 5 สาขา รวมเป็น 6 สาขา โดยแห่งที่ 2 ได้เปิดไปแล้วที่อินเด็กซ์พัทยาในรูปแบบ shop-in-shop ตั้งแต่เดือนตุลาคม และอีก 4 สาขาจะเปิดที่แพลทินัม แฟชั่น ไอส์แลนด์ เดอะมอลล์ บางกะปิ และซีคอนสแควร์

อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ตั้งเป้ารายได้รวมจาก Flying Tiger Copenhagen ไว้ที่ 800 ล้านบาท ภายในปี 2570 และใช้งบประมาณ 200 ล้านบาท สำหรับการขยายสาขาไปยัง 30 สาขาในอนาคต แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในศักยภาพของแบรนด์และการเติบโตของตลาดสินค้าไลฟ์สไตล์ในประเทศไทย

 

 

การเข้ามาของ Flying Tiger Copenhagen จึงไม่เพียงแต่เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปิดมิติใหม่ของประสบการณ์การช้อปปิ้ง ที่เน้นความสนุก สร้างสรรค์ และแรงบันดาลใจ ผ่านการออกแบบสไตล์เดนิช และวัฒนธรรมฮุกกะ ที่ต้องการสร้างความรู้สึกดีๆ ในชีวิตประจำวัน ทำให้ทุกวันเป็น “Everyday Magic” ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้


แชร์ :

You may also like