HomeDigitalTelenor เปิดผลสำรวจ พบ 91% ชาวเน็ตไทย ใช้ AI ในชีวิตประจำวัน นำโดย Gen Z

Telenor เปิดผลสำรวจ พบ 91% ชาวเน็ตไทย ใช้ AI ในชีวิตประจำวัน นำโดย Gen Z

แชร์ :

Telenor Asia เปิดผลสำรวจ Digital Lives Decoded 2025 พบ AI กลายเป็นเครื่องมือหลักในชีวิตประจำวันของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตไทย โดยมากกว่า 9 ใน 10 ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตไทยใช้งาน AI  นอกจากนั้น ในด้านการทำงานยังพบว่า พนักงาน 4 ใน 10 คนมีการใช้ AI ด้วย นำโดย Gen Z

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

สำหรับการสำรวจในปี 2025 นี้ เป็นการจับมือกับบริษัทวิจัย GWI โดยทำการสอบถามผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตไทยที่มีอายุระหว่าง 16 – 64 ปี จำนวน 1,017 คน และเผยแพร่ผ่านรายงาน The Digital Lives Decoded 2025 ซึ่งพบอินไซต์ที่น่าสนใจ ดังนี้

  • 1 ใน 2 ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตไทยใช้งาน AI ทุกวัน
  • พนักงาน 4 ใน 10 คนมีการใช้ AI ในการทำงาน โดยรูปแบบการใช้ AI สามอันดับแรกที่มีการใช้งานสูงสุดได้แก่ ใช้เครื่องมือ AI ในการสร้างคอนเทนต์ 61% ใช้ในด้านการวิเคราะห์ 54% และใช้ในงานบริการลูกค้าผ่านบริการ Chatbot 53%

นอกจากนี้ รายงานดังกล่าวยังพบด้วยว่า การใช้งาน AI ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตไทยมีการเติบโตขึ้นในทุกด้าน ทั้งใช้เพื่อความบันเทิง (จาก 37% ในปี 2024 เป็น 49% ในปี 2025) ช้อปปิ้งออนไลน์ (เติบโตจาก 28% เป็น 43%) การเดินทางท่องเที่ยว (จาก 20% เป็น 34%) ตลอดจนการใช้งานในชีวิตประจำวัน (จาก 19% เป็น 40%) 

พบบริษัทไทยเพียง 1 ใน 3 ที่มีแผนงานด้าน AI

อีกหนึ่งอินไซท์น่าสนในก็คือ มีเพียง 3 ใน 10 ของผู้ใช้ AI ในที่ทำงานที่ระบุว่าบริษัทมีแผนหรือกลยุทธ์ด้าน AI ที่ชัดเจน ซึ่งคุณ Jon Omund Revhaug, Head of Telenor Asia ให้ความเห็นว่า ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนถึงความจำเป็นที่องค์กรต้องกำหนดทิศทางและให้การสนับสนุนอย่างจริงจัง เพื่อใช้ประโยชน์จาก AI ได้เต็มศักยภาพ พร้อมทั้งสื่อสารแผนดังกล่าวให้พนักงานรับรู้และมีส่วนร่วม

นอกจากนี้ ประเด็นดังกล่าวยังพบว่าเกิดขึ้นในประเทศมาเลเซีย (อีกหนึ่งประเทศที่ทาง Telenor Asia มีการทำสำรวจ) ด้วยเช่นกัน ซึ่ง ดร. Ieva Martinkenaite, SVP and Head of AI at Telenor Group กล่าวเสริมว่า ส่วนหนึ่งที่องค์กรส่วนใหญ่ยังไม่สามารถพัฒนาข้อกำหนดในการใช้งาน AI ภายในองค์กรได้นั้น มาจากการที่ AI พัฒนาเร็วเกินไป และบริษัทที่ทำการสำรวจนั้นมีหลากหลาย ตั้งแต่ SME ไปจนถึงบริษัทขนาดใหญ่ ทำให้แต่ละบริษัทมีการรับมือที่แตกต่างกันนั่นเอง

Gen Z นำโด่งการใช้ AI

ในแง่ของความต้องการใช้งานพบว่า Gen Z เป็นกลุ่มคนที่ต้องการใช้ AI สูงสุด (34%) ตามมาด้วย Millennials (32%) ส่วน Gen X และ Babyboomers ตามมาเป็นอันดับท้าย (21%)

แต่เมื่อเจาะลึกลงมาในด้านเพศ จะพบว่า ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะใช้ AI เพื่อสร้างคอนเทนต์สำหรับการทำงานมากกว่า ส่วนผู้ชายมีแนวโน้มที่จะใช้ AI เพื่อขอคำแนะนำส่วนบุคคล เช่น คำแนะนำด้านสุขภาพ หรือคำแนะนำทางการเงิน เป็นต้น

อย่างไรก็ดี สิ่งที่รายงานชิ้นนี้พบเพิ่มเติมก็คือ เกือบ 1 ใน 3 ของผู้มีรายได้สูงใช้ AI ทางการเงิน เมื่อเทียบกับผู้มีรายได้น้อยที่ใช้งานเพียง 1 ใน 5 เท่านั้น

Gen Z เน้นการใช้งาน AI อย่างมีจริยธรรม

ทั้งนี้ Gen Z ยังแสดงออกด้วยว่า การใช้ AI ในบางกรณีอาจสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อสังคม (56%) และ 61% สนับสนุนการชะลอการพัฒนา AI จนกว่าจะมีกลไกคุ้มครองที่รัดกุม ความกังวลของของคนรุ่นนี้ครอบคลุมตั้งแต่เรื่องความเป็นธรรม ความเห็นอกเห็นใจ ไปจนถึงปัญหาอคติ ซึ่งผู้บริหาร Telenor Asia สะท้อนว่า มาจากการที่คนรุ่นใหม่คาดหวังให้ AI เป็นมากกว่าแค่นวัตกรรมล้ำสมัย

โดยในภาพรวม ผลสำรวจชี้ว่าคนไทยมีมุมมองเชิงบวกและมั่นใจต่อศักยภาพของ AI ในการปกป้องความปลอดภัยในโลกออนไลน์ กว่า 2 ใน 3 (68%) เชื่อว่า AI สามารถช่วยยกระดับความปลอดภัยได้ และผลสำรวจยังชี้ว่า ผู้ที่มีมุมมองเช่นนี้มักไว้วางใจเนื้อหาที่สร้างโดย AI มากกว่า และยอมรับการใช้งานของ AI ในด้านที่เห็นประโยชน์และประสิทธิภาพได้ชัดเจน เช่น การสร้างภาพ (image generation) ระบบจดจำใบหน้าเพื่อความปลอดภัย และการให้บริการลูกค้า

ส่วนประเด็นด้านการจ้างงาน การสำรวจชี้ว่า มีเพียง 49% ของผู้ตอบแบบสอบถามมองว่าการใช้ AI ในกระบวนการคัดเลือกพนักงานเป็นเรื่องยุติธรรม ขณะที่เกือบ 1 ใน 5 มองว่าไม่ยุติธรรมอย่างมาก สะท้อนถึงความสำคัญของการคงบทบาทการตัดสินใจของมนุษย์ในเรื่องที่กระทบต่อชีวิตคนโดยตรง

คนไทยเกินครึ่งกังวลพึ่งพา AI มากเกินไป

แม้การใช้ AI ในไทยจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ความกังวลของผู้ใช้งานต่อการมาถึงของ AI ก็ยังมีอยู่ โดยผู้ใช้งานกว่าครึ่งกังวลเรื่องการพึ่งพา AI มากเกินไป รวมถึงการขาดกฎระเบียบและความโปร่งใส

ขณะเดียวกันมีเพียง 13% ที่มั่นใจว่าสามารถแยกแยะระหว่างคอนเทนต์ที่สร้างโดย AI และคอนเทนต์ที่สร้างโดยมนุษย์ได้

อย่างไรก็ตาม 77% ของผู้ใช้งานยินดีแบ่งปันข้อมูลส่วนตัวเพื่อรับบริการที่ดียิ่งขึ้น หากแต่ต้องมีความโปร่งใสและสิทธิ์ในการปฏิเสธการใช้งานข้อมูล (opt-out) โดย 61% ของผู้ตอบแบบสอบถามมองว่าตนเองควรเป็นผู้กำกับดูแลการใช้ AI มากกว่ารัฐบาลหรือบริษัทเทคโนโลยี ซึ่งเป็นการเปลี่ยนทิศทางจากปี 2024 ที่คนส่วนใหญ่ยังอยากให้สถาบันรัฐและผู้ให้บริการเป็นผู้ดูแลความปลอดภัยในโลกออนไลน์ให้กับตนเอง

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถศึกษารายงานดังกล่าวเพิ่มเติมได้ที่ Telenor Asia


แชร์ :

You may also like