
หากดูแนวโน้มตลาด Live Commerce ทั่วโลกอยู่ในช่วงขาขึ้น ปี 2022 มูลค่าอยู่ที่ 9.28 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คาดการณ์ปี 2027 มูลค่าอยู่ที่ 67.88 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อัตราการเติบโตอย่างน้อยปีละ 30% ตลาด Live Commerce ในเอเชีย มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดที่ 66% นำโดย “จีน”
เจาะ 4 เทรนด์ Live Commerce มาแรง
คุณศิวัตม์ วิลาสศักดานนท์ กรรมการผู้จัดการ AnyMind Group ประเทศไทย ฟิลิปปินส์ และกัมพูชา บริษัทเทคโนโลยีเพื่อธุรกิจแบบครบวงจร ให้บริการซอฟต์แวร์และโซลูชันส่งเสริมธุรกิจอีคอมเมิร์ซแบบครบวงจร กล่าวว่า Live Commerce ในประเทศไทยเติบโตไปในทิศทางเดียวกับตลาดโลก คาดการณ์ปี 2026 มูลค่าอยู่ที่ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 32,000 ล้านบาท) เติบโตอย่างน้อยปีละ 30% มาต่อเนื่อง
ตลาด Live Commerce ในไทยมี 3 หมวดสินค้าขายดี 1. Food & Beverage 2. Beauty & Personal Care 3. Healthcare
แต่ละแพลตฟอร์มให้ความสำคัญกับ Live Commerce อย่างมาก โดยมีฟังก์ชันการทำ Live Commerce ที่ง่าย ไม่ว่าจะเป็น Facebook IG TikTok รวมทั้งแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ
หากดูจาก Customer Journey จะเริ่มจากการค้นหาสินค้า จากนั้นเปรียบเทียบราคา สุดท้ายซื้อสินค้า Live Commerce เป็น Touch Point ที่สำคัญของ Conversion Funnel เป็นขั้นตอนสุดท้ายของ Marketing Funnel เพื่อปิดดีลเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายให้กลายเป็นลูกค้า
ปัจจุบันถือเป็นเครื่องมือการตลาดที่มีประสิทธิภาพทำยอดขายได้สูงกว่า “อีคอมเมิร์ซ์” 4-5 เท่า ดูจากการจับจ่ายของลูกค้าและการใช้เวลาของผู้บริโภคบนแพลตฟอร์ม Live Commerce
ในช่วงเมกะแคมเปญดับเบิลเดย์ ใน 1 ชั่วโมงแรกของการทำ Live Commerce ยอดขายจะเพิ่มจากแคมเปญปกติ 4-5 เท่า
สรุป 4 เทรนด์ Live Commerce เครื่องมือการตลาดมาแรงในยุคนี้
1. Live Commerce with Entertainment Shop & Chill เป็นการไลฟ์ขายของ ที่มาพร้อมความบันเทิง การทำกิจกรรมต่างๆ เช่น แต่งหน้า ทำอาหาร ตามสไตล์ครีเอเตอร์แต่ละราย ที่ถูกจริตการดูคอนเทนต์ของคนไทย
2. Influencer Vs Live Seller อินฟลูเอนเซอร์ที่ทำคอนเทนต์สวย โพสต์ภาพสวย กับ คนไลฟ์ขายของเก่ง “ต่างกัน” ดังนั้นแบรนด์ต้องเลือกใช้ตรงกับวัตถุประสงค์
3. Short-form Video คอนเทนต์วิดีโอสั้นเป็นที่นิยม เพราะคนสมาธิสั้น ไลฟ์แพลตฟอร์มต่างๆ จึงมีฟังก์ชั่น Short Video ให้บริการ
4. New Product Categories to go Live (Car, Real Estate, Home) นอกจากหมวดสินค้ายอดนิยม Live Commerce อย่าง แฟชั่น บิวตี้ เครื่องสำอาง สินค้าส่วนบุคคล และสินค้าไอที พบว่ามีหมวดหมู่ใหม่ๆ ที่ได้รับความสนใจทำ ไลฟ์สตรีม มากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าราคาแพง เช่น รถ อสังหาฯ
AnyLive แพลตฟอร์มไลฟ์คอมเมิร์ซด้วย AI ขายของ 24 ชั่วโมง
คนไทยชอบดู Live Commerce แล้วซื้อสินค้า เพราะสามารถพูดคุยสอบถามข้อมูลกับพ่อค้าแม่ค้าได้ เหมือนโดนป้ายยา และดูไลฟ์ขายของเป็นคอนเทนต์บันเทิง ยิ่งเป็นอินฟลูเอนเซอร์หรือคนดังยิ่งติดตาม
แต่ Live Commerce เป็นธุรกิจที่มีความซับซ้อน กระบวนการทำงานมีหลายขั้นตอน ตั้งแต่การเลือก Host ที่มีทักษะการขาย, การทำโปรดักชั่น, เทคโนโลยีไลฟ์ แพลตฟอร์ม, ระบบหลังบ้านดู Dashboard เป็นธุรกิจที่ไม่ง่าย ต้องมีเทคโนโลยี live streaming การขายของ การทำเอ็นเตอร์เทนเมนต์จากทักษะของ Host และโปรโมชั่นที่จูงใจ
ถือเป็นความท้าทายของแบรนด์และสินค้าในการทำ Live Commerce ในการหา Host ที่มีทักษะและใช่สำหรับแบรนด์ ความสามารถในการพูดได้ยาวนาน 3-4 ชั่วโมงต่อวัน การทำงานโปรดักชั่น และต้นทุนที่ค่อนข้างสูง
AnyMind จึงเปิดตัว AnyLive แพลตฟอร์มไลฟ์คอมเมิร์ซที่ขับเคลื่อนด้วย AI ช่วยให้ธุรกิจสามารถทำกิจกรรมไลฟ์คอมเมิร์ซได้ตลอด 24 ชั่วโมง บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซและโซเชียลคอมเมิร์ซหลากหลาย ผ่าน AI Avatar ที่รองรับหลายภาษา อีกทั้งยังมีคลัง AI Avatar ให้แบรนด์เลือกใช้ ระบบวิเคราะห์เชิงลึกทั้งสำหรับไลฟ์ที่นำโดยมนุษย์และ AI Avatar รวมถึงการสร้างและปรับแต่งสคริปต์โดย AI
การใช้ AnyLive ในฝั่งแบรนด์
– เป็นการใช้ AI Avatar ช่วยไลฟ์แบบมาราธอนได้ 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะช่วงเมกะแคมเปญที่มีปริมาณการซื้อสูง
– ไลฟ์ได้ทุกแพลตฟอร์ม โดยแบรนด์สามารถเลือกแพลตฟอร์มของแบรนด์เองที่มีผู้ติดตามจำนวนมากทำ Live Commerce เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่องทางนั้น สามารถไลฟ์ผ่าน Host และ AI ช่วยไลฟ์ในช่วงที่ไม่ใช่เวลาหลัก (off peak)
– แพลตฟอร์มยอดนิยมในการทำ Live Commerce ของแบรนด์ คือ TikTok อีคอมเมิร์ซ (Shopee Lazada)
– การใช้ AI ทำ Live Commerce ช่วยลดต้นทุนเมื่อเทียบกับการจ้างคนไลฟ์ อีกทั้งช่วยสร้างโอกาสทางการขายตลอด 24 ชั่วโมง
– กรณีศึกษาแบรนด์ใช้ AI ทำ Live Commerce
แบรนด์ Evian ใช้ AI ไลฟ์กว่า 800 ชั่วโมง ทำยอดขาย 2 เดือน เพิ่มขึ้น 3.5 เท่า ต้นทุนการไลฟ์ลดลง 90% ความผิดพลาดของสคริปต์ไม่มี (0%)
ชุดชั้นในเวียนนา ใช้ AI ไลฟ์ขายชุดชั้นใน น้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม ทำยอดขายเพิ่มขึ้น 2 เท่า เทียบช่วงปกติ
AnyLive for Creators ดึงอินฟลูฯดังสร้าง AI Avatar
ในฝั่งครีเอเตอร์ ล่าสุด AnyMind เปิดตัว AnyLive for Creators เพื่อทำให้ครีเอเตอร์สามารถสร้าง AI Avatar ที่สามารถไลฟ์สตรีมแทนตัวเองได้ ทำให้ครีเอเตอร์สามารถสร้างรายได้แบบ passive income ผ่านแคมเปญอีคอมเมิร์ซและแคมเปญเชิงพันธมิตร (Affiliate Marketing) พร้อมทั้งมีเวลาสร้างสรรค์คอนเทนต์มากขึ้น
การทำเทคโนโลยี AI มาใช้กับครีเอเตอร์ อินฟลูเอนเซอร์ จะช่วยเพิ่มสีสันและยกระดับวงการ Live Commerce เติบโตไปอีกขั้น จากจุดเด่น AI Avatar ที่ไม่ได้มาทนแทนการทำงานของคน แต่มาช่วยให้ทำไลฟ์สตรีมได้ต่อเนื่องแม้ช่วงที่ครีเอเตอร์ต้องนอนหลับพักผ่อน สร้างรายได้ 24 ชั่วโมง
ปกติการทำไลฟ์สตรีมของครีเอเตอร์หรือคนทั่วไปเฉลี่ยวันละ 3-4 ชั่วโมง แต่ในยุคที่คนนิยมดู Live Commerce ตลอดทั้งวัน ดูเป็นคอนเทนต์บันเทิง จึงยังมีเวลาทองที่คนยังต้องการซื้อสินค้าอยู่ จุดนี้ AI Avatar จะมาตอบโจทย์การทำ Live Commerce แบบพลิกโฉมวงการให้เติบโตไปอีกขั้น
ปัจจุบันประเทศจีน มีความก้าวหน้าในการใช้ AI Avatar ไลฟ์ขายของมา 10 ปี จึงครองอันดับหนึ่งมูลค่ารายได้จาก Live Commerce โดยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) จะเป็นคลื่นลูกใหม่ต่อไป
จับมือ “หนุ่ย พงศ์สุข” ปั้น AI Creator Avatar คนแรกของวงการไอที
โครงการ AnyLive for Creators ได้เปิดตัว AI Creator Avatar คนแรกของวงการไอทีไทย โดยได้ร่วมมือกับ “คุณหนุ่ย – พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์” พิธีกร ครีเอเตอร์ ผู้ก่อตั้ง และ CEO บริษัท Show No Limit (BT Beartai) สร้าง AI Avatar ที่แบรนด์สามารถนำไปใช้ในการทำไลฟ์คอมเมิร์ซ
คุณหนุ่ย พงศ์สุข เป็นพิธีกรและครีเอเตอร์ชื่อดัง ผู้คร่ำหวอดในวงการไอทีมากว่า 30 ปี สร้างชื่อจากการรีวิวสินค้าและทำคอนเทนต์ไอทีผ่านช่อง BT Beartai มากว่า 25 ปี ปัจจุบันมีผู้ติดตามจำนวนมาก ทั้ง YouTube กว่า 1.5 ล้านคน, TikTok กว่า 380,000 คน, Instagram กว่า 56,000 คน และ X กว่า 120,000 คน ทำให้เป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์แถวหน้าของไทยที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมไอที
การสร้าง AI Avatar ของคุณหนุ่ย พงศ์สุข จะช่วยเปิดโอกาสให้แบรนด์ที่ต้องการทำ AI Live Streaming ผ่านแพลตฟอร์ม AnyLive สามารถใช้ครีเอเตอร์ ที่เป็นที่รู้จักสื่อสารกับผู้ชม โดยสามารถทำได้ทั้งการทำไลฟ์สตรีม คอนเทนต์ความรู้ รีวิวสินค้า
การพาร์ทเนอร์กันระหว่าง AnyMind Group กับคุณหนุ่ย พงศ์สุข จะช่วยทำให้ครีเอเตอร์เข้าสู่วงการไลฟ์คอมเมิร์ซได้ง่ายขึ้น เพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ของครีเอเตอร์แบบทางช่องทางอีคอมเมิร์ซและแคมเปญพันธมิตร (Affiliate campaign) ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้แบรนด์มีทางเลือกใหม่ในการทำการตลาด เพิ่มศักยภาพการขาย สามารถไลฟ์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยลดข้อจำกัดด้านเวลาและต้นทุนการใช้ครีเอเตอร์ตัวจริงในช่วงนอกเวลาพีคไทม์
การใช้ครีเอเตอร์ AI Avatar จะมีต้นทุนต่ำกว่าการใช้ครีเอเตอร์ตัวจริงราว 50%
คุณหนุ่ย พงศ์สุข กล่าวว่าจุดเด่นของ AI Avatar นี้ ไม่ได้มาทดแทนการทำงานของคน แต่คือการช่วยให้การไลฟ์สามารถดำเนินต่อได้แม้ในช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่ทำงานหรือนอนหลับ ปกติการทำงานของครีเอเตอร์โดยเฉลี่ยเต็มที่ทำคอนเทนต์ได้วันละ 3 คลิป การทำไลฟ์สตรีมวันละ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น เมื่อเป็น AI Avatar ก็ทำงานได้ 24 ชั่วโมง
เมื่อเป็น AI Avatar ที่ต้นทุนต่ำกว่าตัวจริง สินค้าแบรนด์เล็ก เอสเอ็มอี ก็สามารถเข้าถึง Personal ไม่ว่าจะเป็น หน้าตา บุคลิก เสียง ของหนุ่ย พงศ์สุข ได้ง่ายขึ้น โดยสคริปต์จะสร้างขึ้นและอนุญาตให้ใช้ตามที่ตกลงร่วมกัน การทำคอนเทนต์ AI Avatar ทุกครั้งจะบอกผู้ชมว่าที่ดูอยู่คือ AI
ชวนอินฟลูฯ-ครีเอเตอร์กลุ่มท็อปร่วมวง AI Avatar
หลังเปิดตัว AI Creator Avatar คนแรก ได้เดินหน้าโครงการ AnyLive for Creators ด้วยการชักชวนอินฟลูเอนเซอร์ ครีเอเตอร์ เซเลบ กลุ่ม Top tier ที่มีผู้ติดตาม 1 ล้านคนขึ้นไป ที่ต้องการทำ AI Avatar มาร่วมโครงการเพื่อสร้างสีสันและการเติบโตให้ตลาด Live Commerce
อินฟลูเอนเซอร์และครีเอเตอร์ ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก Identity ของแต่ละคนถือเป็น Asset ที่สามารถทำมาพัฒนาเป็น AI Avatar ต่อยอดสร้างรายได้หลากหลายช่องทาง เป็นโครงการที่ทำแล้ว “วินวิน” ทุกฝ่าย
ครีเอเตอร์ที่ร่วมทำโครงการ AnyLive for Creators สร้าง AI Avatar มาทำไลฟ์สตรีมขายสินค้าของตัวเอง
คุณปิยาภรณ์ แสนโกสิก (แม่ปุ้ย) ประธานกรรมการบริหาร บริษัท TPN Global ธุรกิจนางงาม มีแบรนด์ Aotura สินค้าด้านสุขภาพและความงาม เห็นโอกาสในตลาด Live Commerce ที่กำลังเติบโต และ TPN มีฐานแฟนคลับจำนวนมากที่ติดตามทุกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของ TPN การทดลองใช้ AI Avatar แม่ปุ้ย มาทำไลฟ์สตรีม ได้ผลตอบรับด้านยอดขายอย่างดี เพราะผู้ชมรู้จักแม่ปุ้ย จึงเข้ามาร่วมพูดคุยตลอดไลฟ์ อีกทั้งยังทำได้ตลอดเวลา สามารถสร้างยอดขายสินค้าได้แม้ในช่วงที่ตัวจริงพักผ่อนไปแล้ว
ทางด้าน คุณรวิศ หาญอุตสาหะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด เจ้าของแบรนด์ “ศรีจันทร์” มองว่าเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นในการนำ AI มาใช้งาน และเรียนรู้อะไรใหม่ๆ อีกมาก ในฝั่งแบรนด์เห็นโอกาสจากเทคโนโลยี AI Live Streaming ที่ยุคนี้ทำได้ง่ายขึ้น ด้วยต้นทุนที่ถูกลง
สิ่งที่น่าสนใจในยุคนี้คือคนชอบดู Live แต่คนที่จะมา Live ขายของมีความสามารถทำได้เพียง 2-3 ชั่วโมงต่อวันก็เหนื่อยแล้ว จึงเป็นข้อจำกัดในการทำ Live ดังนี้การทำ AI Avatar ของครีเอเตอร์ที่ผู้ชมรู้จักดีอยู่แล้ว จึงเป็นทางออกที่ดี เป็นการเปลี่ยนวิธีคิดการทำ Live Commerce ในยุคนี้ ที่จะเจอผู้คนได้ 24 ชั่วโมง และลูกค้าก็อยากซื้อของกับ “คน” ที่สามารถพูดคุยได้ ซึ่ง AI มีการพัฒนาการตอบคำถามได้แบบเรียลไทม์และตรงจุดมากขึ้น
การทำ AI Live ของแบรนด์ ไม่ว่ายอดขายจะมากหรือน้อยถือว่าดี เพราะเป็นการทำนอกเหนือจากเวลาที่ตัวจริงทำงาน ต่อไปจะพัฒนาให้เหมือนมนุษย์มากขึ้นและจะช่วยสร้างยอดขายได้ดีขึ้น
เทคโนโลยี AI จะเข้ามาเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตและการทำงาน เป็นช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านที่น่าสนใจ ผู้ที่ปรับตัวเรียนรู้เพื่ออยู่รอด จะเปลี่ยนผ่านไปได้ด้วยดี
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE








