“ผลลัพธ์ของความสดชื่น คืออะไร?” คำถามนี้คือจุดเริ่มต้นของโครงการอบอุ่นใจอย่าง “Space of Design” ที่แบรนด์สติกเกอร์ปรับอากาศ Merci Shine (เมอร์ซี่ ไชน์) ต่อยอดผลลัพธ์ว่า “เมื่อเรามีความสดชื่น ความคิดสร้างสรรค์ หรือไอเดียต่าง ๆ ก็จะถูกสรรสร้างออกมา” จากไอเดียนี้ Merci Shine จับมือกับ Artstory by Autistic Thai ปั้นโครงการที่ดึงผลงานศิลปะสุดสร้างสรรค์ของน้อง ๆ เด็กพิเศษมาไว้บนแผ่นสติกเกอร์ปรับอากาศที่ทั้งน่ารัก มีกลิ่นที่สดชื่น และกระตุ้นให้เกิดความสร้างสรรค์
Merci Shine แบรนด์ที่เปลี่ยนกลิ่นเป็นแรงบันดาลใจ
Merci Shine คือแบรนด์ที่ต่อยอดมาจากแบรนด์ Merci หรือแบรนด์หมวดกันยุงและไล่แมลงภายใต้เครือของ NR Pattana ซึ่งดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 70 ปี ในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยที่ Merci Shine ได้พัฒนากลุ่มเป้าหมายสู่กลุ่มครอบครัวด้วยสินค้าที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และเข้าถึงง่าย
หนึ่งในสินค้าที่โดดเด่นคือ Air Freshener Patch หรือสติกเกอร์ปรับอากาศที่ใช้น้ำมันสกัดจากธรรมชาติ เพื่อช่วยสร้างความสดชื่นทั้งในวันที่ป่วยและไม่ป่วย ผ่านการเลือกใช้กลิ่นในสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น
- กลิ่นลาเวนเดอร์ ช่วยให้ผ่อนคลายหลับสบาย
- กลิ่นเปปเปอร์มินท์ ช่วยให้หอมสดชื่น
- กลิ่นหัวหอม ที่ช่วยลดน้ำมูกให้จมูกโล่งได้
นอกเหนือจากกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์สติกเกอร์เหล่านี้ถูกพัฒนาให้ใช้งานง่าย เช่น ความหอมยาวนานกว่า 12 ชม. หรือการลอกออกโดยไม่ทิ้งคราบ อีกสิ่งที่เราสังเกตได้คือสติกเกอร์ทุกกลิ่นมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในการสร้างความสดชื่น ซึ่งแบรนด์ได้หยิบเอาจุดเด่นนี้มาต่อยอดสู่ความสร้างสรรค์ในโครงการ Space of Design นั่นเอง
สมิทธิ์ ชาติพาณิชย์ ผู้บริหาร N.R.Pattana Group (ซ้าย) และวรัท จันทยานนท์ ผู้บริหาร Artstory by Autistic Thai (ขวา)
Artstory By Autistic Thai พาร์ทเนอร์ความสร้างสรรค์ที่โดดเด่น
“หลายครอบครัวเลือกที่จะให้เด็ก ๆ ได้เรียนหรือทำกิจกรรมเกี่ยวกับศิลปะตั้งแต่ยังเล็ก อาจจะด้วยเหตุผลด้านการฝึกจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ การพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก ฝึกฝนสมาธิ หรือแม้กระทั่งการต่อยอดไปสู่อาชีพ…” สมิทธิ์ ชาติพาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจ เครือ NR Pattana เล่า
ด้วยความเชื่อว่าศิลปะคือพื้นฐานที่สำคัญของเด็กๆ ในที่ด้านต่างๆ ทำให้ Merci Shine ตัดสินจับมือกับพันธมิตรคนสำคัญอย่าง Artstory by Autistic Thai ที่มีเป้าหมายในการพัฒนาศักยภาพที่ซ่อนในตัวเด็กพิเศษ และให้น้อง ๆ ต่อยอดไปสู่การสร้างรายได้ ผ่านการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่โดดเด่นของน้อง ๆ
ในขณะที่ทาง Artstory by Autistic Thai มองว่าโครงการนี้เป็นโอกาสที่ดีสำหรับน้อง ๆ เด็กพิเศษได้แสดงศักยภาพให้คนทั่วไปผ่านช่องทางการขายต่างๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ จึงตัดสินใจเข้าร่วมและจับมือกันออกแบบ limited collection อย่าง “Happy Onion” บนแผ่นสติกเกอร์กลิ่นหัวหอมของทาง Merci Shine ที่ทั้งสร้างสรรค์และน่าสนใจจนน่าเก็บสะสม
Merci Shine เปิดกว้างพร้อมสร้าง Collaboration ไอเดียใหม่ๆ
โครงการ Space of Design ยังไม่จบเพียงเท่านี้ และ แบรนด์ยังวางแผนที่จะขยายความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ด้านความสร้างสรรค์และศิลปะใหม่ ๆ เพื่อสร้างสรรค์ลวดลายที่หลากหลาย เปิดกว้าง และตอบโจทย์ความต้องการของตลาด สำหรับสติกเกอร์ทุกกลิ่น รวมถึงกลิ่นใหม่ ๆ ในอนาคตด้วย ที่สำคัญคือพันธมิตรที่มีมุมมองเปิดกว้างให้กับความสร้างสรรค์เหมือนกันและพร้อมที่จะเติบโตไปพร้อมกับ Merci Shine
อมรศักดิ์ กนกโชติกุล รองกรรมการฝ่ายขาย เสริมว่า “ในมุมของการทำธุรกิจกับคู่ค้า ทางแบรนด์มุ่งมั่นที่จะพัฒนาและผลิตสินค้าที่มีคุณภาพรวมทั้งสร้างจุดขายใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด เพื่อสร้างโอกาสการขายที่มากขึ้นและเติบโตไปพร้อมกันกับคู่ค้า”
เพื่อเป็นการต่อยอดและสร้างความต่อเนื่องของแนวคิด “Space of Design” ทางแบรนด์ Merci Shine มีความยินดีที่จะร่วมมือกับพันธมิตรต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์สินค้า หรือพันธมิตรคู่ค้า ที่มีปณิธานและมุมมองในการสนับสนุนไอเดียและความคิดสร้างสรรค์ที่สอดคล้องกัน เพื่อสรรสร้างลวดลายงานศิลปะใหม่ ๆ บนแผ่นสติกเกอร์ปรับอากาศ Merci Shine ทั้งสติกเกอร์หัวหอม สติกเกอร์เปปเปอร์มินต์ สติกเกอร์ลาเวนเดอร์ รวมถึงกลิ่นใหม่ ๆ ในอนาคต เพราะเราเชื่อว่า “เมื่อคนเรามีความสดชื่น ความคิดสร้างสรรค์ หรือไอเดียต่าง ๆ ก็จะถูกสรรสร้างออกมา” ปิยพงศ์ ไอยะรา รองกรรมการฝ่ายส่วนกลางและพัฒนาธุรกิจกล่าวปิดท้าย
สมิทธิ์ ชาติพาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจ (แถวหลังที่ 2 จากขวา) ปิยพงศ์ ไอยะรา รองกรรมการฝ่ายส่วนกลางและพัฒนาธุรกิจ (แถวหลังขวาสุด) อมรศักดิ์ กนกโชติกุล รองกรรมการฝ่ายขาย (แถวหลังซ้ายสุด) และทีมงานแผนกการตลาด N.R. Pattana
การเชื่อมโยงกลิ่นของความสดชื่นที่เป็นความโดดเด่นของแบรนด์ Merci Shine สู่ความคิดสร้างสรรค์และการริเริ่มสิ่งใหม่ๆ ไม่เพียงสะท้อนให้เห็นความตั้งใจทำให้น่ารักถูกใจเด็กๆ และครอบครัวกลุ่มเป้าหมาย แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงการสร้างความสัมพันธ์ทางอารมณ์กับกลุ่มครอบครัว รวมถึงผลงานที่สร้างสรรค์โดยน้องๆ เด็กพิเศษยังเพิ่มคุณค่าและเรื่องราวให้กับสินค้าได้อย่างน่าจดจำ
สำหรับใครที่อยากรับความสดชื่นที่จะช่วยให้เกิดความสร้างสรรค์ หรืออยากสะสมผลงานของน้องๆ สามารถซื้อสติกเกอร์ปรับอากาศได้ทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ เช่น 7-11, Watson, ร้านขายยาและร้านจำหน่ายสินค้ากลุ่มแม่และเด็กทั่วประเทศ