
แต่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ครองใจผู้บริโภค Gen Z อย่าง “ช้อปปี้” (Shopee) สามารถสร้างแบรนด์ให้เติบโตได้รวดเร็วจนมัดใจนักช้อปรุ่นใหม่ ด้วยการเป็นหนึ่งในแอปพลิเคชั่นแรกๆ ที่อยู่ใน Online Journey ของคนรุ่นใหม่ ทั้งยังคว้ารางวัล สุดยอดแบรนด์ครองใจ GEN Z ในหมวด Marketplace & Ecommerce Platform จากผลสำรวจ GEN Z TOP BRAND 2025 : สุดยอดแบรนด์ครองใจ Gen Z เป็นครั้งแรกของ Brand Buffet จึงน่าสนใจว่า ช้อปปี้ ทำยังไงถึงได้ใจคนรุ่นใหม่ขนาดนี้ ลองมาฟังวิธีคิดและการทำงานจาก คุณคงกฤช ล้อเลิศรัตนะ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจการตลาด ช้อปปี้ (ประเทศไทย)
มัดใจ Gen Z ได้ Gen อื่นก็อยู่หมัด
ปีนี้เป็นปีที่ 10 แล้วที่ “ช้อปปี้” เข้ามาบุกตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย แต่หากย้อนกลับไปเมื่อปี 2558 ที่เริ่มเปิดตัว “ช้อปปี้ แอปพลิเคชั่น” ทิศทางของตลาดอีคอมเมิร์ซในไทยตอนนั้นยังไม่ได้เติบโตเร็วเท่าปัจจุบัน แต่ช้อปปี้ก็สามารถขยายฐานนักช้อปเพิ่มขึ้นมาตลอด จากวันแรกที่มีแค่กลุ่ม Gen Y ปัจจุบันครอบคลุมทุกกลุ่ม ตั้งแต่ Gen Z, Gen Y, Gen X ไปถึง Baby Boomer
“Gen Z เป็นเจนเนอเรชั่นใหม่ในตลาดอีคอมเมิร์ซ ปัจจุบัน Spending Power ยังไม่สูงมากเมื่อเทียบกับ Gen Y แต่เป็นกลุ่มที่มีอัตราเติบโตสูงที่สุดในแง่ New User ถ้าเขาซื้อสินค้าออนไลน์ครั้งแรกจะสามารถ Trigger Point ได้ง่าย เพราะทุกอย่าง Seamless บนมือถือ ที่สำคัญเป็นกลุ่มที่ Generate Trend เนื่องจากเติบโตมาพร้อมเทคโนโลยีดิจิทัล และโซเชียลมีเดีย ถ้าเราตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ได้ จะทำให้ตอบโจทย์กลุ่มอื่นๆ ตามมาด้วย”
“เข้าใจอินไซต์-ฟีเจอร์ตรงใจ” อาวุธลับ มัดใจ Gen Z
ถึงแม้ว่า Gen Z จะเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลสูงในตลาดอีคอมเมิร์ซ แต่คุณคงกฤช ยอมรับว่า การทำตลาดก็ท้าทายมาก เนื่องจากพฤติกรรมและความต้องการของคนรุ่นใหม่มีความแตกต่างจาก Generation อื่น แต่ที่เหมือนกันในการช้อปปิ้งออนไลน์คือ ต้องการ “ความคุ้มค่า” และเมื่อศึกษาลงลึกไปอีก จะพบว่า ความคุ้มค่าของคนเจนนี้ไม่ได้มองแค่เรื่อง “ราคาถูก” ที่สุดเหมือน Gen X และ Gen Y อีกทั้งความคุ้มค่าของแต่ละคนยังไม่เหมือนกัน บางคนหมายถึงคุณภาพ บางคนหมายถึงแบรนด์ที่สะท้อนความเป็นตัวเอง และประสบการณ์ที่ตอบไลฟ์สไตล์ รวมทั้งนักช้อป Gen Z หลายคนก็ไม่ได้มองหาการซื้อสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่ยังมองหาความบันเทิงในแบบใหม่ๆ จากการช้อปปิ้งด้วย
หัวใจของการทำตลาดกับ Gen Z คุณคงกฤช มองว่า ต้องมี 3 สิ่ง นั่นคือ รวดเร็ว จริงใจ และรู้จริง สาเหตุที่ต้องเร็วเพราะคน Gen นี้ต้องการทุกอย่างแบบ Real-Time อีกทั้งยังเข้าถึงสื่อได้หลากหลาย ทำให้เช็กข้อมูลหรือสิ่งที่แบรนด์สื่อสารได้ง่ายดาย ความจริงใจจึงสำคัญมาก ประกอบกับทุกวันนี้ตัวเลือกในตลาดมีเยอะ ทำให้ Gen Z ต้องการ Expertise ที่รู้ลึกในเรื่องราวเหล่านั้นจริงๆ
เมื่อพฤติกรรมเป็นแบบนี้ แนวทางที่ช้อปปี้ใช้ แกนหลักยังอยู่บนความ “เข้าใจ” ความต้องการของ Gen Z เพื่อสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งรูปแบบใหม่อยู่เสมอ โดยช้อปปี้จะจับเทรนด์และเช็ก Consumer Research ต่อเนื่องตลอดว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร และหยิบมาสร้างฟีเจอร์ใหม่ๆ ให้ตรงใจผู้บริโภค คุณคงกฤช บอกว่า การใช้วิธีนี้ทำให้ช้อปปี้ เข้าใจการใช้งานของผู้บริโภคจริงๆ ว่าต้องการอะไร และกลายเป็นจุดแข็งสำคัญของช้อปปี้

รวมทั้งพัฒนาฟีเจอร์ให้รองรับการทำ Content Commerce ของครีเอเตอร์ ซึ่งเป็นกระบอกเสียงช่วยสร้างการรับรู้ผลิตภัณฑ์ แคมเปญ และดึงคนเข้ามาในแพลตฟอร์มด้วย ซึ่งล่าสุดได้จับมือ YouTube ผ่าน YouTube Shopping Affiliate Program ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่จะเชื่อมโยงผู้ขาย ผู้ซื้อ และครีเอเตอร์ไว้ด้วยกัน ทำให้นักช้อปเลือกซื้อสินค้าได้แบบไร้รอยต่อ ทั้งยังสร้างรายได้ให้กับครีเอเตอร์จากการแชร์ลิงก์สินค้าจากอีคอมเมิร์ช
แคมเปญการตลาดที่หลากหลาย สอดคล้องกับการใช้ชีวิต Gen Z
นอกจากการพัฒนาฟีเจอร์ให้ตรงใจแล้ว การสร้างแคมเปญ ให้เป็นที่น่าจดจำ รวมถึงเชื่อมโยงแบรนด์กับผู้บริโภค เพื่อให้มีประสบการณ์ร่วมกับแบรนด์ ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญของช้อปปี้ที่ช่วยขยายฐานลูกค้า Gen Z ให้เพิ่มขึ้นด้วย โดยทุกครั้งที่ทำแคมเปญช้อปปี้จะดึง อินไซต์ของนักช้อปและเทรนด์มาออกแบบ ทำให้ตอบสนองความต้องการ และสามารถสร้างประสบการณ์ใหม่ในการช้อปปิ้งด้วย
ยกตัวอย่างการทำแคมเปญ Shopee Live Hour ก็เริ่มมาจากการเห็นแนวโน้มเทรนด์ไลฟ์สตรีมมิ่งเติบโตเพิ่มขึ้น ประกอบกับความเข้าใจในพฤติกรรมนักช้อปรุ่นใหม่ที่มองหาสินค้าที่คุ้มค่า จึงสร้างแคมเปญนี้ขึ้น โดยให้ครีเอเตอร์มาไลฟ์ขายสินค้าได้ทั้งวัน พร้อมแจก Unlimited Voucher สูงสุด 30% ให้กับผู้ซื้อ ผลคือ ลูกค้าตอบรับดีมากแถมยังสร้างพฤติกรรมผู้บริโภคให้เกิดการซื้อของในไลฟ์สตรีมและเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้คนรุ่นใหม่พูดถึงช้อปปี้มากขึ้นด้วย
“ปรับตัวให้เร็ว” หัวใจรับมือ Gen Z เปลี่ยนเร็วกว่าเดิม
ที่ผ่านมาช้อปปี้มีเครื่องมือทางการตลาดหลากหลายรูปแบบเพื่อให้เข้าใจคนรุ่นใหม่ แต่ คุณคงกฤช บอกว่า ทุกวันนี้ Gen Z เปลี่ยนแปลง “เร็ว” ขึ้นกว่าเดิม ทำให้การทำตลาดท้าทายมากขึ้น เพราะสิ่งที่เป็นเทรนด์ในวันนี้ พรุ่งนี้อาจจะหายไปได้เลย การมอนิเตอร์พฤติกรรมผู้บริโภคจึงไม่ได้ทำไตรมาสละครั้ง แต่ต้องทำทุกวัน อย่างเช่นคอนเทนต์ใน Shopee Live ต้องมอนิเตอร์ตลอดเวลา เมื่อมีคอนเทนต์ไหนเป็นกระแสขึ้นมา สามารถหยิบมาขยี้ต่อ หรือมีเทรนด์ไหนเกิดขึ้น ก็ Work ได้ทันที ในฝั่งสินค้า ถ้าสินค้าไหนกำลังอยู่ในกระแสแล้วคนตามหาจนหมดสต็อก ทีมขายก็ต้องคุยกับผู้ขายเพื่อช่วยหาสินค้ามาตอบความต้องการให้เร็วที่สุด เพราะถ้าไม่สามารถตอบสนองความต้องการได้ ผ่านไป 1 เดือน อาจจะไม่ใหม่แล้ว
นั่นจึงทำให้ช้อปปี้ต้องพร้อม “ปรับตัว” อย่างรวดเร็วในทุกสถานการณ์ เพื่อให้ทันเทรนด์และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา และนำมาพัฒนาฟีเจอร์ รวมถึงแคมเปญต่างๆ ได้รวดเร็วอยู่เสมอ ส่งผลให้กลยุทธ์ในครึ่งปีหลังนี้ ช้อปปี้ยังคงให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์ช้อปปี้ใหม่ๆ ผ่านแคมเปญและฟีเจอร์ใหม่ๆ ต่อเนื่อง

“เราเริ่มทำ Golden Tick Program มาระยะหนึ่งแล้ว ตอนนี้มีครีเอเตอร์ใน Golden Tick หลายพันคน และเชื่อว่าจะค่อยๆ ใหญ่ขึ้น จนกลายเป็น Community of Content เพื่อเป็นแม่เหล็กดึงดูดครีเอเตอร์ที่สนใจทำคอนเทนต์เข้ามาในแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้น รวมทั้งดึงผู้บริโภคให้เข้ามาเพลิดเพลินกับคอนเทนต์และอยู่กับเรามากขึ้น”
นี่คือ กลยุทธ์สำคัญในการสร้างฐานนักช้อปรุ่นใหม่ และทำให้ “ช้อปปี้” ยังคงเป็นแอปพลิเคชันที่อยู่ในใจนักช้อปรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง พร้อมๆ กับเพิ่มสัดส่วนฐานลูกค้า Gen Z ให้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ เพราะอนาคต คุณคงกฤช มองว่า ลูกค้ากลุ่มนี้อาจจะกลายเป็น New Source ที่สร้างการเติบโตให้กับช้อปปี้ต่อไปก็ได้”



