CHAGEE เป็นแบรนด์ชาจีนที่วาง Positioning เอาไว้ในระดับพรีเมี่ยม เคยเปิดตัวที่ประเทศไทยแล้วตั้งแต่ปี 2565 แต่ในครั้งนั้นเป็นแฟรนไชส์ที่ถือสิทธิ์ดำเนินกิจการในประเทศไทย แต่ล่าสุด CHAGEE บริษัทแม่จากประเทศจีน ขอบุกตลาดประเทศไทยด้วยตัวเอง และนี่คือ 5 ประเด็นสำคัญ ของแบรนด์ชาที่มีสาขามากกว่า 6,000 แห่งทั่วโลก จนสามารถเข้า IPOในตลาดหุ้น Nasdaq และทำให้ Zhang Junjie กลายเป็นหนุ่มวัย 30 ที่มีสินทรัพย์ 2.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 86,700 ล้านบาท
1.CHAGEEมีต้นกำเนิดจากมณฑลยูนนาน ประเทศจีน เปิดตัวสาขาแรกเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2017 นั่นทำให้ในวันที่เปิดร้านอย่างเป็นทางการในประเทศไทยที่ Park Silom ทาง CHAGEE ก็ถือฤกษ์เอาเลข 11.17 น. มาเป็นเวลาตัดริบบิ้นเปิดร้าน เดิมที Zhang Junjie ตั้งชื่อแบรนด์ของเขาว่า 霸王茶姬 Bà Wáng chájī อ่านว่า ป้าหวังชาจี มาจากตัวละคร ฌ้อป้าอ๋อง ในประวัติศาสตร์ ซึ่งเรื่องราวของเขาในช่วงที่ต้องผิดหวังจากผลของสงครามจนฆ่าตัวตายพร้อมสนม เป็นบทงิ้วที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ต่อมาก็รีแบรนด์เหลือเพียงแค่คำว่า CHAGEE พร้อมโลโก้ที่เป็นรูปนางเอกงิ้วแสนสวยบนแก้ว ควบคู่กับลวดลายที่ทางแบรนด์อยากนำเสนอการเดินทางของชาโบราณ ผ่าน เส้นทางสายไหม (Silk Road) นั่นทำให้มีลวดลายบนแก้ว การตกแต่งร้าน และของที่ระลึกต่างๆ พยายามเล่าถึง “เส้นทางการค้า”
ต้าห์อู๋-พิทยา แซ่ฉั่ว นักร้อง-นักแสดง ร่วมประสบการณ์ชา ตัดริบบิ้นตอน 11.17 น.
2. การกลับมาดำเนินกิจการในประเทศในครั้งนี้ ทาง CHAGEE เล่าถึงความแตกต่างว่า “เดิม CHAGEE ในประเทศไทยเปิดโดยแฟรนไชส์ ซึ่งอาจจะทำให้อุปกรณ์ต่างๆ ไม่ครบถ้วน รวมทั้งเน้นให้บริการในรูปแบบ Take Away และ Delivery เป็นหลัก แต่เมื่อบริษัทแม่เข้ามาด้วยตัวเองก็อยากจะถ่ายทอด Tea Bar Experience อย่างเต็มรูปแบบให้กับลูกค้าชาวไทย”
ประสบการณ์การดื่มชาของ CHANGEE แบ่งเป็น 5 ประสาทสัมผัส Touch ที่ใช้การตกแต่งร้านด้วยไม้ สื่อถึงความมุ่งมั่น อบอุ่น Vision ใช้พื้นที่และการจัดแสงที่สบายตา นุ่มนวล Hearing มีเสียงของหยดน้ำของการชงชา Smell กลิ่นชาที่ชงเสร็จใหม่ๆ หอมอบอวลภายในร้าน Taste กำหนดอายุชาทุกๆ badge ที่ชง เช่น ไม่เกิน 4 ชั่วโมง ถ้าหากเกินก็จะไม่นำมาใช้เสิร์ฟให้ลูกค้า เพื่อรักษาคุณภาพ
3. สำหรับ Signature Menu ของ CHAGEE ก็คือ Jasmine Green Milk Tea ในปี 2022 CHAGEE เสิร์ฟเมนูนี้ให้กับลูกค้าถึง 20 ล้านแก้วตลอดปี อีกเมนูที่ฮิตไม่แพ้กันก็คือ Da Hong Pao Milk Tea ทำมาจากใบชาต้าหงเผา – อู่หลงระดับพรีเมี่ยม
นอกจากนี้กิจกรรมการตลาดอีกอย่างที่เป็นเอกลักษณ์แล้วสร้างสีสันในวันพิเศษได้อย่างสม่ำเสมอก็คือ Tear & Win ลุ้นรางวัลที่มีตั้งแต่ส่วนลดเครื่องดื่ม ไปจนถึง Gadget อย่าง iPad, โทรศัพท์มือถือได้เลย CHAGEE ยังดึงเอาเทคโนโลยีต่างๆ ในใช้ในการทำธุรกิจร้านชา เช่น ระบบสะสมแต้ม การเรียกคิวแบบเรียล-ไทม์ และแจ้งเตือนเมื่อเครื่องดื่มพร้อมให้บริหาร
4. CHAGEE ตั้งเป้าเปิด 5 สาขาภายในปีนี้ โดยเปิดแล้ว 3 สาขา ที่ Exchage Tower, Vanit Viiage และ Park Silom ส่วนอีก 2 สาขาที่จะตามมาจะอยู่ในทำเลศูนย์การค้าที่ได้รับความนิยม หลังจากนั้นจะมองหาพื้นที่และโอกาส รวมทั้งเสียงตอบรับจากลูกค้าคนไทย และไม่ปิดกั้นการเปิดในต่างจังหวัด
5.ปัจจุบัน CHAGEE มีสาขามากกว่า 6,000 แห่ง (ข้อมูล ณ พฤษภาคม 2568) ในประเทศจีน, มาเลเซีย, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย ไปจนถึงฝรั่งเศส นอกเหนือจากโมเดลร้านแบบที่เห็นกันทั่วไปในหลายประเทศแล้ว ในประเทศจีน ยังมีโมเดลที่ให้บริการโดยผู้บกพร่องทางการได้ยิน ไปจนถึงสาขารูปแบบ Pet Friendly อีกด้วย