เดอะโคคา-โคล่า คัมปะนี ไทยน้ำทิพย์ และสไวร์ โคคา-โคล่า ได้ลงนามในข้อตกลงร่วมกันเพื่อผนึกกำลังในการขยายตลาดภูมิภาคอาเซียนตอนเหนือ ซึ่งรวมถึงประเทศไทย ลาว เวียดนาม และกัมพูชา
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เกิดจากการที่ทาง “เดอะโคคา-โคล่า คัมปะนี” จะทำการขายหุ้นในไทยน้ำทิพย์บางส่วนคืนให้กับผู้ถือหุ้นไทย และบางส่วนให้กับสไวร์ โคคา-โคล่า เพื่อทำตลาดใน ภูมิภาคอาเซียนตอนเหนือ
สไวร์ โคคา-โคล่า คือ ใคร?
สไวร์ โคคา-โคล่า (Swire Coca-Cola) เป็นหน่วยธุรกิจของสไวร์ แปซิฟิค ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง โดยเป็นผู้ผลิตและจำหน่าย (Bottler) ผลิตภัณฑ์โคคา-โคล่าที่มีปริมาณการผลิตสูงเป็นลำดับที่ 5ของโลก โดยได้รับสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในการผลิต กระจายสินค้า และจัดจำหน่าย ใน 11 มณฑลของจีน รวมถึงเซี่ยงไฮ้ ฮ่องกง ไต้หวัน และใน 13 รัฐ ในสหรัฐอเมริกา สไวร์ โคคา โคล่า เป็นบริษัทพันธมิตรในกลุ่มธุรกิจโคคา-โคล่า ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2508 โดยเข้าเป็นผู้ถือหุ้นหลักของบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายในฮ่องกง สไวร์ โคคา-โคล่า ผลิตเครื่องดื่มกว่า 60 แบรนด์ และกระจายสินค้าให้ผู้บริโภคกว่า 880 ล้านราย ในปี 2565 Swire Coca-Cola เข้าถือสิทธิ์การผลิตและการขายในกัมพูชาและเวียดนาม ด้วยมูลค่า 1,010 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยซื้อสิทธิ์มาจาก Coca-cola Japan
ไทยน้ำทิพย์ ลุย ‘กัมพูชา-เวียดนาม’ ร่วมกัน
ไทยน้ำทิพย์ คอร์ปอเรชั่น เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าโคคา-โคล่า ตั้งแต่ปี พ.ศ.2502 ในฐานะผู้นำตลาดเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ไทยน้ำทิพย์ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์กว่า 200 รายการผ่านช่องทางกระจายสินค้ากว่า 430,000 แห่งไทยน้ำทิพย์มีสาขาและสำนักงานขายกว่า 50 แห่ง โรงงานที่ทันสมัย 5 แห่งมีกำลังการผลิตรวมกว่า 450 ล้านลังต่อปี คลังสินค้ามากกว่า 50 แห่ง รถขนส่งสินค้ากว่า 1,500 คัน โดยมีพนักงานกว่า 8,000 คนทั่วประเทศ ไทยนำ้ทิพย์ร่วมมือกับ Coca-Cala เพื่อบุกตลาดในประเทศลาวตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 โดยตั้งโรงงานที่เวียงจันทน์ ผลิตเครื่องดื่มโค้ก แฟนต้า และสไปร์ท
หลังข้อตกลงดังกล่าวบรรลุ จะทำให้ ไทยน้ำทิพย์ และ สไวร์ โคคา-โคล่า ได้สิทธิ์ในการทำตลาดในภูมิภาคอาเซียนตอนเหนือ 4 ประเทศ ได้แก่ ไทย ลาว เวียดนาม และกัมพูชาร่วมกัน โดยไทยน้ำทิพย์ มีความเชี่ยวชาญและความเข้าใจในตลาดในประเทศไทยและลาวอย่างลึกซึ้ง ในขณะที่ สไวร์ โคคา-โคล่า มีประสบการณ์ในการบริหารธุรกิจเครื่องดื่มในหลายประเทศทั่วโลก การผนึกกำลังของทั้ง สองบริษัท จะเป็นการนำศักยภาพ ขนาดของธุรกิจ รวมถึงขีดความสามารถในการลงทุนในตลาดท้องถิ่น เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE