HomeBrand Move !!จากนี้ไปต้อง “ดิจิทัล” ให้มากขึ้น กางแผน KFC ในมือ CRG กับการปูพรม Digital Store รับเทรนด์คนยุคใหม่

จากนี้ไปต้อง “ดิจิทัล” ให้มากขึ้น กางแผน KFC ในมือ CRG กับการปูพรม Digital Store รับเทรนด์คนยุคใหม่

แชร์ :

 KFC

ภาพรวมธุรกิจร้านอาหารหลังการระบาดของโควิด-19 เริ่มกลับมาเติบโตอีกครั้ง ซึ่งเป็นผลมาจากประชาชนออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น โดย “ร้านอาหาร” คืออีกหนึ่งคีย์ฟังก์ชั่นหลักที่เป็นสถานที่ของการพบปะสังสรรค์ รับประทานอาหารร่วมกัน เหล่านี้ส่งผลให้ร้านอาหารกว่า 4 แสนล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

เมื่อส่องเข้าไปในธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน หรือ QSR มูลค่ากว่า 4.5 หมื่นล้านบาท ที่ประกอบไปด้วย ตลาดเบอร์เกอร์ พิซซ่า และไก่ทอด จะพบว่าตลาดไก่ทอดมีมูลค่ากว่า 2.5 หมื่นล้านบาท เติบโตที่ดีกว่าตลาด QSR โดยรวมเนื่องจากความนิยมและกระแสที่ดีของตลาดไก่ทอดตลอดช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เล่นทั้งหน้าใหม่ และหน้าเก่าเข้ามารุกตลาดมากมาย

ทำให้ เคเอฟซี (KFC) ในฐานะผู้นำตลาดไก่ทอดที่ครองส่วนแบ่งการตลาดกว่า 80-90% (ภาพรวม KFC จากทั้ง 3 ผู้ถือสิทธิ์หลัก ได้แก่ CRG,FOA และ RD) ได้ปรับกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง โดยการปรับทัพที่น่าสนใจของ KFC ในครั้งนี้มาจาก CRG หรือ  บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หนึ่งในผู้ถือสิทธิ์แฟรนไชส์ KFC ในประเทศไทยด้วยจำนวนสาขากว่า 330 แห่ง (เพิ่มเป็น 335 แห่งในสิ้นปีนี้) กับการเปิด “KFC Digital Lifestyle Hub” โมเดลใหม่ล่าสุดที่เข้ามาตอบโจทย์เทรนด์ผู้บริโภค กับ Flagship Store ในรูปแบบ Digital สาขาต้นแบบที่เซ็นทรัลเวิลด์

คุณปิยะพงศ์ จิตต์จำนงค์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส QSR & Western Cuisine ผู้บริหารแบรนด์ KFC ภายใต้การบริหารโดย บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (CRG) กล่าวถึงแนวโน้มการแข่งขันในตลาด QSR เมืองไทยว่า ปัจจุบันตลาด QSR เริ่มกลับมาเติบโตได้ดีอีกครั้ง โดยเฉพาะตลาดไก่ทอดที่แม้จะมีผู้เล่นเข้ามามากมาย แต่ทว่าความนิยมและการเติบโตยังมีช่องว่างอีกมาก แน่นอนแม้ตลาดจะเติบโตสูง แต่ทว่าสิ่งที่จะทำให้แบรนด์เติบโตอย่างมั่นคงต่อเนื่อง คือการปรับตัวเพื่อรองรับการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นตลอดเวลา ตามพฤติกรรมผู้บริโภค

 

คุณปิยะพงศ์ จิตต์จำนงค์

คุณปิยะพงศ์ จิตต์จำนงค์

 

ดังนั้นการจะแข่งขันในตลาด QSR โดยเฉพาะไก่ทอดที่มีผู้เล่นมากขึ้น การปรับตัวคือสิ่งสำคัญที่แบรนด์จำเป็นต้องมี ทำให้ช่วงที่ผ่านมา CRG มีการสร้าง Ambien ใหม่ๆ เข้ามาภายในร้าน ตั้งแต่การเพิ่มช่องทาง Delivery platform ที่ เคเอฟซี ได้เข้าร่วมกับ Food Aggregator รายหลัก ๆ ทั้งหมด รวมถึง Robinhood และยังมีช่องทางของ เคเอฟซี เอง ที่ให้บริการทั้ง Delivery และ รับที่ร้าน (Just pick up) ไปจนถึงการเปิดตัว

ลุย Digital Store รับเทรนด์การบริโภคยุคใหม่ เมื่อโลกดิจิทัลเข้ามามี Disrupt ธุรกิจร้านอาหาร

การรีเฟรชแบรนด์ KFC ด้วยการเปลี่ยนโฉมร้าน KFC Flagship Store @CentralwOrld ในครั้งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการสร้างแบรนด์ให้ทันสมัย ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ในยุคที่ Digital เข้ามา Disrupt ในทุกอุตสาหกรรม ไม่เว้นแม้กระทั่งอาหาร KFC โฉมใหม่แห่งนี้จึงมาพร้อมคอนเซ็ปต์ “KFC Digital Lifestyle Hub” ที่ตั้งอยู่บนชั้น 6 เซ็นทรัลเวิลด์ โดยเปิดให้บริการไปเมื่อวันที่ 17 พ.ย. 66  ที่ถือเป็นต้นแบบการปรับเป็น Digital Store และโชว์การเปลี่ยนบรรยากาศในร้านให้ตรงกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่มากขึ้น

 

KFC Digital Lifestyle Hub

KFC Digital Lifestyle Hub

 

ความพิเศษของ “KFC Digital Lifestyle Hub” โฉมใหม่นี้ มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ล้ำสมัยในบรรยากาศที่ดีที่สุด ทันสมัยที่สุด พร้อมเปิดตัวบริการต่างๆ เพื่อรองรับความเป็นดิจิทัลไลฟ์สไตล์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น

Bucket Kiosk จุดสั่งอาหารผ่านเครื่องสั่งอาหารและชำระเงินอัตโนมัติรองรับวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ ให้เลือกและสั่งอาหารด้วยตนเองได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้สามารถสัมผัสประสบการณ์การรับประทานที่สนุกขึ้นกว่าเดิม

-จุด Photo Spot ภายในร้านด้วยภาพ “Bucket Crew Space” ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของ KFC ผ่านมุมมองของศิลปินกราฟฟิตี้ชาวไทย JECKS BKK (ธัชกร ศิรวัชรเดช)

-บริการ KFC Café by Arigato Coffee Bar มุมกาแฟใหม่ในร้านอีกด้วย

 

KFC Digital Lifestyle Hub @ CTW

 

ทุ่ม 500 ล้านบาท เปิด KFC Digital Lifestyle Hub เพิ่มอีก 40 แห่งในปีหน้ารับเทรนด์คนรุ่นใหม่

ลำดับถัดไป CRG จะเร่งขยายสาขาและรีโนเวตโฉมใหม่ในรูปแบบ Digital Store มากขึ้น ภายใต้งบประมาณกว่า 500 ล้านบาท โดยในปีหน้าจะขยายเพิ่มอีก 40 แห่ง จากปัจจุบันที่มีอยู่ 10 แห่ง

 

“ปัจจุบันซีอาร์จีมีร้าน Digital Store อยู่ 10 สาขาแล้ว ทั้งนี้หลังจากการเปิดให้บริการตลอดช่วงที่ผ่านมาพบว่า สัดส่วนลูกค้าที่เข้าร้านดิจิทัลสโตร์นี้ มีการสั่งผ่านระบบดิจิทัลมากกว่า 75% ของจำนวนออเดอร์ทั้งหมดและยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทำให้เราโฟกัสไปที่การขยายสาขาแบบดิจิทัลมากขึ้นในปีหน้า”

 

การเปลี่ยนโฉมร้านเคเอฟซีในครั้งนี้ จุดมุ่งหมายเพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ชอบทดลองอะไรใหม่ ๆ ต้องการความอร่อย สะดวกและราคาที่เข้าถึงง่าย จึงคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี สามารถสร้าง Engagement กับกลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่มคนทำงาน และผู้มาใช้บริการที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และช่วยสร้าง Top of Mind ได้ โดยมีเป้าหมาย 3-5 ปีจากนี้ KFC ในมือของ CRG จะต้องมี Digital Store  มากขึ้น ไปพร้อมกับการนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาใช้ในร้านเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

 

KFC Digital Lifestyle Hub 2

 

ร้านโมเดล KFC Digital Lifestyle Hub นี้จะเข้ามาเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าและยังเป็นการเสริมทัพโมเดลอื่นๆ ที่มีมาแล้ว เช่น โมเดลสาขาในศูนย์การค้า และ ไฮเปอร์มาร์เก็ต, โมเดลสาขาในสถานีบริการน้ำมัน, โมเดล Shop House ด้วยการนำอาคารพาณิชย์ หรือตึกแถวที่อยู่ในย่านชุมชน มาปรับเปลี่ยนเป็นร้าน เคเอฟซี, โมเดล พาร์ค แอนด์ โก (Park and Go) รวมไปถึงการขยายสาขาร่วมกันกับบริษัทในกลุ่มเซ็นทรัล อาทิ CPN และ CRC อย่างศูนย์การค้าเซ็นทรัล และโรบินสันไลฟ์สไตล์

อย่างไรก็ตามปัจจุบันแบรนด์ KFC ที่บริหารงานโดย CRG เติบโตอย่างต่อเนื่องแบบ double digit โดยคาดการณ์ยอดขายในสิ้นปีนี่จะอยู่ที่ประมาณ 7,000 ล้านบาท เติบโต 111% จากปี 2565 ที่มียอดขายรวมกว่า 6,300 ล้านบาท

 

 

 


แชร์ :

You may also like