ด้วยจุดมุ่งหมายของ “แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส” บริษัทในเครือ PTG ที่ต้องการมีสมาชิก Max Card ให้ได้มากที่สุด จนกระทั่งตอนนี้มีสมาชิกกว่า 21 ล้านรายแล้ว อย่างไรก็ตาม โจทย์สำคัญของการทำงาน CRM เพื่อสร้างฐานลูกค้าให้ติดใจใช้บริการเครือ PTG ให้มากที่สุด กลยุทธ์อยู่ที่การจับมือกับพันธมิตรธุรกิจ เพิ่มโอกาสให้ลูกค้าควักบัตร Max Card หรือว่าหยิบแอปฯ Max Me มาใช้ให้ถี่ขึ้น สานสัมพันธ์จนระบบสมาชิกของ PTG ทั้งในรูปแบบบัตร หรือแอปฯ กลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ลูกค้าในชีวิตประจำวันให้ได้
เพิ่มโอกาสใช้แต้ม ต้องขยายพันธมิตรร้านค้า
ด้วยเหตุนี้ “แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส” จึงจับมือกับ “ธนาคารกรุงไทย” เชื่อมโยงบริการธุรกรรมบนแพลตฟอร์มให้สมบูรณ์และไร้รอยต่อ หวังเติมเต็มความสุขช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่ กิน ช้อป ใช้พอยท์จ่ายแทนเงินสด สร้างเม็ดเงินสะพัดสู่ร้านค้าถุงเงินทั้งระบบ พร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ ผ่านแอปพลิเคชั่น Max Me ในโครงการพอยท์เพย์ (PointPay) นำคะแนนสะสมที่ลูกค้าของเครือ PTG และพันธมิตรทั้งหลาย มาใช้จ่ายแทนเงินสดเลือกซื้อสินค้า อาหารและเครื่องดื่ม จากร้านค้าที่อยู่บนแพลตฟอร์ม “แอปถุงเงิน” ของธนาคารกรุงไทยได้เลย ด้วยอัตราคะแนนแมกซ์พอยท์ 10 แต้มมีมูลค่า 1 บาท
คุณธวัชชัย ชีวานนท์ ประธานผู้บริหาร Product & Business Solutions ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างถุงเงิน และ Max Me ในครั้งนี้ เป็นการผสานจุดแข็งของทั้งสองแพลตฟอร์ม เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับร้านค้าและสมาชิก โดยร้านค้าในแอปถุงเงินมีจำนวนทั้งสิ้น 1.8 ล้านราย มีหลากหลายประเภททั้งอาหารและเครื่องดื่ม ร้านค้าทั่วไป สินค้าแฟชั่น และโรงแรมที่พัก ซึ่งทุกร้านค้าถุงเงินเข้าร่วมโครงการพอยท์เพย์ แบ่งสัดส่วนใน กรุงเทพฯ และปริมณฑล 30% และต่างจังหวัด 70%
คุณธวัชชัย ชีวานนท์ ประธานผู้บริหาร Product & Business Solutions ธนาคารกรุงไทย
นั่นหมายความว่า เมื่อจับมือกับธนาคารกรุงไทย ลูกค้าของแอปฯ Max Me ก็จะมีร้านค้าที่ให้ใช้แต้มไปแลกได้โดยตรงหลากหลายขึ้น ครอบคลุมมากกว่าแค่เชนสาขาของแบรนด์ดัง นับว่าเป็นมิติใหม่ของแบรนด์อย่าง PTG ที่จะลงมาจับตลาดทุกระดับให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
หน้าที่ของ CRM คือเอาใจคนทุกระดับ
ทางด้าน คุณพร้อมศักดิ์ จรัญญากรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส จำกัด บริษัทในเครือพีทีจี อธิบายเพิ่มเติมว่า “ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าเราไม่ได้ตั้งใจจะทำ e-Wallet วิธีคิดในการพัฒนาจะต่างกันมาก เราไม่แข่งทำ e-Wallet กับคนอื่น สิ่งที่เราทำคือเราต้องการให้ลูกค้าเราใช้แต้มให้มากที่สุด ดังนั้นเราต้องออกแบบวิธีการใช้แต้มให้มันง่ายที่สุด คำว่าง่ายในที่นี้หมายถึง ง่ายสำหรับลูกค้าทุกประเภทด้วย ไม่ว่าจะคนที่ขับมอเตอร์ไซค์ เราก็ต้องมีวิธีให้เขาสะสมแต้มด้วยความถี่ ไม่ใช่จำนวนบิล”
นอกจากนี้ PTG ยังขอใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย สร้างสรรค์โซลูชั่นให้สามารถ ใช้แต้ม + เงินสด เพื่อจ่ายเงินซื้อสินค้า ซึ่งนับว่าเป็นแบรนด์แรกในประเทศไทยที่ทำได้
คุณพร้อมศักดิ์ จรัญญากรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส จำกัด บริษัทในเครือพีทีจี
“ปกติจะใช้แต้มก็ต้องใช้แต้มให้หมด จะเอามาใช้รวมกันไม่ได้ แต่เราขออนุญาต เพื่อทำให้ลูกค้าของเราไม่เสียแต้ม เพราะบางครั้งเขาสะสมมาจนกลายเป็นแลกเงินสดได้ 5 บาท ซึ่งในความเป็นจริง มันแลกอะไรแทบไม่ได้ หรือลูกค้าก็อายที่จะแลก แต่ด้วยใบอนุญาตที่เรามี และโซลูชั่นในแอปฯ ของเรา ต่อให้ลูกค้ามีแต้มที่แลกได้ 5 บาท สมมติลูกค้าเติมน้ำมัน 500 บาท ลูกค้าก็ใช้แต้มแทนเงิน 5 บาท แล้วจ่ายแค่ 495 บาท พนักงานไม่รู้ด้วยซ้ำ เพราะมันจะโชว์ให้พนักงานเห็นว่าลูกค้าจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วเต็มจำนวน”
ปัจจุบัน PTG มีสมาชิกบัตร Max Card ทุกประเภทราว 21 ล้านคน ส่วนลูกค้าที่ใช้แอปพลิเคชั่น Max Me มีจำนวน 7.5 แสนราย เป็น Active User ประมาณ 5 แสนราย คุณพร้อมศักดิ์ เน้นย้ำว่าหัวใจสำคัญของการเพิ่มจำนวนลูกค้าและทำให้ลูกค้าใช้งานจริง อยู่ที่ การสร้าง Customer Journey ที่เหมาะสมกับลูกค้าที่ใช้บริการของ PTG ตั้งแต่หลักร้อยไปถึงหลักล้านต่อเดือน ให้ทั้งหมดได้ใช้ประโยชน์จาก Max Me อย่างแท้จริง จนกลายเป็นที่มาของการสร้างเครือข่ายพันธมิตร หลากหลายธุรกิจ เพิ่มตัวเลือกให้ลูกค้าสะสมและใช้แต้มให้มากที่สุด