
โครงการนี้วางเป้าหมายให้เป็น “แลนด์มาร์ค” ระดับโลกแห่งใหม่ ด้วยพื้นที่รวมกว่า 1.9 ล้านตารางเมตร ประกอบด้วยอาคารสูง 11 อาคาร เป็นอาคารสำนักงานเกรดเอ 5 อาคาร พื้นที่รวม 5 แสนตารางเมตร โรงแรมลักชัวรี่และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์หรู 5 แห่ง รวม 1,000 ห้อง ที่พักอาศัย (Residences) 3 อาคาร พื้นที่รีเทล พื้นที่ไลฟ์สไตล์ 4 แห่ง มีฮอลล์จัดอีเวนท์รองรับ 6,000 คน รวมพื้นที่ 1.9 แสนตารางเมตร
ช่วงปลายปี 2567 จะเปิดใช้พื้นที่ 70% ครบทุกองค์ประกอบไม่ว่าจะเป็น อาคารสำนักงาน โรงแรม ที่พักอาศัย และพื้นที่ค้าปลีก และเมื่อโครงการเสร็จสมบูรณ์ 100% (เดิมคาดการณ์ปี 2569) จะมีผู้ใช้บริการในโครงการ 2 แสนคนต่อวัน โดยมีผู้ใช้บริการในพื้นที่ทุกวัน (ส่วนอาคารสำนักงา ที่อยู่อาศัย โรงแรม) 60,000 คน
ในฐานะโครงการระดับมาสเตอร์พีซ เมืองอัจฉริยะด้านความยั่งยืน “วัน แบงค็อก” ได้ออกแบบมาสเตอร์แพลนของโครงการ ไปจนถึงขั้นตอนของการก่อสร้างและการดำเนินงาน บนหลักการแห่งความยั่งยืน โดยนำมาตรฐาน LEED-ND, WELLs, TREES, WiredScore และ SmartScore ในระดับ Platinum มาใช้ในการออกแบบโครงการ
โครงการวัน แบงค็อก มีพื้นที่รวม 104 ไร่ ได้จัดสรรพื้นที่สีเขียวกว่า 50 ไร่ หรือเกือบครึ่งหนึ่งของพื้นที่ทั้งหมดของโครงการ โดยออกแบบให้เป็นจุดพักผ่อนใจกลางเมือง มีสวนสาธารณะแนวยาว (Linear Park) ขนาดกว้างจากทางเท้าถึงหน้าโครงการถึง 35 – 45 เมตร อยู่ระหว่างสวนลุมพินีและสวนเบญจกิติ
นอกจากนี้มีทางเท้าที่สะดวกและกว้างขวาง สามารถเดินเข้าถึงทุกพื้นที่ในโครงการได้เพียง 15 นาที สอดคล้องกับแนวคิด 15-Minute Walking City เทรนด์ใหม่ของการพัฒนาเมืองที่ใส่ใจคุณภาพชีวิตของผู้คน และมี Art Loop โดยรอบโครงการกว่า 2 กิโลเมตร เชื่อมโยงผลงานศิลปะสาธารณะ เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้และความคิดสร้างสรรค์
“วัน แบงค็อก” พัฒนาโครงการสอดคล้องกับ Sustainable Development Goals: SDGs เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ โดยเทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อการประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาใช้ในโครงการดังนี้
– Electric Power Saver ระบบกักเก็บไฟฟ้าสำรองสำหรับการใช้งานตลอด 24 ชม. และบริหารจัดการการใช้ไฟฟ้าให้คุ้มค่าสูงสุด
– District Cooling System ระบบปรับอากาศแบบรวมศูนย์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งพลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
– Smart Water Management ระบบบริหารจัดการน้ำแบบหมุนเวียน ที่สามารถตรวจสอบคุณภาพน้ำ และใช้เทคโนโลยีบำบัดน้ำเสียเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
– Construction Waste Management ตั้งเป้านำขยะจากการก่อสร้างมากกว่า 75% กลับมาใช้ใหม่ และรีไซเคิล อาทิ การนำเทคโนโลยีบดย่อยเศษขยะคอนกรีตจากหัวเสาเข็มเพื่อนำไปสร้างผนังอาคาร การนำเศษอิฐมวลเบาที่เหลือใช้จากการก่อสร้างมาผลิตเป็นแผ่นผนังกันเสียงในอุโมงค์ทางลอดเข้าโครงการฯ เป็นต้น
– Food Waste Management เทคโนโลยีการจัดการเปลี่ยนขยะเศษอาหารให้กลายเป็นปุ๋ย ผ่านเครื่อง Food Waste Composter
– Smart Pole ให้แสงสว่างและกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในทั่วทุกพื้นที่ เป็นโครงการแรกในประเทศไทยที่เชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ ครอบคลุมทุกพื้นที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน WiredScore Platinum ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดจาก WiredScore
ด้วยองค์ประกอบทั้งหมดนี้ “วัน แบงค็อก” จึงเป็นเมืองอัจฉริยะและและกรีนสมาร์ทซิตี้ ส่งเสริมการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนและมุ่งสู่การเป็นโครงการที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน LEED for Neighborhood Development ระดับ Platinum แห่งแรกในประเทศไทย และมาตรฐานรับรองอาคาร WELL เพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัยและผู้ใช้อาคาร
อ่านเพิ่มเติม
- เจาะเบื้องหลัง CPAC กับการเนรมิต “ฐานราก” บิ๊กโปรเจกต์ One Bangkok เสร็จได้เพียงข้ามคืน
- One Bangkok จับมือ SCG บริหารการก่อสร้างแบบยั่งยืนตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน
- วัน แบงค็อก ตอกย้ำแนวคิด “Evolving Bangkok” ร่วมเติบโตและขับเคลื่อน กรุงเทพฯ สู่มหานครแนวหน้าระดับโลก




