HomeSponsored3 จุดแข็ง “เซ็นทรัลเวิลด์” เจ้าแห่ง Global Lifestyle Destination คว้า “NITORI” เฟอร์นิเจอร์และสินค้าแต่งบ้านแบรนด์ยักษ์จากญี่ปุ่นปักหมุดในไทย

3 จุดแข็ง “เซ็นทรัลเวิลด์” เจ้าแห่ง Global Lifestyle Destination คว้า “NITORI” เฟอร์นิเจอร์และสินค้าแต่งบ้านแบรนด์ยักษ์จากญี่ปุ่นปักหมุดในไทย

แชร์ :

“เซ็นทรัลเวิลด์” ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ใจกลางเมืองของพี่ใหญ่วงการค้าปลีกเมืองไทย “เซ็นทรัลพัฒนา” ที่มีจุดแข็งคือความเป็น Global Landmark ที่มีแบรนด์ดังระดับโลกยกทัพเข้ามาเปิดให้บริการเป็นแห่งแรกในไทยมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะ เป็น Uniqlo, Haidilao, Tsuta, Saemauel Sikdang, Sushiro, Kam Roast, Shake Shack, Mak’s noodle, Yakiniku Like Flagship Store, Canton Paradise, Nitori, Lululemon, On-running, HOKA, Marimekko, Kate Spade, Marc Jacobs, MLB, Pandora, H&M Home เป็นต้น

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ล่าสุดหลังจาก NITORI ร้านเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นมาปักหมุด Flagship Store แห่งแรกในไทย บนพื้นที่ทั้งสิ้น 2,600 ตร.ม. มีสินค้ากว่า 5,000 รายการ แบ่งเป็นเฟอร์นิเจอร์ 60%  และของแต่งบ้าน 40% ที่มาพร้อมสินค้าคุณภาพมาตรฐานในแบบฉบับญี่ปุ่นกับคอนเซ็ปต์ “มอบความเป็นอยู่ที่ดีแก่ผู้คนทั่วโลก” ตอบโจทย์การใช้ชีวิตเข้ามาเป็นจุดขาย

เมื่อผสานกับจุดแข็งด้านราคาที่สมเหตุสมผล ในสไตล์ความมินิมอลแบบญี่ปุ่น ไปจนถึงการดีไซน์และรูปแบบที่ถูกพัฒนาให้เหมาะกับวิถีชีวิตและสรีระของชาวเอเชีย ทำให้ NITORI กลายเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งที่สุดในญี่ปุ่น จนได้รับการขนานนามจากแฟน ๆ ว่า แม้แต่ยักษ์ค้าปลีกระดับโลก (ที่พยายามเข้าไปบุกตลาดญี่ปุ่น) ก็ยังไม่สามารถโค่นแชมป์ความยิ่งใหญ่ของ NITORI ในญี่ปุ่นได้ ด้วยจำนวนสาขามากกว่า 400 แห่งในญี่ปุ่น จากทั้งหมด 900 ใน 5 ประเทศ ได้แก่ ไต้หวัน มาเลเซีย สิงคโปร์ จีน โดยไทยถือเป็นแห่งที่ 5 ที่เข้ามาทำตลาด

นั่นทำให้การเข้ามาของ NITORI จึงเป็นอีกหนึ่งแม็กเนตใหม่ใจกลางกรุง และเมื่อผสานกับความแข็งแกร่งของ  “เซ็นทรัลเวิลด์” ที่มีความเป็น Global Landmark ที่มีแบรนด์ดังระดับโลกเข้ามาเปิดสาขาเป็นแห่งแรกมากมายตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ยิ่งทำให้แบรนด์กลายเป็นที่สนใจและเข้าถึงผู้บริโภคได้ไม่ยาก

ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด  บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เซ็นทรัลเวิลด์ เป็น The Real Global Landmark ที่ดึงดูด แบรนด์ดังต่าง ๆ ทั่วโลก ด้วยความเป็น Lifestyle Brand ที่ตอบโจทย์ทุกกลุ่ม เข้าถึงทุก Target หลากหลายระดับ ที่ผ่านมา เซ็นทรัลเวิลด์ เป็นจุดเริ่มต้นของหลายแบรนด์ดังที่เปิดสาขาแรกในไทย และตอนนี้ได้ขยายสาขาไปทั่วประเทศกับเซ็นทรัลพัฒนาด้วย Ecosystem ที่แข็งแกร่งในการต่อยอดสาขาที่มากกว่าหนึ่งแห่ง”

ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา

 3 จุดแข็ง ทำไม  “เซ็นทรัลเวิลด์” กลายเป็น Global Landmark ที่แบรนด์ดังต้องมาเปิดเป็นแห่งแรกในไทย

ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ “เซ็นทรัลเวิลด์” กลายเป็นโลเคชั่นเป็น “City of Center – City of Thailand” หรือเหตุผลหลักของการเป็นแม่เหล็กดึงดูดไลฟ์สไตล์แบรนด์ทั่วโลกให้มีความมั่นใจและต้องการเปิดตัวสาขาแรกในเมืองไทยเป็นจำนวนมากนั้น เกิดจาก 3 จุดแข็งหลัก ประกอบด้วย

1. Location ดี Traffic ดี : ด้วย Strategic Location ใจกลางกรุงเทพฯ และราชประสงค์คือย่านการค้าและท่องเที่ยวที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งของไทย สร้างเม็ดเงินสะพัดต่อปีรวมมูลค่ามหาศาลให้กับประเทศ มีคนสัญจรในย่านเฉลี่ยกว่า 600,000 คนต่อวัน เป็นศูนย์กลางธุรกิจและเป็นจุดหมายปลายทางของคนทั่วโลก เทียบชั้นย่านดังอย่าง Times Square  New York, Oxford street และย่าน Ginza ญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมี ‘the panOramix’ จอ LED Digital Interactive ที่สุดใหญ่ใน Southeast Asia เป็นพื้นที่โฆษณาถูกจองคิวจากแบรนด์ดัง และแฟนคลับทั่วโลกด้วย Visibility จำนวนมาก

ปัจจุบัน Traffic Recovery ของเซ็นทรัลเวิลด์จากปี 2019 เติบโตเฉลี่ย 120% เฉลี่ย Traffic ต่อวัน 150,000 คน และสูงขึ้นถึง180,000-200,000 คนต่อวัน หากมี Event ใหญ่ภายในศูนย์ฯ โดยลูกค้าที่มาใช้บริการแบ่งเป็น คนไทย 65% และ ต่างชาติ 35% นักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการมากที่สุดคือ Southeast Asia ได้แก่ จีน ฮ่องกง มาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย และตะวันออกกลาง โดย 83% เป็นกลุ่ม FIT (Free Independent Traveler)

2. Top of Mind ในใจ Partners แบรนด์ดังระดับโลก ทำให้แบรนด์ดังมารวมตัวกันกว่า 3,000 แบรนด์ ตรงกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายย้ำความเป็น No.1 Destination ได้แก่

-No.1 Food Destination รวมร้านดังไว้กว่า 500 ร้าน ทั้งร้านแรกในไทย ร้านมิชลินสตาร์ และ Flagship Stores อาทิ Shake Shack, Canton Paradise, Mak’s noodle, Yakiniku Like Flagship Store, Tsuta เป็นต้น

-No.1 Flagship Stores อาทิ Lululemon สปอร์ตแวร์ดัง แฟล็กชิพใหญ่เป็นอันดับ 4 ของเอเชียแปซิฟิค การรวมเอา Flaxship ของ 2 แบรนด์ดัง Adidas แบรนด์เซ็นเตอร์ใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก และ Nike ร้านรูปแบบใหม่ใหญ่ที่สุดในไทยไว้ด้วยกัน นอกจากนี้ยังมี Puma Flagship Store, On-running, HOKA และ Casetify แบรนด์เคสมือถือชื่อดังแห่งแรกแห่งเดียวในไทย

-No.1 World-Class Event แลนด์มาร์คการจัดงานทั้งในระดับประเทศและระดับโลก (Festive Landmark Destination) มาอย่างต่อเนื่องหลายสิบปี ตั้งแต่ centralwOrld Bangkok Countdown ที่มีชื่อเสียงจนได้ฉายา Time square of Asia, งาน Thailand Songkran Festival หนึ่งใน World’s Best Festival, งาน Thailand’s Pride Celebration นิทรรศการ Studio Ghibli 2023 และงานของเล่นระดับโลก Thailand Toy Expo งาน Japan Expo งาน Heliconia Food Festival รวมสุดยอดเซเลบริตี้เชฟดังไว้ที่เดียว เป็นต้น

3. Partner Champion ที่แข็งแกร่งโดยมีทีมที่พร้อมทำงานร่วมกันในโมเดล Tenant Centric นำเสนอ Solutions ครบวงจร ที่สนับสนุนการดำเนินงานของร้านค้า ทั้งการ Drive Sale, Drive Traffic, Drive Shopper Engagement ผ่าน CRM เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพใช้จ่ายได้อย่าง “ตรง Target ตรง Lifestyles”  จึงเป็นเหตุผลที่ Global Lifestyles Brand ทั่วโลก เลือกเป็นสถานที่เปิดตัวแบรนด์ดังทั้งในไทยและแบรนด์ระดับโลกอย่างต่อเนื่อง

ปูพรมกิจกรรม-อีเวนต์ดังครึ่งปีหลัง ย้ำเบอร์ 1 “The Real Global Landmark”

นอกจากจุดแข็งความได้เปรียบข้างต้นแล้ว อีกหนึ่งความสำคัญคือการดำเนินงานของ “เซ็นทรัลเวิลด์” ที่มียุทธศาสตร์ด้านการทำงานที่ชัดเจนตลอดปี และครอบคลุมทุกความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่สอดรับกับแต่ละไลฟ์สไตล์ตลอดทั้งปี โดยในครึ่งปีหลังนี้ “เซ็นทรัลเวิลด์” ยังเตรียมกิจกรรมมากมาย ภายใต้กลยุทธ์ “The Magnitude of World Phenomenon” ได้แก่

1. สร้างปรากฏการณ์อีเว้นท์ Signature ระดับประเทศ-ระดับโลกที่ทุกคนต้องมา เป็น First-time ever ไม่เคยเกิดขึ้นที่ใดมาก่อน อาทิ การเปิดตัวครั้งแรกในไทยของ POP MART ผู้นำด้านป๊อปคัลเจอร์จากจีน งานแสดงกันดั้มสุดยิ่งใหญ่ “GUNDAM Docks at THAILAND” พร้อมกันดั้มสูงกว่า 6 เมตร งาน Thailand Coffee Hub เทศกาลดนตรี Melody of Life, งาน YWCA จำหน่ายสินค้าโดยร้านค้าจากสถานทูตในไทย เทศกาลเปิดไฟต้นคริสต์มาส และ centralwOrld Bangkok Countdown ส่งท้ายปีสุดยิ่งใหญ่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยไตรมาสสุดท้ายของปีให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

2. เตรียมเปิดตัวแบรนด์ระดับโลกที่จะมาเปิดตัวไม่ต่ำกว่า10 แบรนด์ดังทั้งอาหาร แฟชั่นกีฬาและอุปกรณ์กีฬาไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย แบรนด์ที่ปรับโฉมคอนเซ็ปต์ใหม่ และ Flagship store in Thailand ตอกย้ำการเป็น Global destination ที่ต้อนรับแบรนด์ดังทั่วโลก

3. เทศกาลแห่งปีที่ไม่เคยมีมาก่อนกับการ Collaboration ครั้งยิ่งใหญ่กับแบรนด์ระดับโลกที่จะเกิดขึ้นในช่วงปลายปี

ทั้งหมดเพื่อสร้างจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ตอกย้ำความเป็น “Global Lifestyle Destination” ที่สำคัญของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติโดยมีแบรนด์ดังระดับโลก ทั้งอาหาร แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ กีฬา เป็นจุดแข็งสำคัญบนทำเลค้าปลีกระดับโลก


แชร์ :

You may also like