
“เฮียฮ้อ” คุณสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ย้ำว่านี่คือ “ช่วงเวลาที่ใช่” ของการกลับมาทำธุรกิจเพลงอีกครั้ง จากแลนด์สเคปที่เปลี่ยนไป ข้อมูลของสมาพันธ์ผู้ผลิตสิ่งบันทึกเสียงระหว่างประเทศ (IFPI) พบว่าในปี 2565 รายได้จากมิวสิค สตรีมมิงทั่วโลกมีมากถึง 67% เติบโตเฉลี่ยต่อปีกว่า 5%
พฤติกรรมผู้บริโภคฟังเพลงสตรีมมิงเพิ่มขึ้น หากดูตัวเลขของประเทศไทยปี 2565 ฟังเพลงผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิง 22% ของการใช้งานอินเทอร์เน็ต หรือใช้เวลาฟังเพลงสตรีมมิง 1.8 ชั่วโมงต่อวัน

ร่วมทุน ‘ยูนิเวอร์แซล’ พาเพลงไทยเจาะตลาดโลก
หนึ่งในกลยุทธ์ทำตลาดเพลงของ RS Music คือการมีพาร์ทเนอร์แบบไร้กรอบ ทั้งในไทยและต่างประเทศ ล่าสุดได้ร่วมทุนกับค่ายเพลงชั้นนำอันดับหนึ่งของโลก “ยูนิเวอร์แซล มิวสิค กรุ๊ป” (Universal Music Group หรือ UMG) จัดตั้งกิจการร่วมค้า (Joint Venture ยังอยู่ระหว่างตั้งชื่อบริษัท) โดย ยูนิเวอร์แซล ถือหุ้น 70% อาร์เอส 30%
จากความร่วมมือนี้ ยูนิเวอร์แซล มิวสิค จ่ายเงิน 1,600 ล้านบาท ให้กับ RS Music เพื่อร่วมบริหารลิขสิทธิ์เพลงของอาร์เอส ที่มีกว่า 13,000 เพลง ผ่านศักยภาพและพาร์ทเนอร์สตรีมมิงของยูนิเวอร์แซล มิวสิค ทั่วโลก ดังนี้
1. เพิ่มประสิทธิภาพการสร้างรายได้ออนไลน์ โดยคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น 30-40% และมี Impressions เพิ่มขึ้น 15-20% จากแพลตฟอร์ม OTT ต่างๆ ผ่านการบริหารของ ยูนิเวอร์แซล มิวสิค
2. ขยายช่องทางการเผยแพร่งานเพลงผ่านตลาดต่างประเทศและมีเครือข่ายที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาสให้แก่ศิลปินในสังกัดและคอนเทนต์ของ RS Music ในตลาดต่างประเทศ
3.ใช้ทรัพยากรของ ยูนิเวอร์แซล มิวสิค ในการพัฒนาศิลปินและคอนเทนต์ของ RS Music ผ่านการใช้เทคโนโลยี Data Analytics ที่ทันสมัยในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค รวมถึงความร่วมมือในอนาคตเพื่อสร้างสรรค์คอนเทนต์ร่วมกับศิลปินของ ยูนิเวอร์แซล มิวสิค

เพียงแค่เพลงทั้งหมดของอาร์เอสได้ไปอยู่บนแอคเคาน์ของ UMG ก็สร้างมูลค่าเพิ่มและความน่าสนใจจากตลาดทั่วโลก ธุรกิจเพลงวันนี้เป็นเรื่องของ Digital Power ไม่มีเส้นแบ่งพรมแดนและทำตลาดได้ทั่วโลก
ปัจจุบันประเทศไทย เป็นหนึ่งในเป้าหมายของบริษัทระดับโลก พันธมิตรยูนิเวอร์แซล มิวสิค ให้ความสำคัญกับไทยที่จะใช้เป็นฐานเจาะตลาดเอเชีย เพราะมองว่าอุตสาหกรรมเพลงในเอเชียอยู่ในเทรนด์ “ขาขึ้น” เห็นได้ว่ามีศิลปินไทยไปมิวสิค เฟสติวัล ในต่างประเทศ และได้รับความสนใจจากผู้ชม มีแฟนคลับอยู่ในหลายประเทศ มีการจัดแฟนมีต โดยเฉพาะตลาดใหญ่อย่างจีน เพราะเพลงในยุคนี้ไม่มีภาษา แต่ฟังด้วยความชอบและสนุก
RS Music ปรับโครงสร้าง 5 บิสซิเนสยูนิต
นอกจากนี้ RS Music ได้ปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ เน้นสร้างรายได้ในหลากหลายช่องทาง พร้อมแต่งตั้ง คุณพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อาร์เอส มิวสิค เพื่อผลักดันธุรกิจเพลงก้าวสู่เวทีระดับนานาชาติ โดยแยกเป็น 5 บิสซิเนส ยูนิต
1. Digital Monetization ผลิตผลงานเพลงทั้งจากศิลปินรุ่นใหม่และศิลปินระดับตำนานของอาร์เอส รวมถึงสร้างผลงานเพลงร่วมกับศิลปินชื่อดังจากภายนอก
2. Copyright Revenue การจัดเก็บและต่อยอดทรัพย์สินทางภูมิปัญญา (IP) ลิขสิทธิ์เพลงของ RS Music โดยบริษัท TCC (บริษัทในเครือ RS) ดูแลตลาดออฟไลน์ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ผับ บาร์ คาราโอเกะ
3. Marketing Projects & Campaigns การทำมิวสิค มาร์เก็ตติ้ง หรือแคมเปญการตลาดต่างๆ กับคู่ค้า
4. Showbiz & Concerts การจัดกิจกรรม อีเวนต์ เฟสติวัล และคอนเสิร์ต
5. Talent Management การบริหารและดูแลศิลปิน
สำหรับการผลิตผลงานเพลงในปีนี้ ได้เปิดตัว 2 โปรเจกต์ คือ RS Homecoming กลุ่มศิษย์เก่าอาร์เอสรุ่นต่างๆ ที่ยังมีแฟนคลับติดตามผลงานอยู่ และ RS Newcomers การสร้างศิลปินหน้าใหม่ให้วงการเพลง โดยไตรมาส 4 จะเริ่มเดบิวต์ศิลปินใหม่ ทั้ง Boy Band และ Girl Group อยู่ระหว่างพัฒนา 7 กลุ่ม ซึ่งมีความสามารถด้านภาษา ทั้งอังกฤษ จีน เกาหลี เพื่อก้าวสู่ตลาดภูมิภาคและระดับโลก โดยมีพาร์ทเนอร์ยูนิเวอร์แซล มิวสิค เป็นผู้สนับสนุนในตลาดต่างประเทศ
แนวทางการพัฒนาศิลปิน จะเป็น T-POP ที่มีความสามารถหลากหลายด้านภาษา โดยจะทำงานเพลงร่วมกับศิลปินค่ายต่างๆ ทั้งไทยและต่างประเทศ รวมทั้งค่ายเพลงเกาหลี โปรดิวเซอร์เกาหลี ที่มีความเชี่ยวชาญ เป็นผู้นำตลาดเพลง K-POP ไปสู่ระดับโลก
ขณะเดียวกัน RS Music ยังมองหาโอกาสใหม่ๆ เพื่อต่อยอดความแข็งแกร่งของธุรกิจเพลงร่วมกับพันธมิตร ที่ผ่านมาได้ตั้งกิจการร่วมค้า “อะครอสเดอะยูนิเวิร์ส” ร่วมกับ Grammy เพื่อทำธุรกิจคอนเสิร์ต
ในอดีตที่ RS มีรายได้หลักจากธุรกิจเพลง เคยทำรายได้สูงสุด 1,000 ล้านบาท มีศิลปินรวมกันทุกยุคกว่า 300-400 คน มีคลังเพลงกว่า 20,000 เพลง หลังจากลดบทบาทลง ทำให้สัดส่วนรายได้เพลงเหลืออยู่ 7% ของรายได้อาร์เอสในปีที่ผ่านมา
การกลับมาทำธุรกิจเพลงอีกครั้ง ปีนี้ RS Music วางเป้าหมายรายได้ 720 ล้านบาท จากนี้จะเติบโตเฉลี่ยต่อปี 30% สร้างรายได้ 1,200 ล้านบาท ภายใน 3 ปี หรือในปี 2568 พร้อม IPO เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ
“การกลับมาทำธุรกิจเพลงของ RS Music ไม่ได้มีเป้าหมายต้องเป็นเบอร์ 1 เพราะธุรกิจเพลงบนโลกออนไลน์ไร้พรมแดนแข่งกันแบบข้ามประเทศ วิธีการทำงานจึงมองหา ‘เพื่อน’ เพื่อจับมือเป็นพาร์ทเนอร์ทำธุรกิจร่วมกัน พาเพลงไทยไปสู่ตลาดโลก วันนี้เป้าหมายเราชัดเจนเรื่องการสร้างรายได้และ IPO เข้าตลาดฯ ใน 3 ปี”







