HomeBrand Move !!เบอร์1 มาร์เก็ตติ้งแพลตฟอร์ม ‘บัซซี่บีส์’ เทค สตาร์ทอัพไทย เตรียม IPO ปั้นรายได้ 5 ปี ‘หมื่นล้าน’  

เบอร์1 มาร์เก็ตติ้งแพลตฟอร์ม ‘บัซซี่บีส์’ เทค สตาร์ทอัพไทย เตรียม IPO ปั้นรายได้ 5 ปี ‘หมื่นล้าน’  

แชร์ :

“บัซซี่บีส์” (BUZZEBEES) เป็นอีกหนึ่ง Tech Startup ที่กำลังเตรียม IPO เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) ในไตรมาส 4 ปี 2024  เป็นเบอร์ 1 ด้าน CRM & Loyalty Platform มีผู้ใช้งานกว่า 145 ล้านบัญชี ขยายธุรกิจในหลายประเทศอาเซียน กับเป้าหมาย 5 ปี สร้างรายได้ 10,000 ล้านบาท สร้างมูลค่าบริษัท (มาร์เก็ตแคป) 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (3.5 แสนล้านบาท) ก้าวสู่ MarTech ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

BUZZEBEES เป็นธุรกิจที่ก่อตั้งโดยคุณไมเคิล เชน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและคุณณัฐธิดา สงวนสิน กรรมการผู้จัดการ เมื่อปี 2012 เป็นสตาร์ทอัพ สัญชาติไทย  ด้าน MarTech  เปิดสำนักงานใหญ่แห่งแรกในประเทศไทย เริ่มต้นด้วยธุรกิจพัฒนาแพลตฟอร์มบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM & Loyalty Platform) ปีแรกมีผู้ใช้งาน 1 ล้านบัญชี  

ผ่านมา 11 ปี BUZZEBEES  ได้ขยายธุรกิจไป 6 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย คือ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และฮ่องกง เป็นหนึ่งในเครือข่าย CRM ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยจำนวนผู้ใช้แพลตฟอร์ม 145 ล้านบัญชี

คุณไมเคิล เชน ผู้ร่วมก่อตั้ง Buzzebees

ตามดู 4 ธุรกิจ BUZZEBEES

ปัจจุบัน BUZZEBEES ไม่ใช่แค่บริษัทที่เป็นผู้นำด้าน CRM และ Loyalty Platform แต่เป็นธุรกิจที่สร้างโครงสร้างพื้นฐานในโลกดิจิทัล (Digital Infrastructure) ดูแลแพลตฟอร์มพันธมิตรกว่า 1,200 แพลตฟอร์ม ในหลากหลายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น สินค้าอุปโภคบริโภค ค้าปลีก ธุรกิจมือถือ ธนาคาร อุตสาหกรรมยานยนต์ อาหารและเครื่องดื่ม ประกัน  เรียกว่าการใช้ชีวิตของคนไทย ต้องมีการใช้แอปพลิเคชันอย่างน้อย 1 แอป ที่ BUZZEBEES เป็นผู้ดูแลด้าน CRM โดยมี 4 ธุรกิจหลักดังนั้น

1. ธุรกิจพัฒนาแพลตฟอร์มบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM & Loyalty Platform) 

2. ธุรกิจจัดหาของรางวัลและสิทธิพิเศษ (Rewards & Privileges Management)  

3. ธุรกิจบริการอีคอมเมิร์ซครบวงจร (E-Commerce Service)  

4. ธุรกิจบริการระบบจัดการร้านค้าและการรับชำระเงิน (Retail Solution & E-Payment) 

โดยให้บริการทั้ง B2B ด้าน CRM & Loyalty Platform ให้กับลูกค้าองค์กร B2C การจัดหาของรางวัลและสิทธิพิเศษต่างๆ ให้ผู้บริโภคได้แลกรางวัลจากการสะสมแต้ม ปัจจุบันมีพาร์ตเนอร์ร้านค้าด้าน Rewards & Privileges กว่า 30,000 ร้านค้า 

รวมทั้งบริการอีคอมเมิร์ซให้กับธุรกิจ SMEs ใช้แพลตฟอร์ม ทำการตลาดออนไลน์ ล่าสุดเปิดตัว ShopDD (ช้อปดีดี) แพลตฟอร์ม B2B Marketplace ที่เข้ามาช่วยร้านค้าและแฟรนไชส์ทั่วประเทศจัดซื้อสินค้าและวัตถุดิบราคาพิเศษ และเปิดตัว mePoint (มีพ้อยต์) รูปแบบ PAY-WITH-POINT (จ่ายเงินด้วยแต้ม) เป็นการเปลี่ยนคะแนนสะสมจากบัตรเครดิตและ Loyalty Program ต่างๆ ให้เป็น “ส่วนลด” ในการใช้จ่ายให้กับร้านค้าพันธมิตรที่ร่วมรายการ

ล่าสุดได้ซื้อกิจการ BenePanda ในฮ่องกง เพื่อขยายโมเดลการพัฒนาโซลูชันด้าน Employee Benefits & Wellness Platform ในกลุ่มพนักงานทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ ซึ่งเป็นการขยายกลุ่มเป้าหมายใหม่ในรูปแบบ B2E (Employee)  ทำให้ BUZZEBEES สามารถสร้างเครือข่ายด้าน Ecosystem-Driven MarTech ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศได้อย่างครอบคลุมมากขึ้น

เตรียม IPO ระดมทุน 8,500 ล้าน

คุณณัฐธิดา สงวนสิน กรรมการผู้จัดการและผู้ร่วมก่อตั้ง BUZZEBEES กล่าวว่าช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีรายได้เติบโตต่อเนื่อง ปี 2020 อยู่ที่ 921 ล้านบาท ปี 2021 อยู่ที่  1,142 ล้านบาท และปี 2022 อยู่ที่ 1,751 ล้านบาท ในปี 2023 ตั้งเป้าหมายเติบโตเท่าตัวอยู่ที่ 3,400 ล้านบาท กำไร 150 ล้านบาท

โดยไตรมาส 4 ปี 2024 เตรียมนำ BUZZEBEES ได้เข้า IPO ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถือเป็น  Tech Startup รายแรกที่เข้าตลาดฯ ด้วย Products based และมีอีโคซิสเต็มครบวงจร  โดยมีแพลตฟอร์มและระบบของตัวเอง ที่ลูกค้าธุรกิจ B2B สามารถซื้อไลเซนส์และซอฟต์แวร์ นำไปใช้ได้ทันที เป้าหมายคือการเป็น Salesforce แพลตฟอร์มการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ของภูมิภาคอาเซียน

การ IPO เข้าตลาดฯ ในปี 2024 ต้องการระดมทุนประมาณ 250 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 8,500 ล้านบาท) เพื่อขยายธุรกิจทั้งไทยและต่างประเทศ ด้วยเป้าหมายการเป็นอันดับ 1 ด้านบริการ “มาร์เก็ตติ้ง แพลตฟอร์ม”  

โดยตั้งเป้าหมาย 5 ปี หรือภายในปี 2027 จะมีรายได้อยู่ที่ 10,000 ล้านบาท สัดส่วนรายได้ 70% มาจากต่างประเทศ (ปัจจุบันไม่ถึง 10%)

“บัซซี่บีส์ เป็นสตาร์ทอัพไทยที่มองโอกาสการเติบโตในต่างประเทศ เพื่อก้าวไปสู่ระดับภูมิภาค และระดับโลกต่อไป หากทำได้ตามเป้าหมายใน 5 ปี ที่จะผลักดันมูลค่าบริษัท (Valuation) ให้ได้ 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ก็หวังว่าจะเข้าตลาดหุ้น NASDAQ ในสหรัฐได้”  

ปัจจุบัน “บัซซี่บีส์” มีกลุ่มผู้ก่อตั้งร่วมถือหุ้นสัดส่วน 30%  นอกจากนี้ยังมีบริษัทรายใหญ่ร่วมถือหุ้นด้วย อาทิ บมจ.สบาย เทคโนโลยี (SABUY) ธนาคารกสิกรไทย กรุงศรี ฟินโนเวต และ PTTOR


แชร์ :

You may also like