บมจ.ประกันภัยไทยวิวัฒน์ กางแผนธุรกิจปี 2566 ปักหมุดเบี้ยรับรวมโตทะลุ 8,000 ล้านบาท ชูยุทธศาสตร์ “องค์กรด้านประกันภัยแห่งนวัตกรรม” เดินหน้าพัฒนาประกันภัยส่วนบุคคลตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ นอกจากการประกันภัยรถยนต์ แบบ เปิดปิด ที่เป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในตลาดประกันภัยรถยนต์แล้ว ยังเตรียมส่ง “ประกันสุขภาพ Active Health รูปแบบใหม่ ๆ” “ประกันโรคร้าย” พร้อมขยายฐานลูกค้าในทุกภูมิภาค หลังแนวโน้มกำลังซื้อเพิ่มสูงขึ้น อานิสงส์ราคาพืชผลเกษตรพุ่งตามความต้องการของตลาดโลก พร้อมลุยเจรจาเพิ่มช่องทางจำหน่าย-ขยายเครือข่ายโรงพยาบาลทั่วทุกภูมิภาค
นายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) หรือ “TVI” ผู้นำด้านนวัตกรรมประกันภัย เปิดเผยถึงกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปี 2566 ว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าผลักดันเบี้ยรับรวมเติบโตต่อเนื่องทะลุ 8,000 ล้านบาท ด้วยการเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ทั้งกลุ่ม Motor และ Non-Motor เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่อย่างลงตัว ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตผู้บริโภค และภาพรวมอุตสาหกรรมประกันภัยของไทยให้ดียิ่งขึ้น ภายใต้ยุทธศาสตร์ “องค์กรด้านประกันภัยแห่งนวัตกรรม”
โดยกลุ่ม Motor เตรียมยกระดับ การบริการ โดยมีการเพิ่มเน้นศักยภาพและลูกเล่นใหม่ ๆ ที่แตกต่างในแบบ “การประกันรถเปิดปิด” ให้สอดรับและเชื่อมต่อทุกจังหวะการใช้ชีวิตอย่างไร้รอยต่อ พร้อมขยายฐานลูกค้าประกันภัยรถยนต์ให้กว้างมากขึ้น ด้วยการพัฒนาประกันรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ด้วยรูปแบบประกันภัยทั้ง แบบ “การประกันรถเปิดปิด” และ “แบบรายปี” ที่ให้ความคุ้มครเต็มรูปแบบครบทุกกรณี ทั้งชีวิตและทรัพย์สินของผู้เอาประกัน พร้อม ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก รวมถึงความสูญเสียจากรถหาย, ไฟไหม้ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน ยิ่งไปกว่านั้นได้ทำการพัฒนาโดยใช้นวัตกรรม เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เอาประกันตั้งแต่ยังไม่เริ่มการทำประกัน และทุกขณะของการเป็นผู้เอาประกันของบริษัท
ขณะที่กลุ่ม Non-Motor บริษัทฯ เตรียมพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยส่วนบุคคล อาทิ ประกันโรคร้ายแรง และประกันสุขภาพ Active Healthในรูปแบบต่างๆ พร้อมขยายไปในตลาดในภูมิภาคมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดหัวเมืองใหญ่ และจังหวัดพื้นที่เพาะปลูกพืชผลทางการเกษตรที่สำคัญ เนื่องจากเป็นตลาดที่ยังมีโอกาสขยายตัวได้ดี จากแนวโน้มปริมาณและราคาผลผลิตสินค้าทางการเกษตรที่ปรับตัวสูงขึ้นตามตลาดโลก ส่งผลให้กำลังซื้อของประชาชนในพื้นที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะชูจุดเด่นด้านบริการที่สะดวก รวดเร็ว เข้าถึงง่าย เพิ่มความคุ้มครอง ขยายสิทธิประโยชน์ ครอบคลุมและตอบโจทย์ทุกรูปแบบการใช้ชีวิตเฉพาะบุคคลได้อย่างลงตัวและสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น พร้อมขยายเครือข่ายโรงพยาบาลในทุกภูมิภาคให้ครอบคลุมพื้นที่ให้มากสุด
นายจีรพันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายช่องทางการขาย ทั้งกลุ่ม Motor และ Non-Motor ให้ครอบคลุมมากขึ้น อาทิ นายหน้าในห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ และสถาบันการเงิน เป็นต้น เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงการประกันภัย และยกระดับคุณภาพชีวิตผู้บริโภค ไปพร้อมๆกับการยกระดับภาพรวมอุตสาหกรรมประกันภัยของไทยให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ควบคู่ไปกับการมองหาโอกาสผนึกความร่วมมือพันธมิตรใหม่ ๆ ร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน InsurTech ที่มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
“ปี 2566 ยังเป็นปีที่เต็มไปด้วยความท้าทายรอบด้าน ทั้งในและต่างประเทศ ที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเศรษฐกิจโลกในช่วงครึ่งแรกของปีที่อาจเข้าสู่ภาวะถดถอย ดังนั้นเรายังต้องระมัดระวัง เดินเกมอย่าง Conservative บริหารจัดการความเสี่ยงอย่างดีที่สุด เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนและมั่นคง” นายจีรพันธ์ กล่าว