HomeHR & Manangementเบื้องหลังความสำเร็จ “ไทยเบฟ” กับ “Work-Life Harmony” สร้าง DNA คนอย่างไรให้ตอบโจทย์การทำงาน

เบื้องหลังความสำเร็จ “ไทยเบฟ” กับ “Work-Life Harmony” สร้าง DNA คนอย่างไรให้ตอบโจทย์การทำงาน

แชร์ :

ThaibevHR

ไทยเบฟ (THAIBEV) ยักษ์ใหญ่เครื่องดื่มที่เดินหน้าขยายการเติบโตในระดับภูมิภาค กับทิศทางการดำเนินธุรกิจปักธงสู่ความเป็นเบอร์ 1 ธุรกิจเครื่องดื่มระดับภูมิภาค สู่เป้าหมายการเป็นผู้นำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่มีความมั่นคง ตามเป้าหมายขององค์เพื่อก้าวสู่ความเป็น Stable and Sustainable ASEAN Leader  ภายใต้ “PASSION 2025” ตามพันธกิจ “สร้างสรรค์และแบ่งปันคุณค่าจากการเติบโต” 

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจ หากแต่ยังหมายรวมถึง “พนักงาน” ก็ต้องเติบโตด้วยเช่นกัน นั่นทำให้นอกจากยุทธ์ศาสตร์ด้านการขยายการเติบโตของธุรกิจแล้ว “ไทยเบฟ” ยังให้ความสำคัญกับการเสริมความแข็งแกร่งให้กับองค์กรด้วยการให้ความสำคัญต่อการดูแลเอาใจใส่พนักงานกว่า 62,000 คน ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ด้วยความเชื่อว่า “ทรัพยากรบุคคล” เป็นฟันเฟืองสำคัญ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จขององค์กรให้บรรลุความสำเร็จตามธงที่ตั้งไว้

ทำให้ตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ไทยเบฟให้ความสำคัญกับการเป็นองค์กรที่เชื่อมั่นเรื่องการเติบโต โดยมีบุคลากรเป็นฟันเฟืองชิ้นสำคัญมาโดยตลอด ภายใต้ความเชื่อที่ว่า “โอกาสที่ไร้ขีดจำกัด” จะผลักดันความสำเร็จในหลายด้าน ที่ไทยเบฟพยายามพัฒนาทักษะ เพิ่มขีดความสามารถ พร้อมเปิดโอกาสให้คนทำงาน ผลคือทำให้องค์กรสามารถรับมือกับการแข่งขัน ไปจนถึงวิกฤตโควิดก็สามารถฝ่าฟันมาได้อย่างสวยงาม  ทำให้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ธุรกิจสามารถสร้างการเติบโตได้ดีอีกครั้ง

โดยความสำเร็จของ “ไทยเบฟ” ในด้านการพัฒนาทรัพยากรบุคคลสามารถการันตีจากการคว้า 6 รางวัลใหญ่ในปีนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็น รางวัล HR Excellence Awards 2022 Thailand ประจำปี 2565 รางวัล Gold Awards ด้าน Excellence in COVID-19 Response ,รางวัล Gold Awards ด้าน Excellence in Learning and Development, รางวัล Silver Awards ด้านสาขา Excellence in HR Innovation ,รางวัล “HR Asia Best Companies to Work for in Asia 2022 (Thailand Edition)” ในฐานะองค์กรดีเด่นที่ให้ความห่วงใยดูแล และเอาใส่ใจพนักงาน ไปจนถึง รางวัล Thailand Corporate Excellence Awards 2022 สาขา ความเป็นเลิศด้านการจัดการทรัพยากรบุคคล (Human Resource Management Excellence) โดยสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) ร่วมกับ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ดร. เอกพล ณ สงขลา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดกลุ่มทรัพยากรบุคคล บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า จุดแข็งของไทยเบฟคือการมีธุรกิจที่หลากหลายและขยายตัวตลอดเวลา ทำให้ไทยเบฟมีแบรนด์ที่น่าสนใจในพอร์ตโฟลิโออยู่มาก นั่นทำให้เรามีโอกาสในการเติบโตด้านการพัฒนาทรัพยากรบุคคล พนักงานอย่างไม่มีข้อจำกัดเช่นกัน เพื่อพัฒนาขีดความสามารถให้คนทำงานสามารถพัฒนาศักยภาพของตัวเองได้เต็มที่ โดยพร้อมเปิดรับฟัง และเปิดโอกาสให้พนักงาน แม้จะเป็นคนรุ่นใหม่อายุงานไม่มาก ก็สามารถได้ทำโปรเจคที่น่าสนใจได้ และไม่จำกัดแค่หน้าที่ๆได้รับมอบหมายเท่านั้น หากแต่คือการเปิดกว้างในทุกโอกาส

เพื่อเสริมสร้างพัฒนาคนในการผลักดันกลุ่มไทยเบฟทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่  สุรา เบียร์ กลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และอาหาร ภายใต้การทำงานของ 6 กลุ่มงานกลาง ประกอบด้วย 1. กลุ่ม Sustainability and Strategy ความยั่งยืนและกลยุทธ์ 2.กลุ่ม Brand and Commercial 3.กลุ่ม Digital and Technology 4. กลุ่ม Human Capital and Organization Capabilities 5. กลุ่ม Finance and Accounting และ 6.กลุ่ม Corporate Affairs and Governance ให้เติบโตร่วมกัน

ด้วยการทำงานเป็นทีม ที่ประสานกันในทุกๆ ประเทศ เพื่อให้ทุกประเทศสามารถเดินหน้าไปด้วยกัน พร้อมทั้งเร่งปลูกฝัง การสร้างทักษะและ Mindset ที่พร้อมสำหรับการทำงานและการเติบโต โดยเฉพาะ Transformation Mindset คือ ยินดีที่จะเปลี่ยน และ Expanded Mindset  กระหายที่จะเติบโตไปด้วยกัน

 

ดร. เอกพล ณ สงขลา

ดร. เอกพล ณ สงขลา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดกลุ่มทรัพยากรบุคคล บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)

ถอดสูตรความสำเร็จ เบื้องหลังความยิ่งใหญ่อาณาจักร “ไทยเบฟ” สร้าง DNA คนทำงาน

เบื้องหลังความสำเร็จของ “ไทยเบฟ” ในการขับเคลื่อนธุรกิจ ด้วยการเสริมทักษะ-สร้างความเข้าใจให้แก่พนักงานกว่า 62,000 คนที่มีอยู่ ด้วยคือการสร้างดีเอ็นเอร่วมกันระหว่างองค์กรและพนักงาน เพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกันอย่างมีระบบ ภายใต้แนวคิด “Work-Life Harmony”  หรือการทำงานบนแนวคิดที่ทำให้เรื่องงานและชีวิตส่วนตัวสามารถผสมผสานกันได้อย่างลงตัว และมีความสุข โดยใช้ “ความยืดหยุ่น” มาเป็นกุญแจสำคัญสู่การทำงานที่ประสบความสำเร็จ

ตัวเลขกว่า 300 ล้านบาทต่อปี คืองบประมาณที่ “ไทยเบฟ” ทุ่มให้กับการพัฒนาศักยภาพบุคลากร เพื่อสร้างจุดเปลี่ยนของคนรุ่นใหม่ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนอนาคต เตรียมพร้อมองค์กรเพื่อรับมือคนรุ่นใหม่ โดยมีพันธกิจสำคัญคือ “การสร้างสรรค์และแบ่งปันคุณค่าจากการเติบโต” ด้วยปรัชญา “โอกาสไร้ขีดจำกัด” เพื่อมุ่งหวังการสร้างคุณค่า โอกาสไร้ขีดจำกัด ทั้งการเติบโตในสายอาชีพ การสร้างความสัมพันธ์ และการดูแลสังคม ซึ่งสอดรับกับความต้องการของกลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือ  New Gen

ด้วยการนำเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการขับเคลื่อนทีมงาน คือ “การเปิดโอกาสให้เขาได้ลงมือทำงานจริง” ได้เรียนรู้จากการลงมือทำ พร้อมๆ กับการจัดคอร์สอบรมในหลากหลายสาขาสายงาน เพื่อปรับเปลี่ยนมายด์เซ็ต ของพนักงานจากการลงมือปฏิบัติจริง เผชิญของจริง ไม่ใช่แค่ในคลาสรูม ผ่านจุดแข็งของไทยเบฟคือการมีของจริงให้ทำเยอะมาก ทั้งธุรกิจที่หลากหลาย การขยายไปต่างประเทศจริงๆ นั่นคือแนวทางและการนำมาใช้ในการพัฒนาคน คือการลงมือทำจริง  โดยเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้บริหารจัดการวิธีการทำงาน นำเสนอไอเดีย ไปจนถึงการจัดทำโครงการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสเสนอโปรเจ็กที่สนใจในด้านต่างๆ เพื่อต่อยอดสู่ความสำเร็จด้านต่างๆ

พร้อมกันนี้ยังได้มีการเปิดโปรแกรม “ThaiBev Internship Program for ASEAN Student” โครงการที่เปิดโอกาสนักศึกษาจากสัญชาติอาเซียนและไทยเข้ามาฝึกงานจริงกับทางไทยเบฟ ด้วยการส่งใบสมัครฯเข้ามาร่วมทำงาน โดยที่ผ่านมามีสองรุ่นและประสบความสำเร็จ ไปด้วยกัน ซึ่งคนที่ฝึกเสร็จอัตราอยากทำงาน 100% และนั่นคืออีกหนึ่งวิธีในการคัดเลือกเด็กรุ่นใหม่เข้ามาร่วมงาน

นอกจากนี้ยังมีการเชื่อม Asean DNA ที่เน้นความสัมพันธ์  ความเชื่อใจ และต้องคอยเสริมความสามารถด้านทักษะและมายด์เซ็ตใหม่ๆ ในการทำงานร่วมกัน เสริมศักยภาพในระดับภูมิภาคให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันให้กว่าหกหมื่นชีวิตเข้าใจความเป็นอาเซี่ยนในแต่ละภูมิภาคให้ดีที่สุด

 

3 ความท้าทาย ด้านทรัพยากรบุคคลปี 2566 สู่เป้าหมายนายจ้างที่ดีที่สุดในอาเซียน

ในส่วนของการพัฒนาด้านทรัพยากรบุคคลและการพัฒนาบุคลากร แน่นอนว่า “ไทยเบฟ” จะยังคงเดินหน้าระยะยาว โดยในปี 2566 ถือว่าเป็นปีแห่งการเติบโต โดยเฉพาะการเติบโตเข้าไปอยู่ในระดับอาเซี่ยน เพราะด้วยเป้าหมายที่ชัดเจนของไทยเบฟด้านความมั่นคงยั่งยืนในระดับอาเซี่ยน ภายใต้ Passion 2025 ที่ยังมีความท้าทายอยู่ค่อนข้างมาก

ดังนั้นในปีหน้าจึงมีแผนเดินหน้าธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการขยายธุรกิจใหม่เข้าไปในพื้นที่ใหม่ และทำให้ธุรกิจเติบโต แน่นอนว่าจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวต้องมีการต้อนรับสมาชิก (พนักงาน) ใหม่เข้ามาเสริมทัพในกลุ่มไทยเบฟอีกด้วย โดยปี 2566 เป็นอีกปีหนึ่งที่ท้าทายของกลุ่มไทยเบฟ จากเป้าหมายที่ชัดเจนขององค์กร ในการเดินสู่องค์กรที่มีการเติบโตระดับอาเซียน มีการขยายธุรกิจใหม่ๆ ไปในพื้นที่ใหม่ๆ ภายใต้การเป็นผู้นำที่มั่นคงและยั่งยืนในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มระดับอาเซียน ด้านบุคลากรจึงต้องมีการเตรียมพร้อมรับมือกับการเติบโตของธุรกิจในหลากหลายสาขา ประกอบไปด้วย

บุคคลากร :ปีหน้าถือเป็นปีที่บริษัทต้องเติบโต ดังนั้นต้องมีแผนการเตรียมพร้อมให้ธุรกิจเติบโตได้รวดเร็วเพียงพอในหลายสาขา ซึ่งประเมินว่าปีหน้าไทยเบฟ จะต้องมีการเสริมทัพบุคลากรหน้าใหม่เข้ามาเสริมทัพไม่ต่ำกว่า 2,000 คน เข้ามาร่วมงาน ซึ่งทั้งหมดล่วนเป็นตำแหน่งที่สำคัญจากโอกาสทางธุรกิจที่เปิดใหม่ขึ้นมา

โดยสายงานหลักที่กลุ่มไทยเบฟต้องการ จะเป็นบุคลากรที่เข้ามาเติมเต็มด้านการขาย การบริการลูกค้า การขายในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อรองรับงานขายในด้านต่างๆ รวมถึงผู้มีทักษะด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และอีกหนึ่งทักษะที่สำคัญ คือ การมี mindset ด้านการเติบโต และมองหาโอกาสในการเติบโตทั้งของตัวเองและธุรกิจ รวมถึงความสามารถในการทำงานร่วมกับคนอื่น (collaborate)

แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ : นอกจากนี้ยังใส่ใจเรื่องการพัฒนาในสายอาชีพของพนักงาน เพราะการจะเติบโตเป็นผู้นำอาเซี่ยนต้องมีการแลกเปลี่ยน ความรู้พนักงาน เพื่อเข้าสู่ระบบการเติบโต ทำให้คนสนใจที่จะขยายและพัฒนาตัวเอง ขับเคลื่อนความสำเร็จของคนองค์กร โดยอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจคือการจะผลักดันธุรกิจให้เติบโตในระดับอาเซี่ยนจำเป็นต้องใช้พนักงานจากชาติอาเซียนต่างๆ เข้ามาเสริมทีมด้วย

การร่วมมือในการทำงาน: ดังนั้นการ Cross พนักงานจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะกลุ่มชาติอาเซียนที่มีความเชื่อมต่อกันใน 7 ประเทศ ได้แก่ ไทย เวียดนาม เมียนมา สิงคโปร์ มาเลเซีย กัมพูชา และลาว ถือเป็นกลุ่มประเทศที่สำคัญ เพื่อมองหาโอกาสให้พนักงานที่เป็นชาวอาเซียนสามารถเข้าสู่ครอบครัวไทยเบฟได้ ด้านบุคลากรก็ต้องมีความเชื่อมโยง มีความร่วมมือ (Collaboration) ในการทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่

ทั้งหมดคือการสร้างทั้งประสิทธิผลและประสิทธิภาพ เพื่อก้าวสู่เป้าหมายการเป็นบริษัทนายจ้างที่ดีที่สุดในอาเซียน เพื่อประสานกับทุกประเทศทุกองค์กรให้ไปในทิศทางเดียวกัน โดยต้องการคะแนนความผูกพันขององค์กรกับพนักงาน 90% ขึ้นไป นั่นคือความท้าทายเป็นอย่างมากที่ต้องสร้างสรรค์ความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง จากตอนนี้เหลือ 80% โดยไทยเบฟเคยมีคะแนนด้านความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรกับพนักงานแตะระดับ 85% ช่วงโควิดซึ่งเป็นช่วงวิกฤตของทั่วโลก ซึ่งการจะเดินหน้าตามเป้าหมายที่วางไว้นับว่าเป็นความท้าทายอย่างมาก

 

อ่านเพิ่มเติม

ไทยเบฟ เจ๋ง! คว้ารางวัล “Thailand Corporate Excellence Awards 2022” ด้านการจัดการทรัพยากรบุคคลดีเด่นแห่งปี


แชร์ :

You may also like