ถูกจับตามาอย่างต่อเนื่องหลายปี สำหรับภาพค้าปลีก “ย่านราชพฤกษ์” หลังภาครัฐมีการประกาศปรับผังเมือง เพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองและเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าและรองรับการขยายตัวของเมืองที่จะเปลี่ยนแปลงไปตามเส้นทางรถไฟฟ้า โดยได้มีการปรับสีผังเมืองถนนราชพฤกษ์และชัยพฤกษ์ จากพื้นที่สีเขียว และสีเหลือง เป็นสีเหลืองและสีส้ม เช่น ช่วงเชื่อมต่อห้าแยกปากเกร็ดถึงถนนชัยพฤกษ์ เป็นต้น
การปรับดังกล่าวทำให้ย่านราชพฤกษ์เปลี่ยนภาพใหม่ ด้วยการพลิกโฉมจากย่านสวนผัก สู่รูปแบบเมืองสมัยใหม่ ที่มีทั้งหมู่บ้านระดับลักชัวรี่ อาคารต่างๆ และการลงทุนทางอสังหาริมทรัพย์ คอนโดมิเนี่ยมเกิดขึ้น แทนที่ภาพจำเดิม รวมไปถึงการขยายถนน การสร้างรถไฟฟ้า และห้างสรรพสินค้าต่างๆ เนื่องจากผู้ประกอบการต่างมองแล้วว่านี่คือทำเลทองในอนาคต
ที่น่าสนใจคือ พื้นที่ตลอดแนวถนนราชพฤกษ์ที่ปรับเปลี่ยนเป็นสีส้มหรือพื้นที่ที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลางให้ สามารถสร้างอาคารสูง และอาคารขนาดใหญ่มากกว่า 10,000 ตารางเมตร ถ้าสร้างติดกับถนนที่มีความกว้างไม่น้อยกว่า 30 เมตรหรือห่างจากสถานีรถไฟฟ้าไม่เกิน 500 เมตร เปิดทางให้มีการพัฒนาเพิ่มขึ้นตามแนวถนนราชพฤกษ์มากขึ้น
โดยเฉพาะการแข่งขันของธุรกิจค้าปลีก ที่เริ่มสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว แม้ช่วงแรกจะมีเพียงห้างร้านและคอมมูนิตี้มอลล์เดิมในย่านเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น โฮมโปร, เดอะคริสตัล, เดอะวอล์ก, เดอะเซอร์เคิล เป็นต้น แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเริ่มเห็นการเข้ามาของบิ๊กเนมค้าปลีกที่มีการวางแผนขยายสาขา และโมเดลใหม่ๆ เพื่อบุกยึดทำเลดังกล่าวมากขึ้น
ราชพฤกษ์ ทำเลใหม่บิ๊กค้าปลีก ดูดกำลังซื้อระดับพรีเมี่ยม
หากมองการขยายตัวใน “ย่านราชพฤกษ์” ปัจจุบันคร่าวๆ พบว่าจากการขยายตัวของเขตเมือง และประชากรที่มีกำลังซื้อสูงได้ขยายตัวออกไปอย่างต่อเนื่องมากขึ้น โดยเฉพาะหมู่บ้านจัดสรร มีตั้งแต่ โครงการระดับ High-End และโครงการต่าง ๆ เกิดใหม่ในย่าน กว่า 115,000 ยูนิต มีหมู่บ้านระดับ 10 ล้านไปจนถึงระดับกว่า 100 ล้านจำนวนมากที่ขยายตัวออกจากในเขตเมือง การขยายตัวของโรงเรียนต่างๆ คอนโดที่จะเกิดขึ้นในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ขณะเดียวกันยังมีจำนวนประชากร 415,000 คน ที่มีไลฟ์สไตล์ใกล้เคียงย่าน CBD และกำลังซื้อสูงเทียบเท่าย่านธุรกิจอื่นๆในเขตกรุงเทพฯ
นั่นทำให้ทำเลดังกล่าวกลายเป็นพื้นที่ทองคำแห่งใหม่ของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตั้งแต่มีการประกาศปรับร่างผังเมืองดังกล่าว ทำให้พี่ใหญ่หลายรายในวงการค้าปลีก ต่างเริ่มกางแผนขยายสาขาเพื่อเจาะทำเลทองแห่งใหม่นี้มากขึ้นโดยเฉพาะ 3 พี่ใหญ่อย่าง “เซ็นทรัล-โรบินสัน-โลตัส” ที่เริ่มทยอยเปิดให้บริการมาแล้ว
โลตัส กับโมเดลแฟล็กชิฟ “โลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์” ต้นแบบรีเทลสมัยใหม่
เริ่มกันที่ “โลตัส” โดยเครือซีพี กับ “โลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์” หลังซุ่มเงียบพัฒนาล่าสุดก็ได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา กับโมเดลค้าปลีกแฟล็กชิปสโตร์ต้นแบบ SMART Community Center บนพื้นที่รวมกว่า 47,000 ตารางเมตร โดยมี “ไฮเปอร์มาร์เก็ต” พื้นที่ 4,500 ตารางเมตร สินค้ากว่า 28,000 รายการ โดยเป็นสินค้าประเภทอาหารเกือบ 13,000 รายการ เช่น อาหารสด สินค้าเกรดพรีเมียม และสินค้านำเข้าจากทั่วทุกมุมโลก จับกลุ่มลูกค้าในย่านราชพฤกษ์ ซึ่งมีหมู่บ้านจัดสรรชั้นนำหลายโครงการและมีกำลังซื้อสูง
โลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์ กับโมเดลต้นแบบสมาร์ทรีเทลแห่งแรกของโลตัส
มีจุดเด่นคือไฮเปอร์มาร์เก็ตของโลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์ยังทำหน้าที่เป็น fulfillment center สามารถจัดส่งสินค้าที่มีจำหน่ายทั้งหมดที่มีการอัพเดทแบบเรียลไทม์ ให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อผ่านแพลทฟอร์มออนไลน์ Lotus’s SMART app บริการส่งในรัศมี 10 กิโลเมตรจากสาขา
นอกจากนี้ยังมีร้านค้าเช่าทั้งหมด 130 ร้าน ตัวอาคารรูปแบบ semi-outdoor ลดการใช้พลังงานจากเครื่องปรับอากาศ และะยังมีพันธมิตรรายใหม่ที่เพิ่งเปิดสาขาในโลตัสเป็นครั้งแรก อาทิ ภัตตาคารเชียงการีล่า ภัตตาคารกวนอา The Bibimbab รสสยามนู้ดเดิ้ล Okonomiyaki Takuya และ จกโต๊ะเดียว นอกจากนั้น ยังมีร้านกิน ดื่ม เที่ยว ที่ตอบโจทย์หลากหลายไลฟ์สไลต์
และยังมีสนามโกคาร์ทไฟฟ้ากลางแจ้ง E-gokart by Monowheel ที่เล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ด้วยพื้นที่สนามแข่งมากกว่า 700 ตารางเมตร และสำหรับสมาชิกสี่ขาในครอบครัว ก็มีพื้นที่ให้ปลดปล่อยพลังเช่นกันที่ Pet Us คลับของคนรักสัตว์เลี้ยง และพิเศษสุด Dog Park พื้นที่สันทนาการสำหรับสัตว์เลี้ยง และตลาดสุขใจ พื้นที่สำหรับจำหน่ายสินค้าชุมชนและสินค้าเอสเอ็มอีอีกด้วย
โรบินสัน ราชพฤกษ์ กับ “The New Landmark Beside You” เจาะทุกเพศ ทุกวัย
ไม่เพียงแต่ “เซ็นทรัลพัฒนา” เท่านั้น หากแต่ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ “ซีอาร์ซี” หนึ่งในเครือเซ็นทรัลเช่นเดียวกัน ก็เล็งเห็นโอกาสในพื้นที่ดัวกล่าว เดินหน้าเปิดโปรเจ็ก “โรบินสันไลฟ์สไตล์ ราชพฤกษ์” ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามไทวัสดุ ใกล้จุดเชื่อมต่อถนนราชพฤกษ์ตัดใหม่) ด้วยงบลงทุนกว่า 1,200 ล้านบาท โดยพร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 พฤศจิกายนนี้
ภาพมุมสูง “โรบินสันไลฟ์สไตล์ ราชพฤกษ์” ขณะกำลังก่อสร้าง (ภาพจากเฟซบุ๊ก Robinson DepartmentStore Ratchapruek)
โดยความคืบหน้าล่าสุดหลังทางซีอาร์ซี ประกาศปิด “ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน บางแค” โดยจะมีผลภายในเดือนพฤศจิกายน 2565 นี้ และก่อนส่งมอบพื้นที่คืนให้แก่บริษัท ซีคอน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาศูนย์การค้าซีคอนบางแคในลำดับต่อไป ล่าสุด เฟซบุ๊ก “Robinson Department Bangkae” ก็ได้เปลี่ยนชื่อเพจมาเป็น “Robinson DepartmentStore Ratchapruek” เป็นที่เรียบร้อย เพื่อใช้เป็นช่องทางสื่อสารกับลูกค้าต่อไป
สำหรับการเปิดตัวใหม่ในครั้งนี้จะทำให้ “โรบินสันไลฟ์สไตล์ ราชพฤกษ์” เป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดของโรบินสันไลฟ์สไตล์ มีพื้นที่กว่า 50,000 ตารางเมตร ภายใต้คอนเช็ปต์’ “The New Landmark Beside You” เติมเต็มความสุข สนุกทุกไลฟ์สไตล์ เพื่อให้เป็นสถานที่ที่ทุกคนในครอบครัว เน้นเจาะกลุ่มทุกเพศทุกวัย สามารถใช้ชีวิต ทำกิจกรรมต่างๆ ได้ในทุกๆวัน
มีการออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “UNDER THE SHADE OF RATCHAPHRUEK” ที่นำเอาอัตลักษณ์อันโดดเด่นของชุมชนราชพฤกษ์อย่าง “ต้นราชพฤกษ์” มาเป็นองค์ประกอบหลัก เพื่อเนรมิตให้พื้นที่ของศูนย์การค้าอยู่ภายใต้ร่มเงาของต้นราชพฤกษ์ ด้วยการนำองค์ประกอบของดอกและส่วนบนของต้นราชพฤกษ์มาเป็นเส้นสาย ในการออกแบบ
พร้อมเพิ่มเติมความสนุก สดใส ด้วยการใช้โทนสีหลากสีสันเสมือนสวนดอกไม้ เพื่อรังสรรค์ประสบการณ์ EAT – SHOP – PLAY ที่พิเศษสุดแก่ครอบครัวนักช้อปชาวราชพฤกษ์และพื้นที่ใกล้เคียง ในฐานะไลฟ์สไตล์เดสติเนชั่นที่ตอบโจทย์ครอบครัวนักช้อปทุกเพศ ทุกวัย
เซ็นทรัล ส่ง “เซ็นทรัล เวสต์วิลล์” ชิงลูกค้าพรีเมี่ยม เปิดไตรมาส 4/66
และสุดท้ายกับพี่ใหญ่แห่งวงการค้าปลีกเมืองไทย “เซ็นทรัลพัฒนา” ที่แม้จะมีข่าวการวางแผนเปิด “เซ็นทรัล ราชพฤกษ์” มานานหลายปี แต่ท้ายที่สุดบิ๊กเนมรีเทลรายนี้ก็คลอดโปรเจ็กยักษ์ออกมาจนได้ พร้อมชื่อใหม่ “เซ็นทรัล เวสต์วิลล์” ด้วย มูลค่าโครงการกว่า 6,200 ล้านบาท บนที่ดิน 40 ไร่ และโมเดลที่ใช้ในการพัฒนาแบบเดียวกับ “เซ็นทรัล อีสต์วิลล์” ผสมผสานพื้นที่สีเขียวเป็น Green Park ของเมือง มีพื้นที่กิจกรรมเอาท์ดอร์สำหรับครอบครัวและ Pet Friendly Space เพิ่มขึ้น
เซ็นทรัล เวสต์วิลล์ โปรเจ็คไฮไลต์จากเซ็นทรัลพัฒนาที่ใช้บุกทำเลราชพฤกษ์ พร้อมเปิดให้บริการไตรมาส 4/66
มีเป้าหมายหลักเพื่อเจาะทำเลราชพฤกษ์เชื่อมตรงสู่ Bangkok CBD ประกอบด้วยพื้นที่ GFA 93,000 ตร.ม. รวบรวมแบรนด์ในเครือ และแบรนด์ดังมาไว้มากมาย มาพร้อมคอนเซ็ปต์ Reinventing the Neighborhood ซึ่งจะเป็นการยกระดับฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ ให้เป็นย่าน Upper-Class Lifestyle
ประกอบไปด้วย Urban & Outdoor Activities ที่ทำได้ตลอดทั้งวันแบบ Day-to-Night เช่น พื้นที่ให้ Jogging กับสัตว์เลี้ยง, Urban Farming, Organic Weekend Market, พื้นที่สำหรับครอบครัว, ชมงานอาร์ต
โดยกลุ่มลูกค้าหลักของ “เซ็นทรัล เวสต์วิลล์” คือกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงภายในย่านเป็นหลัก ด้วยต้องการพลิกโฉมย่านราชพฤษ์ สู่ จุดหมายปลายทางใหม่ของคนในย่าน โดยพร้อมเปิดตัวช่วงไตรมาส 4/2566 โดยปัจจุบัน “เซ็นทรัล เวสวิลล์” คืบหน้าการก่อสร้างไปแล้วกว่า 50%
ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวกับ BrandBuffet ว่า “การแข่งของค้าปลีกในย่านราชพฤกษ์แม้จะรุนแรงขึ้น และในส่วนของเซ็นทรัลพัฒนาจะเปิดให้บริการ “เซ็นทรัล เวสต์วิลล์” ในช่วงไตรมาส 4 ของปีหน้า แต่บริษัทยังเชื่อมั่นด้านกำลังซื้อและศักยภาพของประชากรในย่าน ขณะเดียวกันกลุ่มเป้าหมายของแต่ละที่นั้นต่างกันอย่างเห็นได้ชัด และศูนย์การค้าที่เน้นเจาะกลุ่มแบบลูกค้าระดับบนเป็นหลักเดียวกับเซ็นทรัล เวสต์วิลต์ นั้นยังไม่มี ซึ่งถ้าเราจับแมสมากๆก็ต้องยอมรับว่ามีปัญหาด้านกำลังซื้อ แต่การจับพรีเมี่ยมทำให้เราสามารถดำเนินงานได้ตามเป้าหมาย และแผนทุกอย่างสามารถคืบหน้าได้”
โดยมีเป้าหมายคือให้เป็นย่านที่อยู่อาศัยที่สำคัญของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก เชื่อมเข้าใจกลางเมืองได้ง่าย หวังให้เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ จากปัจจุบันในย่านนี้ก็มีห้างและคอมมูนนิตี้มอลล์อยู่ค่อนข้างเยอะและครบครันแทบทุกแบรนด์อยู่แล้ว
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของค้าปลีกกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตกให้มีความคึกคักมากยิ่งขึ้น และน่าจับตาว่า พี่ใหญ่รายใดจะประสบสบความสำเร็จกับค้าปลีกในทำเลใหม่แห่งนี้มากกว่ากัน แต่ที่แน่คอมมูนิตี้มอลล์น้องเล็กรายเดิมน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเพื่อรับการเข้ามาของผู้เล่นรายใหม่ไม่มากก็น้อย