HomePR Newsยัสปาล เผยความสำเร็จ C.P.S. COFFEE แฟล็กชิปสโตร์ พร้อมรุกสู่ธุรกิจไลฟ์สไตล์รีเทล ตั้งเป้าขยายอีก 30 สาขาภายใน 5 ปี [PR]

ยัสปาล เผยความสำเร็จ C.P.S. COFFEE แฟล็กชิปสโตร์ พร้อมรุกสู่ธุรกิจไลฟ์สไตล์รีเทล ตั้งเป้าขยายอีก 30 สาขาภายใน 5 ปี [PR]

แชร์ :

ยัสปาล พุ่งเป้าขยายธุรกิจสู่ไลฟ์สไตล์รีเทลครบวงจร ชู C.P.S. COFFEE (ซี.พี.เอส. คอฟฟี่) รุกธุรกิจคาเฟ่ ย้ำความแข็งแกร่งของ C.P.S. COFFEE ทั้ง 3 ด้าน คือ COFFEE, PASSION และ SPECIALITY ล่าสุดปั้นแฟล็กชิปสโตร์กลางสุขุมวิท 53 ปักหมุดเป็นแลนด์มาร์กที่คอกาแฟห้ามพลาด! ตั้งเป้าขยายสาขาอีก 30 สาขาภายใน 5 ปี ด้วยโมเดลของร้านหลากหลายรูปแบบ เพื่อครอบคลุมพื้นที่ กรุงเทพฯ จังหวัดปริมณฑล และจังหวัดใหญ่ ๆ

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

นายอภิสิทธิ์ สิงห์สัจจเทศ ผู้อำนวยการแบรนด์ CPS CHAPS (ซีพีเอส แชปส์) บริษัท ยัสปาล จำกัด เปิดเผยว่า “จากการที่ยัสปาลเป็นบริษัทที่แข็งแกร่งในด้านการเป็นแฟชั่นรีเทลมาอย่างยาวนานกว่า 50 ปี ในช่วงที่ผ่านมาเราได้วางทิศทางการดำเนินงานด้วยการขยายธุรกิจสู่ธุรกิจไลฟ์สไตล์รีเทลต่าง ๆ อย่างครบวงจรมากยิ่งขึ้น รวมถึงธุรกิจกลุ่มคาเฟ่ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตสูง ใกล้ชิดกับผู้บริโภค และตอบโจทย์พฤติกรรมการใช้ชีวิตของลูกค้าได้เป็นอย่างดี และด้วยเทรนด์การดื่มกาแฟของคนไทยที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่เราได้เปิดตัว C.P.S. COFFEE ตั้งแต่ปี 2561 ภายใต้แนวคิดหลัก คือ COFFEE, PASSION และ SPECIALITY ที่สะท้อนถึงคาแรกเตอร์ของแบรนด์ ซึ่งเป็นกาแฟที่สร้างสรรค์ขึ้นจากความหลงใหล และความใส่ใจในการรังสรรค์เมนู การคัดเลือกเมล็ดกาแฟ วัตถุดิบ และอุปกรณ์ ไปจนถึงความเชี่ยวชาญของ
บาริสต้า”

ปัจจุบันร้าน C.P.S COFFEE มี 2 โมเดล คือ “คอฟฟี่ บาร์” ดีไซน์เท่ ขนาดประมาณ 60-80 ตร.ม. จำนวน 3 สาขา คือ ไอคอนสยาม เทอร์มินอล 21 อโศก และสาขาเซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์วิลล์ และเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เปิดโมเดลใหม่ คือ แฟล็กชิปสโตร์ ที่ซอยสุขุมวิท 53 มี 2 ชั้น รวมพื้นที่กว่า 210 ตร.ม.

การเปิดให้บริการ C.P.S. COFFEE แฟล็กชิปสโตร์ นับว่าประสบความสำเร็จและได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าทั้งคนไทยและคนต่างชาติ โดยเฉพาะ ญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง เวียดนาม ด้วยกลยุทธ์การตลาดที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าทั้ง 4 ด้าน คือ

1) Exclusive Menu ซึ่งมีบริการเฉพาะสาขาแฟล็กชิปสโตร์เท่านั้น โดยมีการสร้างสรรค์เมนูพิเศษ Dirty Coffee ที่คิดค้นขึ้นใหม่ เมล็ดกาแฟ Blend Black : 19-0915 เมล็ดกาแฟอาราบิก้าจากเชียงราย รวมไปการเพิ่มเมนูเบเกอรี่ ทั้ง แซนวิช พาย และเบอร์เกอร์ ที่อบร้อนพร้อมเสิร์ฟ ซึ่งได้ปรับให้สอดคล้องกับอินไซต์พฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าในพื้นที่ ที่สามารถใช้บริการได้นานขึ้น และรับประทานอาหารได้เต็มที่ แตกต่างจากสาขาอื่นที่เป็นลักษณะคอฟฟี่บาร์ นอกจากนี้ ยังมีเครื่องดื่มเมนูพิเศษตามซีซันให้เลือกลิ้มลอง เพิ่มความหลากหลายและดึงดูดให้ลูกค้ามาใช้บริการได้บ่อยมากยิ่งขึ้น

2) Prime Location บริษัทฯ ได้เลือกเปิดตัวโมเดลแฟล็กชิปสโตร์ที่ซอยสุขุมวิท 53 เชื่อมต่อซอยทองหล่อ ซึ่งเป็นไลฟ์สไตล์คอมมูนิตี้แห่งสำคัญของกรุงเทพฯ มีกลุ่มคนทั้ง Trend Setter และเซเลบริตี้คนดังมาใช้บริการที่ร้านเป็นจำนวนมาก จึงเป็นการสร้างกระแสและการรับรู้ในกลุ่มลูกค้าให้ติดตามมาใช้บริการได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีบริการพื้นที่จอดรถเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า และโซน Pet Friendly ที่ออกแบบมาเพื่อเอาใจคนรักสัตว์โดยเฉพาะ

3) Stunning Design โดย C.P.S. COFFEE แฟล็กชิปสโตร์ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ Modern Timeless ด้วยดีไซน์กำแพงใหญ่ขาวบริเวณด้านหน้าอันโดดเด่นที่มีโทนสีไม่ซ้ำกันในแต่วัน ซึ่งเกิดจากการหักเหของแสง สร้างความดึงดูดและน่าค้นหา  รวมทั้งการใช้วัสดุและโทนสีร้านในจุดต่าง ๆ ตามระดับความเข้มของกาแฟ ซึ่งเป็นการสร้างสรรค์พื้นที่ผ่านแนวคิดใหม่ ที่ผสานมุมมองด้านแฟชั่นที่ยังคงคอนเซปต์ความเท่ตามแบบฉบับของ CPS CHAPS ไว้อย่างลงตัว จนทำให้ C.P.S. COFFEE แฟล็กชิปสโตร์กลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่เหล่า
คาเฟ่ฮอปเปอร์ และคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพพลาดไม่ได้!

4) Exclusive Activity ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีการเชิญบาริสต้าคนดังหรือแชมป์ทั้งของไทย และต่างประเทศ มาร่วมกิจกรรมพิเศษในรูปแบบต่าง ๆ สร้างคอมมูนิตี้สำหรับคนรักกาแฟ และตอกย้ำความเป็นตัวจริงที่เชี่ยวชาญด้านกาแฟของ C.P.S. COFFEE อย่างชัดเจน

“จากความสำเร็จของ C.P.S. COFFEE ที่เกิดขึ้นทำให้บริษัทฯ เตรียมขยายธุรกิจ C.P.S. COFFEE โดยตั้งเป้าว่าจะเพิ่มจำนวนอีก 30 สาขา ภายใน 5 ปี ด้วยการเพิ่มโมเดลของร้านหลายรูปแบบเพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น ในทำเลที่เป็นศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน และไลฟ์สไตล์คอมมูนิตี้ต่าง ๆ ทั้งในกรุงเทพ และจังหวัดสำคัญ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการต่อยอดธุรกิจของบริษัทฯ เข้าสู่ธุรกิจไลฟ์สไตล์รีเทลต่อไป” นายอภิสิทธิ์ กล่าวสรุป


แชร์ :

You may also like