หลังเจอความไม่ปกติจากสถานการณ์โควิด 3 ปี วันนี้อสังหาริมทรัพย์เริ่มกลับมาในทิศทางที่ดีขึ้น จากตัวเลขยอดโอนที่อยู่อาศัยและยอดขาย รวมทั้งการกลับมาเปิดโครงการใหม่อีกครั้งในกลุ่มคอนโดมิเนียม และถือเป็น Big Move ของ “อนันดา” เจ้าตลาดคอนโดติดรถไฟฟ้า กับการเปิดตัว 3 แบรนด์ใหม่ในไตรมาส 4 ปีนี้
คุณชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) มองว่าสถานการณ์วันนี้ตลาดอสังหาฯ ฟื้นแล้ว และจะฟื้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะคอนโด ที่เริ่มกลับมาเปิดตัวใหม่อีกครั้ง ตั้งแต่ไตรมาส 2
แม้ช่วงโควิดคนสนใจที่อยู่อาศัยประเภทบ้าน ทำเลชานเมือง แต่เมื่อโควิดจบลง เจอปัญหาฝนตก รถติด ก็กลับมาสนใจคอนโดติดรถไฟฟ้า แต่ในยุคนี้พฤติกรรมลูกค้าแต่ละกลุ่มมีความต้องการแตกต่างกัน ความสะดวกเรื่องการเดินทางอาจไม่พอ ต้องใส่ความสะดวกใหม่ๆ เข้าไปเพิ่มเติม เป็นรูปแบบ Super Convenience ทั้งโลเคชั่น และ On-demand services
“อสังหาฯ หลังโควิด ต้องปรับตัวกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ต้องเข้าใจลูกค้าให้มากขึ้น การทำที่อยู่อาศัยในยุคนี้ต้องมีทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ลูกค้าไม่ได้ต้องการแค่ที่อยู่อาศัย แต่ต้องการบริการที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ด้วย”
ที่ผ่านมา อนันดาเน้นตอบโจทย์ลูกค้า ด้านทำเลเป็นเรื่องหลัก ปัจจุบันได้เพิ่มบริการ (Service) และการสร้างสังคม (Community) โดยพัฒนาคอนโดผสมผสานการบริการต่างๆ ที่มีมาตรฐานระดับ World class
เปิด 3 แบรนด์ใหม่ เพิ่มพอร์ตลักชัวรี่ กำไรสูง
ปัจจุบันอนันดา มี Brand Portfolio ในตลาดคอนโดและบ้านครบทุกเซ็กเมนต์แล้ว แต่หลังโควิดต้องการสร้างความตื่นเต้นให้ตลาด และเห็นโอกาสกลุ่มลักชัวรี่กลับมาเติบโต รวมทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการคอนโดพร้อมบริการ ไตรมาส 4 ปีนี้ จึงเปิดตัว 3 แบรนด์ใหม่
1. โคโค่ พาร์ค (COCO Parc ) เป็นครั้งแรกของการทำ Branded Residence โปรดักท์ที่อยู่อาศัยพร้อมเซอร์วิสบริหารโดย “ดุสิตธานี” ด้วยมาตรฐานโรงแรม 5 ดาว โดยผู้อยู่อาศัยสามารถเลือกใช้ On-demand services ตามที่ต้องการ โดยไม่ต้องจ่ายค่าบริการที่ไม่ได้ใช้ ทำเลแรกพระราม 4 ติดรถไฟฟ้า MRT คลองเตย ใกล้สวนสวนเบญจกิติ และสวนลุมกว่า 810 ไร่ โครงการนี้เป็นคอนโดสร้างเสร็จก่อนขาย พร้อมโอนในเดือนพฤศจิกายนนี้ ราคาเริ่มต้น 5.99 ล้านบาท
แบรนด์โคโค่ พาร์ค เป็นคอนโดในกลุ่มลักชัวรี่ มีเพนท์เฮ้าส์ 11 ยูนิต พื้นที่ 250 ตารางเมตร ขายได้แล้ว 9 ยูนิต เป็นการปรับโปรดักท์ตอบโจทย์ดีมานด์กำลังซื้อตลาดต่างชาติและนักลงทุนกลับมาแล้ว
2. คัลเจอร์ (Culture) การพัฒนาแบรนด์นี้เป็นการจับมือกับ Scratch First ผู้จัดงาน Wonderfruit เป็นที่อยู่อาศัยแนวคิดใหม่ ให้ความสำคัญในเรื่องการอยู่อาศัยร่วมกับธรรมชาติอย่างยั่งยืน เพื่ออนาคตที่ดีขึ้น เป็นชุมชนของคนเมืองเผ่าพันธุ์ใหม่ที่มีความคิดอยากจะเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้น มีการออกแบบให้แตกต่างไปจากเดิม รวมทั้งความร่วมมือกับ Ascott แบรนด์ระดับโลกเข้ามาบริหารจัดการการอยู่อาศัยให้สะดวกสบายมากขึ้นในรูปแบบ On-demand services ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่
แบรนด์คัลเจอร์ เปิดตัว 2 ทำเล คือ คัลเจอร์ ทองหล่อ ระยะ 50 เมตร BTS ทองหล่อ ราคาเริ่มที่ 4.09 ล้านบาท และ คัลเจอร์ จุฬา ระยะ 350 เมตร MRT สามย่าน และ 290 เมตร BTS ศาลาแดง
3. อันดา (Anda) แบรนด์บ้านมีสไตล์สำหรับคนรุ่นใหม่ ทำเลแรก “ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ” มีทั้งบ้านแฝดและทาวน์โฮม ติดถนนใหญ่ 5 นาทีจากทางด่วนศรีสมาน ราคาเริ่ม 2.39 -6 ล้านบาท
“สิ่งที่อนันดา ใส่เข้ามาในโครงการใหม่ คือ On-demand services จากพันมิตรดุสิตธานีและAscott เริ่มที่ในโครงการคอนโด แต่มองโอกาสจะใส่เข้าไปในที่อยู่อาศัยทุกประเภท วันนี้เราไม่ได้แค่ก่อสร้างที่อยู่อาศัย แต่จะใส่บริการต่างๆ เข้าไปให้ลูกค้า ตอบโจทย์การใช้ชีวิต Live Work Play การใส่ซอฟต์แวร์ (บริการออนดีมานด์) เข้าไป ทำให้สินค้าดู Sexy ขึ้นและแตกต่างจากตลาด”
คุณประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าช่วง 3 ไตรมาสแรกปีนี้ พอร์ตโฟลิโอที่อยู่อาศัยในกลุ่มลักชัวรี่ (Luxury Segment) ทำยอดขายเติบโต 386% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน ทั้งตลาดบ้านและคอนโด กลุ่มที่เพิ่มขึ้นคือซูเปอร์ ลักชัวรี่ ราคามากกว่า 20 ล้านบาทขึ้นไป
การเติบโตของกลุ่มลักชัวรี่ มาจากดีมานด์ต่างชาติและนักลงทุนกลับมาแล้ว โดยมีการโอนแบบ Big Lot ทำให้มีสถิติยอดโอนสูงสุดในรอบ 2 ปี
ส่งผลให้ช่วง 3 ไตรมาสแรกที่ผ่านมาอัตรากำไรขั้นต้น (gross profit margin) ขยับขึ้นต่อเนื่อง ไตรมาสแรกอยู่ที่ 24.42% ไตรมาส 2 อยู่ที่ 26.52% ไตรมาส 3 อยู่ที่ 28.7% แนวโน้มไตรมาส 4 คาดว่าจะทำ New High จากยอดโอนคอนโด COCO Parc ซึ่งเป็นโครงการที่อนันดา มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงสุดที่ 40%
จากสถานการณ์ที่ทุกอย่างเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น เห็นได้จากตัวเลขต่างๆ ที่มีการฟื้นตัวทั้งยอดขาย ยอดโอน และยอดเปิดตัวโครงการใหม่ อนันดาเองก็ฟื้นตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นจากการปรับตัวด้วยเช่นกัน ทั้งยอดขาย ยอดโอน และความสามารถในการทำกำไร โดยทำยอดขายในไตรมาส 3 สูงถึง 4,062 ล้านบาท และมั่นใจว่าจะโตต่อเนื่องในไตรมาส 4 อีกกว่า 5,000 – 6,000 ล้านบาท ทั้งสามารถทำได้ตามเป้าหมายยอดขายของปีนี้ที่ 15,680 ล้านบาท
ด้านยอดโอนในไตรมาส 3 เติบโตจากไตรมาสที่แล้วถึง 27% ด้วยยอดโอนสูงถึง 4,423 ล้านบาท และมีแผนส่งมอบอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 4 ซึ่งมั่นใจว่าสามารถทำได้ตามเป้าหมายยอดโอนของปีนี้ที่ 13,033 ล้านบาท
ไตรมาส 4 ปีนี้ เปิดตัวโครงการใหม่ 6 โครงการ มูลค่ากว่า 21,627 ล้านบาท ได้แก่ 1. โคโค่ พาร์ค 2. คัลเจอร์ ทองหล่อ 3.คัลเจอร์ จุฬา 4.โครงการไอดีโอ รามคำแหง – ลำสาลี สเตชั่น 5. อันดา ราชพฤกษ์ – แจ้งวัฒนะ และ 6. อาร์เทล อโศก – พระราม 9 รูปแบบ Urban Luxury Pool villa ราคา 35 – 60 ล้านบาท
พร้อมจัดงานใหญ่ในรอบ 5 ปี กับงาน ANANDA URBAN PULSE 2022 ระหว่างวันที่ 27-30 ตุลาคม 2565 ณ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน รวบรวมโครงการคอนโดติดรถไฟฟ้า บ้าน และทาวน์โฮม รวมทั้ง 6 โครงการใหม่และโครงการพร้อมอยู่ทั่วกรุงเทพฯ มาจัดโปรโมชั่น ได้แก่ ราคาพิเศษสุดแห่งปี ส่วนลดพิเศษ อยู่ฟรีสูงสุด 24 เดือน และแพ็คเกจพร้อมอยู่ 24 รายการ เป็นต้น