HomeSponsoredอลิอันซ์ฯ จับ Pain Point ค่ารักษาพยาบาลพุ่ง เปิดตัว “ประกันสุขภาพปลดล็อค ดับเบิล แคร์” ประกันที่มีไว้อวดดดด (รวยสุขภาพ)

อลิอันซ์ฯ จับ Pain Point ค่ารักษาพยาบาลพุ่ง เปิดตัว “ประกันสุขภาพปลดล็อค ดับเบิล แคร์” ประกันที่มีไว้อวดดดด (รวยสุขภาพ)

แชร์ :

แม้ว่าผู้บริโภคจะหันมาตื่นตัวกับเรื่องประกันสุขภาพมากขึ้น แต่เมื่อพูดถึงการมีประกันสุขภาพ ในสายตาคนจำนวนไม่น้อย ยังมองเป็นสิ่งไม่จำเป็น สวนทางกับการซื้อของแบรนด์เนม เดินทางท่องเที่ยว ที่จำเป็นต้องซื้อเดี๋ยวนี้ จองทริปทันที เพราะของมันต้องมี ต้องเที่ยวไว้อวดเพื่อน แต่ทราบไหมว่า หากเจ็บไข้ได้ป่วย ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลตอนนี้มีอัตราเฉลี่ยสูงขึ้นมาก แค่อุบัติเหตุเล็กน้อยมาโรงพยาบาลทำแผล ค่าแพทย์ก็ปรับขึ้นไปที่ 800-1,000 บาท จากเดิม 200 บาท ขณะที่ถ้าตรวจพบโรคร้ายแรง เช่น โรคมะเร็ง และโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือดสมอง ค่ารักษาพยาบาลอาจจะสูงถึงหลักล้านทีเดียว

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ด้วยอินไซต์ตรงนี้เอง ทำให้ บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ AZAY ได้ออกแบบประกันสุขภาพเหมาจ่ายตัวใหม่ “สุขภาพ ปลดล็อค ดับเบิล แคร์” ที่ให้ความคุ้มครองสูงกว่าประกันสุขภาพเหมาจ่ายแบบเดิมๆ พร้อมหนังโฆษณาออนไลน์ตัวใหม่ ในคอนเซ็ปท์ “เรื่องสุขภาพ ต้องห้ามพลาด” ที่จะทำให้คนดูเอ็นจอยไปกับหนัง ผ่านการนำเสนอในรูปแบบของการรีวิวสินค้าอย่างน่าสนใจ Brand Buffet พามาดูวิธีคิดผลิตภัณฑ์ และเบื้องหลังหนังโฆษณาที่แหวกแนวชุดนี้กันว่าเป็นอย่างไร

จุดสตาร์ทไอเดีย “สุขภาพ ปลดล็อค ดับเบิล แคร์” ที่ให้ความคุ้มครอง 2 เท่า

จากความไม่แน่นอนเรื่องสุขภาพ  และแนวโน้มค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้น โดย คุณพัชรา ทวีชัยวัฒนะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารงานลูกค้า บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ AZAY ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันค่ารักษามีอัตราสูงขึ้นประมาณ 7% ต่อปี ซึ่งเป็นผลจากการพัฒนาประสิทธิภาพยาและเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการรักษาที่มีประสิทธิผลขึ้น โดยเฉพาะโรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง โรคเกี่ยวกับหัวใจ และโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดสมอง ค่ารักษาโรคเหล่านี้สูงมาก

ยกตัวอย่างมะเร็งลำไส้ การผ่าตัด 200,000 บาท/ครั้ง, การฉายรังสี 200,000 บาท/ครั้ง, เคมีบำบัด 800,000 บาท/คอร์ส, การรักษาพุ่งเป้า 1,800,000 บาท / 4-6 เดือน และภูมิคุ้มกันบำบัด 7-15 ล้านบาท ซึ่งประกันสุขภาพเหมาจ่ายแบบเดิมๆ อาจจะไม่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลที่มีคุณภาพสูงขึ้นในปัจจุบัน จึงเป็นที่มาของไอเดียในการพัฒนา “สุขภาพ ปลดล็อค ดับเบิล แคร์” เพื่อให้ผู้บริโภคไม่ต้องกังวลใจกับค่ารักษาเมื่อเจ็บไข้ได้ป่วยแบบไม่ทันตั้งตัว และที่สำคัญไม่ต้องหักจากเงินออมที่เก็บไว้

โดยแบบประกันสุขภาพ ปลดล็อค ดับเบิล แคร์ เป็นผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพเหมาจ่าย ที่ให้สิทธิประโยชน์แก่ลูกค้ามากกว่าเดิม โดยให้ความคุ้มครองสูงสุด 8-60 ล้านบาท โดยมีทั้งหมด 3 แผน ประกอบด้วย แผน 1 วงเงินผลประโยชน์ต่อรอบปีกรรม์ 8 ล้านบาท แผน 2 วงเงินผลประโยชน์ต่อรอบปีกรมธรรม์ 15 ล้านบาท และแผน 3 วงเงินผลประโยชน์ ต่อรอบปีกรมธรรม์ 30 ล้านบาท และหากตรวจพบว่าเป็น 1 ใน 10 โรคร้ายแรงตามที่กำหนดในกรมธรรม์เป็นครั้งแรก วงเงินผลประโยชน์จะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า จาก 8 ล้านบาท เป็น 16 ล้าน จาก 15 ล้านบาท เป็น 30 ล้านบาท และจาก 30 ล้านบาท เป็น 60 ล้านบาท

ยุคชอบอวด “ประกัน” ก็ต้องอวดบ้าง

เมื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพเหมาจ่ายตัวใหม่ออกมาแก้ Pain Point ค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้นแล้ว ความท้าทายต่อไปคือ การดึงความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์ประกันตัวนี้ออกมาสื่อสารให้คนเข้าใจและเห็นความจำเป็นของการมีประกันสุขภาพ? คุณพัชรา จึงโยนโจทย์นี้ให้กับ คุณปภพ เชาวนปรีชา Deputy Executive Creative Director บริษัท Rabbit’s Tale

โดย คุณปภพ เล่าว่า ด้วยความเป็นการทำงานครั้งแรกด้านผลิตภัณฑ์ประกัน การทำงานจึงค่อนข้างยาก และต้องทำการบ้านมากเป็นพิเศษหลังได้รับโจทย์มา โดยเฉพาะการทำความเข้าใจกับเงื่อนไขกรมธรรม์ จากนั้นก็เริ่มหาไอเดีย ด้วยการลงพื้นที่คุยกับผู้บริโภคเพื่อหา Insight จนได้ข้อมูลว่า คนที่ให้ความสำคัญกับค่ารักษาพยาบาลส่วนใหญ่นั้นเป็นคนที่ใส่ใจสุขภาพ ขณะที่คนส่วนใหญ่อาจยังตระหนักรู้ในเรื่องนี้ค่อนข้างน้อย โดยคนส่วนใหญ่ยังให้ความสำคัญกับวัตถุสิ่งของและการท่องเที่ยว เพราะคิดว่าสิ่งเหล่านี้ให้ความสุขกับตัวเองได้ จึงมักนำเงินไปลงทุนกับสิ่งของที่มีมูลค่าเหล่านี้แล้วมาอวดกัน

ดังนั้น ไอเดียแรกที่ปิ้งขึ้นมาตอนนั้น จึงอยากหยิบ “การอวดหรือการรีวิว” มาใช้กับประกันสุขภาพบ้าง เพราะถ้าสามารถนำวงเงินประกันสุขภาพมาอวดได้ น่าจะช่วยให้คนอยากมีวงเงินประกันสุขภาพเพื่อความสบายใจเมื่อเกิดการเจ็บป่วย

“เราได้คุยกับหลายคน เห็นพฤติกรรมของคนในออฟฟิศ มักนำสิ่งของมีมูลค่ามาอวดกันทุกวัน เช่น ซื้อนาฬิกา รองเท้าเท่าไหร่ แม้กระทั่งไปเที่ยวก็อวดที่พัก แต่เรื่องค่ารักษาพยาบาล คนกลับมาให้ความสำคัญกันอีกทีตอนที่ตัวเองหรือคนใกล้ตัวเจ็บป่วย และพอเห็นค่ารักษา ทุกคนก็ตกใจ จาก Insight ที่ได้มา จึงเทิร์นเป็นไอเดียจนได้ออกมาเป็นหนังโฆษณา 3 เรื่องในคอนเซ็ปท์ เรื่องสุขภาพ ต้องห้ามพลาด

สำหรับหนังโฆษณาเรื่องแรก คือ รีวิวนาฬิกา หลายคนมองว่าการซื้อนาฬิกาเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง ซึ่งการซื้อประกันเป็นการลงทุนเช่นกัน เพราะลงทุนเบี้ยประกันเพียงนิดเดียว เมื่อเทียบกับความคุ้มครองค่าใช้จ่ายโรคร้ายแรง ได้สูงกว่าหลายเท่าตัว

ตามด้วย เรื่องรีวิวอสังหาริมทรัพย์ สะท้อนให้เห็นภาพของการรับบริการในโรงพยาบาลที่มีเทคโนโลยีชั้นสูงในการรักษา โดยเฉพาะหากเป็นโรคร้ายแรง ค่าใช้จ่ายในการรักษาก็จะสูงขึ้น ซึ่งถ้าลูกค้ามีแบบประกันดับเบิลแคร์ ก็ไม่ต้องกังวลค่ารักษา

ส่วนหนังเรื่องสุดท้ายคือ รีวิวบัตรเครดิต เป็นการเปรียบเทียบกับวงเงินประกันเหมือนวงเงินบัตรเครดิต ที่ลูกค้าจะได้วงเงินเพิ่มเป็น 2 เท่า เมื่อมีความจำเป็นในการใช้

เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่กว่าเดิม

คุณพัชรา เล่าเสริมกระบวนการทำงานในครั้งนี้ว่า ตอนแรกที่ทีมครีเอทีฟนำไอเดียนี้มาเสนอ ก็รู้สึกชอบ เพราะรูปแบบฉีกไปจากกระบวนท่าเดิมๆ จึงทำให้หลายคนที่เห็นหนังโฆษณาครั้งแรกมักคิดว่าเป็นการรีวิวมากกว่าประกัน และอีกจุดที่น่าสนใจไม่น้อยของหนังโฆษณาชิ้นนี้ คือ การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ที่ชอบดูรีวิวและรักการลงทุน ซึ่งจะจุดประกายให้คนกลุ่มนี้เกิด Awareness เกี่ยวกับประกันสุขภาพ และเปลี่ยนมุมมองการลงทุนจากสิ่งของมาเป็นประกันสุขภาพ ที่ก่อให้ประโยชน์เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในเวลาเจ็บป่วย

“เนื้อหาหนังเข้าใจง่ายและสะท้อนให้เห็นวิถีชีวิตใกล้ตัวเรา หลายๆ ครั้งเรามองออกไปข้างนอก จนลืมมองข้างในว่าถ้าหากเกิดอะไรขึ้นจริงๆ เราพร้อมดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาลแค่ไหน ทำให้เชื่อว่าหนังโฆษณาชิ้นนี้จะช่วยกระตุ้นให้คนเห็นความสำคัญของการมีวงเงินค่ารักษาและหันมาทำประกันสุขภาพมากขึ้น โดยปัจจุบันเราเพิ่งเปิดขายมาไม่ถึง 1 เดือน มีเบี้ยเข้ามาแล้วประมาณ 50-60 ล้านบาท โดยเราตั้งเป้าเบี้ยสุขภาพ ปลดล็อก ดับเบิล แคร์ สิ้นปีนี้ไว้ที่ 450 ล้านบาท”

สามารถรับชมโฆษณาทั้ง 3 ตัวได้ทาง Facebook : Allianz Ayudhya

#AllianzAyudhya #AZAY #อลิอันซ์อยุธยาประกันชีวิต #ประกันชีวิต #เรื่องสุขภาพต้องห้ามพลาด #ดับเบิลแคร์


แชร์ :

You may also like