ปี 2564 เป็นอีกปีที่ไม่ง่ายสำหรับหลายธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพราะนอกเหนือจากต้องเผชิญกับการแข่งขันอย่างดุเดือด และกำลังซื้อลดลงจากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ยังต้องรับมือกับวิกฤตโควิด-19 ที่ยังระบาดไม่หยุด ซึ่งล้วนเป็นบททดสอบที่ท้าทายดีเวลลอปเปอร์ไม่น้อย แต่ “บมจ.เอพี ไทยแลนด์” หรือ AP สามารถสร้างปรากฎการณ์โตสวนกระแส โดยล่าสุดกวาดยอดขายกว่า 35,800 ล้านบาท จาก 120 โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่กระจายทั่วไทย และคาดปิดปี 2564 จะสามารถสร้างยอดโอนได้ 40,000 ล้านบาท
อะไรคือ กลยุทธ์ที่ทำให้เอพี ไทยแลนด์ เติบโตท่ามกลางสภาวะผันผวนได้อย่างแข็งแกร่ง และครองใจผู้บริโภคมานานกว่า 30 ปี Brand Buffet พามาถอดรหัสความสำเร็จนี้ไปพร้อมกัน
ปี 2564 บทพิสูจน์ความแข็งแกร่ง
แม้ตลอดปีที่ผ่านมา ประเทศไทยต้องเผชิญกับภาวะล็อกดาวน์ที่ส่งผลต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ แต่ เอพี ไทยแลนด์ ยังคงสร้างผลการดำเนินงานได้โดดเด่น โดยในปี 2564 มีการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้นจำนวน 24 โครงการ มูลค่าประมาณ 27,550 ล้านบาท โดยเป็นโครงการแนวราบจำนวน 22 โครงการ มูลค่าประมาณ 19,650 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมจำนวน 2 โครงการ มูลค่าประมาณ 7,900 ล้านบาท และเมื่อรวมกับโครงการอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างการขาย ทำให้ปัจจุบันเอพี มีโครงการกระจายอยู่ทั่วประเทศ มากถึง 120 โครงการ มูลค่าพร้อมขายกว่า 196,000 ล้านบาท
โดย ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2564 เอพี ไทยแลนด์สามารถทำยอดขายจากอสังหาริมทรัพย์ในเครือได้มากถึง 35,800 ล้านบาท และคาดว่าปิดปี 2564 จะสามารถสร้างยอดโอนได้เกือบ 40,000 ล้านบาท และที่สำคัญการบริหารจัดการกระแสเงินสด และการรักษาสัดส่วนหนี้สิ้นต่อทุนที่ ณ ไตรมาส 3/2564 ต่ำเพียง 0.56 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2563 ที่ 0.71 เท่า
คุณวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์)
ผลงานดังกล่าวนี้ย่อมแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและเป็นตัวจริงในวงการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งความสำเร็จนี้ไม่มีสูตรลัดและได้มาด้วยความบังเอิญ แต่ คุณวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) บอกว่า ทั้งหมดเกิดจาก Vision องค์กร “EMPOWER LIVING” ซึ่งเป็นเหมือนเข็มทิศในการกำหนดกลยุทธ์การแข่งขัน เพื่อสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจ ควบคู่ไปกับการปรับตัวให้สอดรับกับวิถีชีวิตใหม่ที่เปลี่ยนไปอย่างถาวร ทำให้เอพี ไทยแลนด์สามารถผ่านวิกฤตโควิดมาได้เป็นปีที่ 2
“การเกิดขึ้นของโอมิครอน (Omicron) สะท้อนให้เห็นว่าศึกครั้งนี้ไม่จบในเร็ววัน โรคระบาดต้องอยู่กับเราไปอีกระยะหนึ่ง ควบคู่ไปกับความเปราะบางของระบบเศรษฐกิจที่ขึ้นๆ ลงๆ ส่งผลต่อ Sentiment ของผู้บริโภค การดำเนินธุรกิจในปีหน้ายังคงตั้งอยู่บนความไม่ประมาท เรายังต้องวิ่งมาราธอนที่ยังไม่เจอเส้นชัยไปอีกสักพักใหญ่ ถ้าออกตัวแรงไปเรื่อยๆ ก็จะหมดแรง ถ้าวิ่งช้าก็แพ้คนอื่น หนทางข้างหน้าต้องต่อสู่อีกยาวไกล มีเรื่องใหม่ให้เจอทุกวัน ดังนั้น คีย์สำคัญคือ ต้องตัดสินใจให้ไว เพราะแต่ละวันมีเรื่องใหม่เกิดขึ้นที่ต้องเอาเข้ามาตัดสินใจ” คุณวิทการ ย้ำ
คนหลงบ้าน
การออกแบบบ้านให้ตรงใจการอยู่อาศัยนับเป็นอีกกลยุทธ์สำคัญ เพราะปัจจุบันเทรนด์การใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า HOMEBODY หรือ เทรนด์ติดบ้าน กลายเป็นความคุ้นชินของคนวันนี้ “บ้าน” ในโลกความเป็นอยู่ใหม่ จึงถูกยกระดับให้เป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย แต่ต้องเป็นทุกอย่างให้ทุกคนในครอบครัว ทั้งพื้นที่ทำงาน ห้องเรียนออนไลน์ ฟิตเนส ห้องไลฟ์สด หรือแม้กระทั่งสตูดิโอทำเพลง
จากเทรนด์ติดบ้านที่เกิดขึ้นนี้เอง นำมาสู่การความสำเร็จในการออกแบบสินค้าบ้านเดี่ยวเครือเอพี และส่งผลให้ดีมานด์บ้านเดี่ยวเอพีแรงไม่ตก โดยยอดขายที่เกิดขึ้นกว่า 60% ถือเป็นยอดขายที่มาจากสินค้ากลุ่มบ้านเดี่ยว ด้วย 2 กลยุทธ์สำคัญ 1.โมเดลบ้านที่ดีที่สุด คิดจากอินไซต์จริงเพื่อให้สอดรับกับความต้องการของผู้อาศัย อาทิ แปลนบ้านหน้ากว้าง ที่สามารถเพิ่มมุม Work from Home หรือ เรียนออนไลน์พร้อมรับแสงธรรมชาติ และ 2.นวัตกรรมบ้านที่เข้าใจชีวิต ที่ผสานเทคโนโลยีเข้ากับการออกแบบพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่ส่วนรวมภายในบ้านหนึ่งหลังที่มีรายละเอียดการออกแบบที่ตอบโจทย์ความปลอดภัย ความสะดวกสบาย
WORK FROM ANYWHERE จะไม่ใช่เทรนด์อีกต่อไป
นอกจากนี้ การทำงานจากที่ไหนก็ได้ (Work from Anywhere) อาจไม่ใช่แค่เทรนด์สมัยนิยม แต่จะกลายเป็น Norm ปกติของชีวิตในอนาคต ถึงแม้การระบาดของโควิด-19 จะเริ่มคลี่คลายไปแล้วก็ตาม สะท้อนจากข้อมูลของบริษัท Morgan Stanley ระบุว่าอีก 7 ปีข้างหน้า ครึ่งหนึ่งของแรงงานในสหรัฐฯ จะเป็นฟรีแลนซ์ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดคะเนของปีเตอร์ เลเวลส์ (Pieter Levels) สตาร์ทอัพ โปรแกรมเมอร์ และดีไซเนอร์ชาวดัตช์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ nomadlist.com ที่เปรียบเสมือนเข็มทิศการเดินทางไปทั่วโลกสำหรับชาว Digital Nomad ในปัจจุบัน ที่ระบุว่าภายในปี 2578 จะมีคนทำงานอิสระที่เรียกตัวเองว่า Digital Nomad หนึ่งพันล้านคน จากปี 2562 ที่มีอยู่จำนวน 25 ล้านคน ดังนั้น การออกแบบพื้นที่อย่างชาญฉลาดจะกลายเป็นจุดขายใหม่ที่ดึงดูด Next Generation ได้อย่างดีที่สุด ทั้งเรื่องการทำงาน และด้านชีวิตส่วนตัว
ซึ่งจากการเปิดตัว LIFE พระราม 4-อโศก คอนโดมิเนียมดีไซน์ใหม่ ที่ผสานแนวคิดการออกแบบสเปซในชีวิตวิถีใหม่ ให้เข้ากับชีวิตการอยู่อาศัยที่เป็นส่วนตัว ด้วยจุดต่างของโครงการที่มีครบหมดไม่ต้องเลือกกับ CHOOSE LIFE CHOOSE EVERYTHING โดยเฉพาะพื้นที่ส่วนกลาง 5 ชั้น กว่า 8,635 ตารางเมตร หรือ 5.39 ไร่ ที่ได้รับการออกแบบให้เป็นสวรรค์ของคนเมืองรุ่นใหม่ รองรับไลฟ์สไตล์ในทุกรูปแบบจะ WORK – PLAY – CHILL – PEACE ไม่ต้องเลือกเพราะได้หมดในที่เดียว หรือทาวน์โฮมแบรนด์ บ้านกลางเมือง หรือพลีโน่ ที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบทั้งภายในและภายนอก ภายใต้คอนเซ็ปต์ “พลิกแนวคิดชีวิตแนวตั้ง” โดดเด่นด้วย 3 จุดขาย คือ 1. พลิกมิติเปิดมุมมองที่กว้างขึ้น ด้วยบ้านหน้ากว้างที่กว้างสุดถึง 11.5 เมตร 2. พลิกฟังก์ชั่นใหม่ เพื่อรองรับการ Work from Home ได้อย่างไร้ขีดจำกัด และ 3. พลิกประสบการณ์อิสระการอยู่อาศัย ด้วยการจัดวางตัวบ้านในมิติใหม่ที่ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวเหมือนอาศัยอยู่บ้านเดี่ยว ซึ่งต่างได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่ม Next Generation ที่มองหารูปแบบการใช้ชีวิตในวิถีใหม่
สร้างนวัตกรรมบริการที่เข้าถึงและใช้งานได้จริง
งานบริการหลังการขาย เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่สร้างความสำเร็จให้เอพี ไทยแลนด์ครองใจผู้บริโภคมายาวนาน ด้วยการยึด Everything Digital เป็นหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจ โดยนำเทคโนโลยีมาเป็นหนึ่งในกลไกขับเคลื่อน เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่สะดวกสบายเข้าถึงสินค้าและการอยู่อาศัยในเอพี คอมมูนิตี้ผ่านระบบดิจิทัลมากยิ่งขึ้น ซึ่งจากข้อมูลในปี 2564 พบว่า ลูกค้าคอนโดเอพีกว่า 85% สอบถามข้อมูลหรือนัดหมายเยี่ยมชมโครงการผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างๆ ของเอพีเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะ ONE CLICK NEW HOME โซลูชั่นใหม่กับการซื้ออสังหาริมทรัพย์เครือเอพี ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อส่งตรงประสบการณ์เสมือนเดินทางไปยังชมโครงการจริง ทั้งพื้นที่ส่วนกลาง ห้องจริง วิวจริง พร้อมบรรยากาศกลางวันและกลางคืน ด้วยความละเอียดสูงสุดแบบ 360°
จึงถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการนำเสนอสินค้าผ่านประสบการณ์โลกดิจิทัลเสมือนจริง และช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้โดยไม่ต้องเดินทางออกจากบ้าน รวมถึงงานบริการหลังการขายผ่าน SMART พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ในเครือเอพี ประสบความสำเร็จกับการเปิดตัว SMART WORLD ชีวิตที่เลือกได้ ซึ่งเป็นดิจิทัล เซอร์วิส แพลตฟอร์ม บริหารคุณภาพชีวิตหลังการอยู่อาศัยที่เอพีพัฒนาให้เป็นแอปพิลเคชันเดียวที่เอ็มพาวเวอร์ให้การใช้ชีวิตในบ้าน เป็นเรื่องง่าย ที่เลือกได้ตามไลฟ์สไตล์ของลูกค้าแต่ละคน ด้วยชีวิตที่เลือกกับ 24 ฟังก์ชั่นกว่า 100 บริการ ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นโดยผสมผสานวิธีคิดภายใต้หลัก Design Thinking เข้ากับการเลือกใช้เทคโนโลยีที่เสถียรและเข้าถึงได้ทุก Generation ปัจจุบัน SMART WORLD มีผู้ใช้บริการแล้วกว่า 80,000 ยูสเซอร์ มียอด Active User เฉลี่ย 48,000 ยูสเซอร์ต่อเดือน
เอ็มพาวเวอร์สังคม เพื่อกลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง
ไม่เพียงแต่การขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโต ในด้านสังคม เอพี ไทยแลนด์ ยังให้ความช่วยเหลือสังคมมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการผุดแคมเปญ SAVE หมอ SAVE ประเทศไทยเมื่อปี 2563 สู่ปี 2564 กับแคมเปญ SAVE LIVES, PROTECT PEOPLE – เอพี เซฟชีวิต เซฟสังคม เพื่อเติมพลังและจุดประกายสังคมไทยก้าวผ่านโควิดไปด้วยกัน โดยมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ว่าวิกฤตินี้เอพีจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง กับหลากหลายภารกิจลงพื้นที่ เพื่อหยิบยื่นความช่วยเหลือให้กับกลุ่มคนที่อาจยังถูกมองข้าม อย่างเช่น การเข้าไปช่วยดูแลกลุ่มพระสงฆ์จำนวนเกือบ 1,000 รูป ใน 10 พื้นที่เสี่ยง พร้อมสนับสนุน SMEs ไทยด้วยการรับซื้ออาหารสด ผัก ผลไม้ ไข่ไก่ และเนื้อสัตว์ในรูปแบบผูกปิ่นโตจัดส่งแก่โรงครัวทางวัด
ตลอดจนการร่วมเซฟชีวิตผู้ป่วยโควิด-19 ด้วยการส่งมอบเครื่องผลิตออกซิเจนด้วยอัตราการไหลสูง (High Flow Oxygen Therapy) กับโรงพยาบาลรัฐในพื้นที่สีแดงเข้ม หรือการเข้าดูแลกลุ่มพี่น้องแรงงานกว่า 10,000 ชีวิต ในช่วงที่ต้องเผชิญกับการล็อกแคมป์ก่อสร้าง ด้วยการจัดส่งข้าวสาร ไข่ไก่ อาหารแห้ง เครื่องปรุงรสต่างๆ พร้อมน้ำดื่มสะอาดให้กลุ่มพี่น้องแรงงานและครอบครัวที่อยู่ในแคมป์สามารถนำไปประกอบอาหาร ตลอดจนช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของค่าน้ำ-ค่าไฟ ตลอดระยะเวลาปิดแคมป์คนงาน เป็นต้น
ภูมิใจได้ แต่ห้ามนิ่งนอนใจกับการเป็นที่ 1
บ่อยครั้งที่ได้ยิน CEO เอพี ไทยแลนด์ คุณอนุพงษ์ อัศวโภคิน มักพูดเสมอว่า “ดีใจ ภูมิใจในการเป็น ที่ 1 ได้ แต่เรานิ่งนอนใจกับการเป็นที่ 1 ไม่ได้” ต้องไม่หยุดพัฒนาและพร้อมที่จะตั้งรับกับกติกาโลกที่เปลี่ยนไปอยู่ตลอดเวลา เพราะเมื่อไหร่ที่เราหยุด เท่ากับเรากำลังถอยหลังไป 1 ก้าวแล้ว ทุกสิ่งเปลี่ยนหมด ถ้าเอพีไม่ทำงานแบบ Go Beyond ก็จะไม่สามารถหา Next Norm ที่จะเป็นความได้เปรียบทางธุรกิจได้เลย
เมื่อ Passion ผสมรวมกับประสบการณ์ความเก๋าเกมส์ที่ผ่านมาแล้วหลายวิกฤต แม่ทัพใหญ่จึงพาเรือเอพี ไทยแลนด์ก้าวผ่านมาได้ครั้งนี้มาได้อย่างสวยงาม พร้อมกวาดรางวัลมากมาย เช่น Hall of Fame Award แบรนด์อสังหาริมทรัพย์ที่คนไทยเชื่อถือที่สุด ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 รางวัล Thailand’s Most Admired Company ด้านบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่คนไทยเชื่อถือที่สุด จากทีมวิจัย BrandAge สื่อการตลาดชั้นนำของไทย หรือรางวัล 2021 Thailand Real Estate Personality of the Year Award รางวัลที่มอบให้บุคคลแห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ประจำปี ซึ่งพิจารณาจากความเคลื่อนไหว ผลงาน ความสำเร็จ ที่เกิดขึ้นภายใต้การขับเคลื่อนของ CEO ตลอดจนการสนับสนุนช่วยเหลือหน่วยงานต่างๆ ในสถานการณ์แพร่ระบาดในช่วงปีที่ผ่านมา
ทั้งหมดนี้คือความสำเร็จที่เกิดขึ้นของ “เอพี ไทยแลนด์” ไม่ว่าจะเป็นความพร้อมและโครงสร้างองค์กร ที่พร้อมรับกับการปรับตัวที่รวดเร็วได้อย่างยืดหยุ่น ทำให้แม้คลื่นวิกฤตจะกระทบอีกสักกี่ครั้ง องค์กรก็ยังฟันฝ่าไปได้เสมอเช่นเดียวกับในปี 2564 ที่ผ่านมา อีกทั้งยังเป็นแนวทางและสัญญานที่ดีในการดำเนินธุรกิจในฐานะหนึ่งในผู้นำตลาดที่ส่งมอบสินค้าและบริการที่มีคุณภาพให้ลูกค้าต่อไปในปี 2565 อีกด้วย