HomeSponsoredAlibaba รุดหน้าคู่แข่ง ยกระดับมหกรรมช้อปปิ้ง 11.11 ให้ “ยั่งยืน” และให้คนทุกกลุ่มเข้ามามีส่วนร่วม

Alibaba รุดหน้าคู่แข่ง ยกระดับมหกรรมช้อปปิ้ง 11.11 ให้ “ยั่งยืน” และให้คนทุกกลุ่มเข้ามามีส่วนร่วม

แชร์ :

มหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก 11.11 ของอาลีบาบา พัฒนามาอย่างต่อเนื่องทุกปี จากครั้งแรกที่จัดขึ้นในปี 2009 ที่มีเพียง 27 แบรนด์เข้าร่วมบน Tmall จนมาถึงปัจจุบันที่กลายเป็นมหกรรมช้อปปิ้งสุดยิ่งใหญ่ ที่มีผู้บริโภคทั้งในจีนและจากทั่วโลกเข้าร่วมหลายร้อยล้านคน

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ก่อนหน้านี้มหกรรมช้อปปิ้งยักษ์ใหญ่ 11.11 ของอาลีบาบา มักถูกจับตาในเรื่องของยอดขาย GMV (Gross Merchandise Value) ว่าจะทุบสถิติของปีก่อนหน้าได้หรือไม่ แต่ในปีนี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการตลาด อาลีบาบา กรุ๊ป อย่างคริส ต่ง ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เทศกาล 11.11 จะให้ความสำคัญกับประเด็นความยั่งยืน และการให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วม (Inclusiveness) มากกว่า เพื่อสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของบริษัทที่ต้องการผลักดันสองเรื่องดังกล่าวในสังคม

คริสอธิบายว่า การเปลี่ยนโฟกัสของการจัดงาน 11.11 ก็เปรียบเหมือนการเลี้ยงลูกของพ่อแม่ ที่ในวัยเด็กจะให้ความสำคัญกับการสร้างพัฒนาการเพื่อให้เติบโตและแข็งแรง แต่เมื่อก้าวเข้าสู่วัยรุ่น พ่อแม่ก็จะสอนเรื่องการเป็นคนดีและทำประโยชน์ให้สังคม เพื่อให้เป็นผู้ใหญ่ที่ดี เช่นเดียวกัน อาลีบาบาต้องการให้มหกรรม 11.11 พัฒนาไปเป็นงานที่สร้างคุณค่าให้กับชุมชนและสังคมโดยรวมด้วยในอนาคต

คริส ต่ง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด อาลีบาบา กรุ๊ป

มหกรรมช้อปปิ้งเปลี่ยนรับพฤติกรรมผู้บริโภคจีน

จากความเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมผู้บริโภคจีน ทำให้แนวคิดเรื่องความยั่งยืนที่จะเกิดขึ้นในมหกรรมช้อปปิ้งปีนี้ มีตั้งแต่การดึงแบรนด์สินค้าประหยัดพลังงาน และแบรนด์ที่มีกระบวนการผลิตที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเข้ามาร่วมโปรโมตบน Tmall รวมถึงมีการแจกคูปองสีเขียวมูลค่ารวม 500 ล้านบาทให้กับลูกค้า เพื่อนำไปใช้จ่ายกับสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นอกจากนั้น ยังมีแนวคิดที่สนับสนุนการลดปริมาณขยะด้วย โดยอาลีบาบาได้ร่วมมือกับแบรนด์ในมหกรรมครั้งนี้ ในการหันมาใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่สามารถรีไซเคิลได้ เพื่อลด Carbon Footprint กันอย่างเต็มที่

ส่วน ไช่เหนียว เน็ตเวิร์ค บริษัทโลจิสติกส์ของอาลีบาบา ได้เปิดตัวจุดรับรีไซเคิลกล่องบรรจุภัณฑ์มากถึง 60,000 จุด ภายในศูนย์บริการของไช่เหนียว 10,000 แห่ง ใน 20 เมืองทั่วจีน เพื่อให้ผู้ซื้อสินค้าในมหกรรม 11.11 สามารถนำกล่องพัสดุมารีไซเคิลได้

“อาลีบาบาต้องการใช้ชื่อเสียงและความนิยมของมหกรรม 11.11 มาผลักดันการสร้างไลฟ์สไตล์ที่ยั่งยืนให้กับผู้บริโภค ที่เป็นเป้าหมายสำคัญของเรา นอกเหนือจากการสร้างยอดขายภายในงาน” คริส กล่าว

ทุบสถิติแบรนด์เข้าร่วม 2.9 แสนราย

อีกหนึ่งความพิเศษในปีนี้ก็คือ มีแบรนด์ต่าง ๆ เข้าร่วมในมหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก 11.11 สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 290,000 ราย จากทั่วโลก

ปัจจัยที่ทำให้แบรนด์ให้ความสนใจกับมหกรรม 11.11 เพิ่มขึ้นนั้น อนิต้า อู๋ ผู้จัดการทั่วไปของ Tmall Global เผยว่า เป็นเพราะการระบาดของโควิด-19 ทำให้นักช้อปจีนไม่สามารถเดินทางออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศได้ ผู้บริโภคจึงหันมาซื้อสินค้าแบรนด์อินเตอร์ผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ขายสินค้านำเข้า อย่างเช่น Tmall Global

“ที่ผ่านมา เราพบว่าผู้บริโภคจีนซื้อสินค้าต่างประเทศเฉพาะเมื่อเดินทางไปเที่ยวเมืองนอกเท่านั้น แต่หลังจากการระบาดของโควิด-19 กำลังซื้อเหล่านี้ได้ย้ายมาที่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซข้ามแดน ซึ่งเราเชื่อว่าเทรนด์นี้จะยังคงอยู่แม้การระบาดของโควิดจะหมดไป เพราะผู้บริโภคจีนเริ่มเคยชินแล้ว”

อนิต้ายังได้เผยข้อมูลการนำเข้าสินค้าของจีนในช่วงห้าเดือนแรกของปี 2021 ว่ามีมูลค่าถึง 6.7 ล้านล้านหยวน หรือเพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับปี 2020 ที่ผ่านมา จึงเห็นได้ว่าความต้องการซื้อสินค้าแบรนด์ต่างประเทศที่มีคุณภาพ ยังมีอยู่อย่างมหาศาล

นอกจากนี้ แบรนด์ที่ได้รับความนิยม ก็ไม่จำกัดเฉพาะแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักในวงกว้างเท่านั้น แต่สินค้ากลุ่ม Niche ก็มียอดขายที่เติบโตขึ้นด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น แบรนด์ผู้ผลิตแชมพูสำหรับเด็กรายหนึ่งบน Tmall Global ประสบความสำเร็จในการทำตลาดแชมพูเด็กแบบไม่ต้องล้างออกไปยังกลุ่มคุณแม่ชาวจีน จนมียอดขายเติบโตขึ้นถึง 300% (YoY) ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้

อนิต้า อู๋ ผู้จัดการทั่วไปของ Tmall Global

อนิต้า กล่าวเสริมว่า Tmall Global มีศักยภาพในการตอบโจทย์แบรนด์ต่างประเทศที่ต้องการเข้ามาในตลาดจีน เพราะบริษัทมีคลังสินค้าอยู่ทั่วโลก รวมถึงคลังสินค้าที่ได้รับอนุญาตจากศุลกากรในจีน ซึ่งมีพื้นที่ถึง 20,000 ตารางเมตร ทำให้การดำเนินพิธีการทางศุลกากรมีประสิทธิภาพ และยังมีความพร้อมด้านการกระจายสินค้า ตั้งแต่การจัดการซัพพลายเชนและโลจิสติกส์ของสินค้านำเข้า ไปจนถึงการส่งให้ถึงมือผู้รับในจีน จึงสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับผู้บริโภค

โมเดลธุรกิจของ Tmall Global ยังแตกต่างและปรับแต่งได้ตามความต้องการที่หลากหลายของแบรนด์และผู้ค้าปลีกที่ต้องการเข้ามาในตลาดจีน ซึ่งสามารถเลือกบริหารจัดการร้านแฟลกชิปบนแพลตฟอร์มเองได้ หรือหากไม่ต้องการดูแลเอง ทาง Tmal Global ก็มีโซลูชั่นที่ครบวงจรในการช่วยจัดการร้านค้าบนแพลตฟอร์มคอยให้บริการ

เพื่อยกระดับบริการบนแพลตฟอร์ม ทาง Tmall Global ยังเพิ่มส่วนรีวิวสินค้าโดยผู้บริโภคที่เป็นผู้นำทางความคิด (Key Opinion Consumer) เพื่อช่วยให้ผู้ซื้อชาวจีนได้รู้จักสินค้าใหม่ๆ จากต่างแดน ผ่านวิดีโอสั้นที่อยู่ในหัวข้อ “New Discoveries”

 “เพิ่มดีลส่วนลด – แชร์ตะกร้าสินค้า” สร้างแรงบันดาลใจให้นักช้อป

เพื่อให้งานปีนี้มีสีสันมากขึ้น ทางอาลีบาบาได้เพิ่มการจัดงานเป็น 2 ช่วงเหมือนในปีที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มความสนุกในการช้อปปิ้งให้กับผู้บริโภค รวมถึงมีการเปิดช่วงพรีเซลล์สินค้าก่อนเริ่มขายจริง 4 ชั่วโมง คือตั้งแต่ 20.00 น. ตามเวลาจีน ซึ่งเร็วกว่าทุกปีที่จะเริ่มตอนเที่ยงคืน เพื่อให้ลูกค้าไม่ต้องรอจนดึก

อาลีบาบายังมีการเพิ่มฟีเจอร์แชร์ตะกร้าสินค้า ให้เพื่อนและครอบครัวผ่านทางโซเชียลมีเดียได้ด้วย เพื่อเพิ่มแรงบันดาลใจในการเลือกช้อปสินค้าได้มากขึ้น

เปิด “Senior Mode” สำหรับผู้สูงอายุ

การมีส่วนร่วมกับผู้ใช้ทุกกลุ่ม เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจในมหกรรมช้อปปิ้ง 11.11 ปีนี้ โดยอาลีบาบาเผยว่า ทางทีมเถาเป่ามีการพัฒนา “Senior Mode” หรือโหมดสำหรับผู้สูงอายุ ที่ปรับแต่งฟอนต์ตัวหนังสือให้ใหญ่ขึ้น รวมถึงมีเทคโนโลยี Voice-Assisted เป็นตัวช่วยในการช้อปปิ้ง เพื่อให้การเลือกดูสินค้าสำหรับผู้สูงอายุทำได้ง่ายขึ้น ในขณะที่หน้าโฮมเพจของแอปยังมีเกมให้ผู้สูงอายุสามารถเล่นเพื่อปลดล็อคส่วนลดพิเศษสำหรับซื้อของใช้ด้วย

ไม่เฉพาะการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่และการปรับระบบหลังบ้านอย่างต่อเนื่อง แต่อาลีบาบายังเพิ่มโครงการเพื่อสังคมในมหกรรมช้อปปิ้ง 11.11 ด้วย อย่างโครงการ “สินค้าเพื่อสังคม” หรือ Goods for Good ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2006 เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อก็สามารถช่วยสนับสนุนองค์กรการกุศลที่ชื่นชอบผ่านการซื้อสินค้าจากร้านค้าที่สนับสนุนองค์กรเหล่านั้น และในช่วงงาน 11.11 อาลีบาบายังสนับสนุนให้ผู้บริโภคแชร์การซื้อสินค้าเพื่อสังคมไปยังโซเชียลมีเดีย โดยอาลีบาบาจะบริจาคเงิน 1 หยวนให้กับองค์กรการกุศล ทุกๆ ครั้งที่มีการแชร์สินค้า Goods for Good

ปัจจุบัน โครงการดังกล่าวได้ช่วยเหลือองค์กรการกุศลต่าง ๆ แล้วมากกว่า 3 ล้านครั้ง ทั้งการสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ และติดตั้งระบบกรองน้ำให้โรงเรียนในชนบท 200 แห่ง รวมถึงเลี้ยงอาหารกลางวันผู้สูงอายุในจีนที่อยู่โดดเดี่ยว 500,000 มื้อ

ทั้งหมดนี้ ทำให้เห็นได้ว่า นอกจากตัวเลข GMV ที่หลายคนจับตามาตลอด 13 ปีของมหกรรม 11.11 แล้ว ยังมีการพัฒนาในมิติอื่น ๆ ร่วมด้วยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งธีมความยั่งยืน – การให้คนทุกกลุ่มมีส่วนร่วมได้ของอาลีบาบาในปีนี้ อาจเป็นจุดเริ่มต้นสู่ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นกับมหกรรมช้อปปิ้ง 11.11 ในอนาคต


แชร์ :

You may also like