บิ๊กธุรกิจเครือ CP ของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ ประกาศเข้าสู่ธุรกิจ “กัญชง” อีกราย ร่วมมือ ม.แม่โจ้ วิจัยกัญชง ต่อยอดอาหารสุขภาพสู่ครัวโลก
วันนี้ (16 มีนาคม) เครือ CP-CPF และ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้ลงนามความร่วมมือทางวิชาการและความร่วมมือพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารจากพืชกัญชง ด้วยการวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ เพื่อให้ได้มาซึ่งสารสกัดกัญชง ที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพผู้บริโภคและนำมาเป็นส่วนประกอบของอาหารที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ถึงต้นทาง ทั้งสายพันธุ์ แหล่งเพาะปลูก และวิธีการปลูก ตอบโจทย์อาหารปลอดภัยสู่ “ครัวของโลก” โดยจะทำการวิจัยระบบมาตรฐานในการเพาะปลูก รวมถึงแนวทางการบริหารจัดการตลอดซัพพลายเชน
รศ.ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดี ม.แม่โจ้ ระบุว่า ความร่วมมือวิจัยพัฒนาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ จะเกิดประโยชน์ในวงการการศึกษาของไทย ด้วยความชำนาญของทั้ง ม.แม่โจ้ และความพร้อมของเครือ CP-CPF ที่มีหน่วยงานด้านพืชครบวงจรเข้ามาร่วมกันพัฒนา ขณะเดียวกันก็มีหน่วยงาน RD Center ของ CPF ซึ่งมีความพร้อมในการวิจัยพัฒนาอาหาร ช่วยต่อยอดห่วงโซ่ให้ครบถ้วน เป็นส่วนสำคัญในการรองรับผลผลิตของเกษตรกรด้วย
“ม.แม่โจ้ ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับกัญชงและกัญชา มาตั้งแต่ปี 2554 มีความเชี่ยวชาญในการปลูกด้วยวิธีอินทรีย์ ปัจจุบันงานวิจัยพัฒนาพืชกัญชงและกัญชากำลังเป็นที่สนใจอย่างมาก ความร่วมมือกับซีพี มั่นใจว่าเราจะค้นพบสายพันธุ์ที่ดี มีเทคนิควิธีการปลูกที่ดี และใช้ประโยชน์จากพืชกัญชงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนตอบสนองการผลิตในอุตสาหกรรมอาหารได้อย่างเพียงพอ สร้างประโยชน์ต่อเกษตรกร ต่อผู้บริโภค และต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ” รศ.ดร.วีระพล กล่าว
ด้าน คุณประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ซีอีโอ CPF กล่าวว่า RD Center ของ CPF จะสร้างสรรค์นวัตกรรมอาหารที่เติมสารสำคัญจากพืชกัญชง ที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ถึงสายพันธุ์และแหล่งเพาะปลูก เพื่อตอบโจทย์สุขภาพและความปลอดภัยสูงสุดของผู้บริโภค
“การวิจัยพัฒนาพืชกัญชงเป็นเรื่องท้าทาย ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมายและปลอดภัยต่อผู้บริโภค เมื่อได้ร่วมมือกับ ม.แม่โจ้ ซึ่งมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ เชื่อว่าจะสามารถผลิตพืชกัญชงคุณภาพ ในปริมาณที่มากพอสำหรับการผลิตอาหารของ CPF โดยอาหารสำเร็จรูปที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากกัญชงซึ่งเป็นสารที่ดีต่อสุขภาพจะออกสู่ตลาดได้ภายในปีนี้ ขึ้นอยู่กับการประกาศของภาครัฐ”
ทั้งนี้ พืชกัญชง เป็นพืชที่มีคุณค่าของสารสำคัญมากมาย อาทิ CBD ที่งานวิจัยในต่างประเทศพบว่า มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายด้าน ทั้งระบบประสาทและสมอง ระบบหัวใจ นอกจากนี้ ยังมีสารกลุ่มเทอร์ปีนที่ช่วยผ่อนคลาย และสารกลุ่มฟลาโวนอยด์ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ส่วนเมล็ดของพืชกัญชง มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก เป็นแหล่งโปรตีนที่มีกรดอะมิโนจำเป็นต่อร่างกายครบถ้วน รวมถึง มีไขมันโอเมก้า 3,6,9 ซึ่งดีต่อร่างกาย นอกจากนี้ กากเมล็ดกัญชงยังนำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์ได้อีกด้วย
ความร่วมมือในการวิจัยพัฒนากัญชงอย่างครบวงจรตั้งแต่สายพันธุ์ การเพาะปลูก ไปจนถึงการแปรรูปเป็นอาหารนี้ จะสร้างประโยชน์ให้เกษตรกรมีสายพันธุ์และเทคนิควิธีดูแลพืชอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการในวิถีอินทรีย์ และนำไปพัฒนาต่อยอดเป็นอาหารสำเร็จรูป จะเกิดประโยชน์ต่อห่วงโซ่การผลิตทั้งระบบเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารของประเทศ ตอบโจทย์อาหารสุขภาพ ตอกย้ำวิสัยทัศน์ “ครัวของโลก” ของซีพี