เมืองไทยประกันภัย จับมือ Harvard Graduate School of Design และศิษย์เก่า Harvard GSD ในประเทศไทย สำรวจและวิจัยพื้นที่ชุมชนคลองเตย ในโครงการ “คลองเตยดีดี” มุ่งปูทางสู่การพัฒนาพื้นที่อยู่อาศัยแห่งอนาคตเพื่อความเท่าเทียมและความมั่นคง พร้อมตั้งเป้าหมายเป็นโมเดลเพื่อขยายสู่การพัฒนาชุมชนอื่นทั่วประเทศ
นางนวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) และ ประธานสโมสรฟุตบอลการท่าเรือ เอฟ.ซี. กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า เมืองไทยประกันภัย เป็นบริษัทประกันวินาศภัยที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสนับสนุนกิจกรรมด้านการกีฬา ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต เพราะหัวใจสำคัญของธุรกิจประกันภัยคือการเยียวยาประชาชน เมื่อเกิดภัยไม่คาดฝัน รวมถึงผลักดันให้คนในสังคมมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งนี้จากการที่เมืองไทยประกันภัยเป็นผู้สนับสนุนหลักของสโมสรฟุตบอลการท่าเรือ เอฟ.ซี. ซึ่งมีพื้นที่ตั้งของสนามอยู่ใจกลางชุมชนคลองเตย ทำให้ได้มีโอกาสใกล้ชิดกับคนคลองเตย และมีความรู้สึกว่า ชุมชนคลองเตย สโมสรฯ และ บริษัท เมืองไทยประกันภัย เสมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน การพัฒนาพื้นที่คลองเตยจึงเป็นอีกหนึ่งพันธกิจที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ที่ผ่านมาเมืองไทยประกันภัย จึงมีกิจกรรมที่ทำร่วมกับคนคลองเตยอย่างต่อเนื่อง และเป็นที่มาของโครงการ คลองเตยดีดี
สำหรับการร่วมมือกับ Harvard Graduate School of Design ในครั้งนี้ เป็นโครงการที่มุ่งเน้นตอบโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัย การสร้างความรู้สึกร่วมของคนในพื้นที่ให้ช่วยดูแลรักษาบ้านของตัวเอง เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของคนคลองเตยให้มีคุณภาพอย่างยั่งยืน
“นับเป็นโอกาสดีที่ เมืองไทยประกันภัย ได้ร่วมงานกับสถาบันการออกแบบระดับโลก Harvard Graduate School of Design และ ศาสตราจารย์ Anita Berrizbeitia MLA’ 87 หัวหน้าและแผนกภูมิสถาปัตยกรรม รวมถึงเป็นอาจารย์ของสาขาการวางแผนเมือง การออกแบบแผนเมือง และสถาปัตยกรรม เพื่อที่จะเข้ามาสำรวจ และวิจัยความต้องการในชุมชน ภายใต้แนวคิด The New Landscapes of Equity and Prosperity การพัฒนาพื้นที่อยู่อาศัยแห่งอนาคตเพื่อความเท่าเทียมและความมั่นคง โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เป็นชุมชนที่ทุกคนสามารถอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน
“คลองเตยดีดี จึงเป็นการรวมพลังในแบบ East Meets West โดยใช้ความรู้และนวัตกรรมของ Harvard Graduate School of Design ผสมผสานกับความรู้และประสบการณ์ในพื้นที่ของคนคลองเตย รวมถึงความตั้งใจจริงของบริษัทเมืองไทยประกันภัย เพื่อวางแผนพัฒนาชุมชนคลองเตย ซึ่งเปรียบได้กับบ้านของชาวเมืองไทยประกันภัย และแฟนฟุตบอลสโมสรการท่าเรือด้วย” นางนวลพรรณ กล่าว

ด้าน Harvard Graduate School of Design นำโดยคณบดี Sarah M. Whiting ทั้งนี้ความร่วมมือดังกล่าวมีกำหนดระยะเวลา 3 ปี โดย Harvard GSD จะส่งคณาจารย์และนักศึกษามาจัดตั้งสตูดิโอออกแบบในกรุงเทพมหานคร หัวข้อในการวิจัยมีตั้งแต่เรื่องโครงสร้างพื้นฐาน บ้านเรือน สิ่งก่อสร้างเชิงธุรกิจ โครงสร้างเชิงระบบนิเวศน์ ภูมิทัศน์ รวมถึงพื้นที่สาธารณะรูปแบบอื่น ๆ ในเขตคลองเตย
สำหรับรูปแบบการทำวิจัยจะอ้างอิงจากโมเดลสตูดิโอการทำวิจัยในโครงการอื่นๆ ที่ Harvard GSD เคยทำมาแล้ว โดยสตูดิโอจะประกอบด้วยอาจารย์หนึ่งคนหรือมากกว่านั้น นักศึกษาปริญญาโทประมาณ 12 คน และในโอกาสพิเศษครั้งนี้ยังได้รับความร่วมมือจากศิษย์เก่า Harvard GSD ในประเทศไทยที่มีความชำนาญด้านภูมิสถาปัตย์ ผังเมือง รวมถึงบริบทของพื้นที่ จะเข้าร่วมโครงการนี้ด้วย
#คลองเตยดีดี หลายคนคงถามว่า แป้งกำลังทำอะไรอยู่? … แป้งทำทีมฟุตบอลการท่าเรือมา 5 ปีแล้ว และเป็น 5 ปีที่ได้เรียนรู้ว่า "ฟุตบอลท่าเรือ" ถือเป็นศูนย์กลางการรวมใจที่สำคัญสิ่งหนึ่งของคนคลองเตย แป้งรับรู้ได้ถึงหัวใจของคนในคลองเตยที่มอบให้แป้ง จึงอยากที่จะสัมผัสคลองเตยให้มากขึ้นด้วยตัวเอง….แป้งและทีมเมืองไทยประกันภ้ย เราได้มีโอกาสพบกับผู้นำชุมชน รวม 49 ชุมชน ได้รับทราบปัญหาทั้งทางด้านกายภาพ เช่น หลักๆ คือเรื่องขยะ แสงสว่างในชุมชน ไฟไหม้ เป็นต้น ส่วนปัญหาทางสังคมศาสตร์ ก็จะเป็นเรื่องความไม่มั่นคงในที่อยู่อาศัย ความรุนแรงที่เกิดกับผู้หญิง เรื่องท้องไม่พร้อม และยาเสพติด เป็นต้น.แป้งทราบว่า มีหลายภาคส่วนไม่ว่าภาครัฐ หรือเอกชน หรือหลายมูลนิธิที่ลงมาช่วยคลองเตย แต่สิ่งที่แป้งจะเริ่มนับหนึ่งทำในวันนี้ แป้งและเมืองไทยประกันภัย ได้จับมือกับ Harvard Graduate School of Design ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงด้านการออกแบบระดับโลก มาร่วมสำรวจและวิจัยความต้องการในชุมชน เพื่อออกแบบพื้นที่อยู่อาศัยแห่งโอกาสและความมั่นคงในอนาคต .โดยหลังจากนี้ ทาง Harvard จะส่งอาจารย์และนักศึกษากลุ่มหนึ่ง มาจัดตั้ง สตูดิโอออกแบบใน กรุงเทพฯ ทำการวิจัย เรื่องโครงสร้างพื้นฐาน บ้านเรือน สิ่งก่อสร้างเชิงธุรกิจ โครงสร้างเชิงระบบนิเวศน์ ภูมิทัศน์ รวมถึงพื้นที่สาธารณะในเขตคลองเตย โดยมีกำหนดเวลา 3 ปี หลังจากนั้นจะส่งมอบผลการวิจัยให้กับแป้ง และเมืองไทยประกันภัย ทางเราจะส่งต่อให้กับรัฐบาล และหวังว่า โมเดลคลองเตย อาจจะถูกหยิบยก เพื่อขยายผลการศึกษาด้านการพัฒนาพื้นที่อื่นๆต่อไป ถือเป็นการพัฒนาแบบ east meets west ผสมภูมิปัญญาด้านตะวันออกและตะวันตกอย่างแท้จริง.ส่วนทางแป้งและเมืองไทยประกันภัย เราได้มีการตั้งโครงการอาสากล้าใหม่ มาตั้งแต่ ปี 2556 โดยการมอบเงินให้พนักงานใหม่ของบริษัทฯ รุ่นละ 10,000 บาท เพื่อที่จะให้อาสากล้าใหม่ทำกิจกรรมเพื่อตอบแทนสังคม โดยแล้วแต่จะคิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิ่งแวดล้อม ปลูกป่าชายเลน ทำความสะอาดชุมชน จัดกลุ่มนั่งสมาธิ โครงการเด็กด้อยโอกาส การดูแลสัตว์สงวน และต่างๆ แล้วแต่ที่แต่ละรุ่นจะคิด ขณะนี้เรามี อาสากล้าใหม่ 56 รุ่นภายใน 7 ปี ถือเป็นความภูมิใจของเรา เพราะเราเชื่อว่า ธุรกิจประกันภัย.. เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเยียวยาผู้คนเวลาเกิดภัย พวกเราจึงรู้สึกภาคูมิใจกับอาชีพของเรามาก และ คิดเสมอว่า…. กำไรทางธุรกิจก็เป็นเรื่องหนึ่ง ส่วนกำไรทางใจ!! ก็เป็นเรื่องที่สำคัญมากเช่นกัน .ขณะนี้ทีมอาสากล้าใหม่ก็จะเริ่มลงกิจกรรมในคลองเตยด้วย การนับหนึ่งของแป้งและทีมงานในวันนี้ หลายคนอาจจะมองเป็นการยาก ที่จะทำให้นามธรรมกลายเป็นรูปธรรม แต่แป้งเชื่อว่า บางครั้งโมเลกุลเล็กๆ ก็อาจจะสามารถขยับขุนเขาใหญ่ได้ งานนี้เป็นงานที่หนัก อาจต้องใช้เวลานาน และไม่สามารถเดินไปเพียงคนเดียวได้…. ในที่สุดต้องจับมือกับภาครัฐ ภาคเอกชน และที่สำคัญที่สุด คือ เจ้าของบ้านตัวจริง!! ซึ่งก็คือ คนคลองเตย ซึ่งแป้งเชื่อว่า คนคลองเตยพร้อมที่จะช่วยพัฒนาบ้านหลังนี้ เหมือนที่เราส่งเสียงเชียร์ในสนามฟุตบอลท่าเรือด้วยกันมาตลอด 5 ปีที่ผ่านมา… .ถ้าโชคดี คลองเตยดีดีเกิดขึ้นได้ และอาจจะต่อไปถึง กรุงเทพฯ ดีดี… ในอนาคต🙏😊 และเหนือสิ่งอื่นใด ทีมงานเราน้อมรับทุกข้อเสนอแนะจากทุกคน และแป้งหวังว่าในที่สุดการพัฒนาแบบยั่งยืนจะเกิดขึ้น การที่คนในชุมชนยืนด้วยตัวเองได้ จะเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์สังคมไทย กราบจากใจค่ะ 🙏🙏
โพสต์โดย Madam Pang – มาดามแป้ง – นวลพรรณ ล่ำซำ เมื่อ วันพุธที่ 8 มกราคม 2020
โดยเมืองไทยประกันภัยจะให้การสนับสนุนการดำเนินงาน รวมถึงลงพื้นที่เพื่อทำความรู้จักและทำความเข้าใจกับชุมชนต่างๆ ในพื้นที่คลองเตย อันจะเชื่อมโยงให้การดำเนินงานวิจัยดังกล่าวประสบผลสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ เพื่อให้ได้มาซึ่งแผนแม่บทที่พร้อมด้วยองค์ความรู้และนวัตกรรมสำหรับนำไปต่อยอดในการเพิ่มมาตรฐานความเป็นอยู่ และคาดหวังว่า โมเดลคลองเตย จะเป็นต้นแบบชุมชนที่ส่งต่อโอกาส และความมั่นคงให้ผู้อาศัยและสังคม โดยหลังจากการวิจัยเสร็จสมบูรณ์จะมีการแบ่งปันองค์ความรู้สู่สาธารณะ ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ผ่านการจัดนิทรรศการ และงานวิจัย เพื่อขยายผลการศึกษาด้านการพัฒนาพื้นที่อื่นๆ ต่อไป
#คลองเตยดีดี #เชื่อแป้ง #เชื่อเมืองไทยประกันภัย