HomeDigital‘เถาเป่า’ มากกว่า ‘มาร์เก็ตเพลส’ แต่คือ ‘เมคเกอร์เพลส’ เพื่อฝันใหญ่แปลงภาพลักษณ์จีนให้กลายเป็น “นักสร้างสรรค์”

‘เถาเป่า’ มากกว่า ‘มาร์เก็ตเพลส’ แต่คือ ‘เมคเกอร์เพลส’ เพื่อฝันใหญ่แปลงภาพลักษณ์จีนให้กลายเป็น “นักสร้างสรรค์”

แชร์ :

 

จัดขึ้นเป็นปีที่ 4 แล้ว สำหรับงาน Taobao Maker Festival 2019 โดยเถาเป่า (Taobao) แพลตฟอร์ม C2C สำหรับชาวจีน ภายใต้อาลีบาบา อีโคซิสเต็ม ที่ต่อยอดจาก Online Platform มาสู่การสร้างประสบการณ์บนโลกออฟไลน์ ด้วยการจัดเฟสติวัลสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยและนักสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ใหญ่ที่สุดในจีน เพื่อแสดงออกถึงพลังแห่ง Creativity​ จากบรรดาเหล่าเมคเกอร์​จีน โดยเฉพาะกลุ่มมิลเลเนียล หรือผู้ประกอบการยุคใหม่ ซึ่งถือเป็น Users กลุ่มหลักที่อยู่บนแพลตฟอร์ม ด้วยสัดส่วนกว่า 70%

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

สำหรับงานเถาเป่า เมคเกอร์ เฟสติวัล ในปีนี้ จัดขึ้นยิ่งใหญ่กว่าทุกปี ด้วยระยะเวลายาวนานถึง 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 12-25 กันยายน 2562 และจัดขึ้นใน 2 จุด โดยสถานที่หลัก คือ Hangzhou Boiler Factory และ ริมทะเลสาบซีหู หรือ West Lake แบ่งพื้นที่ภายในงานออกเป็น 6 โซน ได้แก่ New Technology, New Manufacturing, New Design, New Flavor, New Trend และ New Experiences/Service

โดยได้รวบรวมไอเท็มจากเหล่าเมกเกอร์ทั้งจากฟากออฟไลน์และออนไลน์มาจัดแสดงภายในงานกว่า 400 ร้าน โดยมีไอเท็มที่เตรียมมาเปิดตัวภายในงาน หรือสร้าง Limited Edition มาสำหรับงานในครั้งนี้ถึงกว่า 1,000 รายการ​

มร.คริส ตง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด อาลีบาบา กรุ๊ป กล่าวว่า Taobao Maker Festival 2019 เป็นพื้นที่สำคัญในการแสดงออกถึงศักยภาพของคนจีนรุ่นใหม่ ในฐานะเจ้าของไอเดีย และความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ โดยเป้าหมายสำคัญของบรรดาผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มาเข้าร่วมงานในครั้งนี้ ไม่ได้โฟกัสอยู่เพียงแค่การซื้อขายสินค้าเท่านั้น แต่ต้องการพื้นที่ในการ Engage หรือแชร์ประสบการณ์ ไอเดียต่างๆ หรือแรงบันดาลใจระหว่างกัน รวมไปถึงการหาพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อต่อยอดหรือขยายสเกลธุรกิจให้เติบโตได้มากเพิ่มขึ้น

“เป้าหมายสำคัญคือ การสร้างให้เถาเป่า เมคเกอร์ เฟสติวัล เป็น Top of Mind ของผู้คนทั่วโลก ในฐานะแลนด์มาร์กแห่งวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ เพราะรวบรวมครีเอเตอร์และเมคเกอร์รุ่นใหม่ของจีน เพื่อสร้างการรับรู้ไปสู่ผู้คนทั่วโลก และสร้างภาพลักษณ์ใหม่ในการจดจำประเทศจีน จากประเทศที่เคยเป็นฐานการผลิตเพียงอย่างเดียว มาเป็นประเทศที่โดดเด่นในมิติของการดีไซน์ หรือความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ หรือการขยับจากคำว่า Made in China มาเป็น Created in China

ทั้งนี้ ไฮไลท์ต่างๆ ภายในงานปีนี้ มีทั้งไอเท็ม​ Signature รวมทั้งความน่าสนใจจากนวัตกรรม ดีไซน์ และความสร้างสรรค์ต่างๆ อยู่ในแต่ละโซนภายในงาน ​อาทิ

Long March Rocket โมเดลจรวดที่จัดแสดงไว้บริเวณด้านนอก Innovation Plaza  โดยมีเครื่องลางจากชิ้นส่วนสะเก็ดจรวดอยู่ที่ตัวเถาเป่าด้วย

Robosea โดรนฉลาม ที่ได้รับการขนามนามว่า DJI ของโลกใต้น้ำ ที่จะมาสาธิตถึงวิธีการว่ายน้ำและนำทาง

Robotic Dogs เทคโนโลยีสร้างความอัจฉริยะ เพื่อสร้างหุ่นยนต์ที่มีความสามารถสูง

C-Exoskeleton ​ชุดสูทเพิ่มพลัง เมื่อสวมใส่แล้วจะสามารถยกของที่มีน้ำหนักมากได้อย่างง่ายดาย

ผู้ประกาศข่าว AI

อาหารแห่งอนาคต ​ในกลุ่มเนื้อสัตว์มังสวิรัติที่ทำมาจากพืช

ไอศกรีมเหมาไถ และเหล้ารสชาติต่างๆ ที่ได้รับความสนใจอย่างมาก

หุ่นยนต์ชงชา

รองเท้าที่ผลิตจากเครื่อง 3D Printing

Trendy Sneaker รองเท้าผ้าใบแฟชั่นหลากหลายที่กำลังเป็นเทรนด์ในกลุ่ม Gen Z

ร้านเสื้อผ้าแฟชั่นย้อนยุคราชวงศ์ต่างๆ

หลังแห่งความสร้างสรรค์ที่กระจายไปในทุกจุดของงาน แม้กระทั่งถังขยะ

ภายในงานยังมีการจัดแฟชั่นโชว์ที่สะพานขาด​(Broken Bridge)​ เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ผู้คนรอชมเป็นจำนวนมาก โดยปีนี้ได้จัดแสดงแฟชั่นโชว์ที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มเจเนอเรชั่น Z เพื่อนำเสนอผลงานของแบรนด์ท้องถิ่นและแบรนด์ระดับโลก รวมไปถึงดีไซเนอร์อิสระที่มีชื่อเสียง​​ เพื่อตั้งใจสนับสนุนให้ดีไซเนอร์รุ่นเยาว์ทำตามความฝัน ​รวมทั้งแบรนด์ต่างๆ ที่เตรียมมาเปิดตัวคอลเลกชันพิเศษเป็นครั้งแรก​​​​​ โดยให้ความสำคัญกับการผสมผสานวัฒนธรรมที่แตกต่างกันเข้าไว้ด้วยกัน ผ่านแนวคิด “China Cool” 

แพลตฟอร์มบ่มเพาะ ‘เมกเกอร์’​

สำหรับเว็บไซต์เถาเป่า หรือ taobao.com แพลตฟอร์มโซเชียลคอมเมิร์ซในเครืออาลีบาบา ให้บริการมาตั้งแต่ปี 2546 เป็นแหล่งรวบรวมสินค้าหลากหลายตั้งแต่สินค้ายอดนิยม ของหายาก ผลิตภัณฑ์เสมือนจริง ไปจนถึงบริการระดับท้องถิ่น ผ่าน www.taobao.com และแอพโมบายเถาเป่า

เถาเป่า แปลตรงตัวว่า “ล่าสมบัติ” และปัจจุบันได้กลายเป็นแพลตฟอร์มโมบายคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน ในเชิงมูลค่ารวมของสินค้า หรือ GMV (Gross Merchandise Value) ในปีงบประมาณ 2562 จากการจัดอันดับของ Analysys บริษัทวิเคราะห์บิ๊กดาต้า ขณะที่จำนวนผู้ใช้ Mobile App เถาเป่าในแต่ละเดือน (MAU : Monthly Active Users) มีกว่า 755 ล้านราย ​ขณะที่จำนวนผู้บริโภคต่อปีมีถึง 674 ล้านคน (ข้อมูล ณ สิ้นมิถุนายน 2562)

​ความชัดเจนสำหรับบทบาทของเถาเป่าในวันนี้ คือ ฐานะของมาร์เก็ตเพลส ที่สามารถพัฒนาการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์และตรงใจให้กับผู้บริโภคชาวจีน รวมไปถึงการให้บริการต่อเนื่องต่างๆ ที่น่าพึงพอใจไปตลอด Path of Purchasing จากการเก็บข้อมูลจำนวนมหาศาลที่อยู่บนแพลตฟอร์ม เพื่อนำไปยกระดับ Shopping Experience บนแพลตฟอร์มให้ดียิ่งขึ้น

นอกจากการเป็นมาร์เก็ตเพลสแล้ว ปัจจุบันเถาเป่ายังกลายเป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมผู้ประกอบการและนักสร้างนวัตกรรมที่ใหญที่สุดของจีนอีกด้วย เพราะว่าร้านค้าบนเถาเป่าส่วนใหญ่ผู้ขายจะเป็นบุคคลหรือเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของเถาเป่า ส่วนใหญ่จะมีแนวคิดในการสร้างความฝันของตัวเอง

อีกหนึ่งบทบาทของเถาเป่าจึงเป็น Incubators เพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือบ่มเพาะผู้ประกอบการบนแพลตฟอร์ม ทั้งการเป็นช่องทางขาย การมีแพลตฟอร์มและฟีเจอร์ที่ช่วยในการทำธุรกิจ​ รวมถึงการมี B2B Infrastructure เพื่อรองรับการทำธุรกิจตลอดทั้ง Ecosystem รวมทั้งการจัดงานเถาเป่า เมคเกอร์ เฟสติวัล ที่เป็นเหมือนเวทีให้ผู้ค้าที่มีความสามารถบนแพลตฟอร์มสามารถนำเสนอไอเดียสู่สาธารณะ และมีโอกาสได้เจอพาร์ทเนอร์เพื่อเพิ่มโอกาสในการต่อยอดทางธุรกิจได้ในอนาคตอีกด้วย

“ปัจจุบันเถาเป่ากลายเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมที่ใช้สร้างสรรค์แนวคิด การออกแบบ และสินค้าแปลกใหม่ ที่ช่วยดึงดูดกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะเจเนอเรชัน Z ซึ่งมองหาประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครเข้ามา Engage กับแพลตฟอร์มเถาเป่าได้มากขึ้น ​ขณะเดียวกันเถาเป่าก็ไม่หยุดที่จะพัฒนาเพื่อเป็นแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคนิยม เต็มไปด้วยแบรนด์และสินค้าใหม่ โดยในอีก 3 ปี เถาเป่าวางแผนที่จะสร้างรายได้กว่า 5 ล้านหยวน (ประมาณ 21 ล้านบาท) ให้กับผู้ค้าแต่ละราย ที่มีจำนวนกว่า 200,000 คน ในรอบปี”

ทั้งนี้ จากรายงานสถิติของเถาเป่า เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นว่าผู้ค้าที่เข้าร่วมกับเถาเป่าในระยะเวลา 3 ปี มีการซื้อขายผ่านแพลตฟอร์ม (turnover) กว่า 5 แสนล้านหยวน (ประมาณ 2.1 ล้านล้านบาท) ในปีงบประมาณ 2562 ขณะที่ในปี 2561 มีดีไซเนอร์อิสระกว่า 50,000 ราย ที่ทำธุรกิจผ่านแพลตฟอร์มเถาเป่า​ และส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ 20-30 ปี โดยที่ความคิดสร้างสรรค์ของดีไซเนอร์เหล่านี้สามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่เป็นอย่างดี


แชร์ :

You may also like