เคยสงสัยหรือไม่ว่า ทำไมเราถึงได้ทานขนมไหว้พระจันทร์แสนอร่อยแค่เพียงช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์เท่านั้น ! ทำไมขนมไหว้พระจันทร์หลากหลายรสชาติถึงไม่มีวางขายทุกช่วงเวลาที่เราต้องการ ? เหล่านี้อาจเป็นคำถามของใครหลายๆคน
วันไหว้พระจันทร์ ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ตามปฏิทินจีน ถือเป็นวันที่พระจันทร์เต็มดวงสวยงามที่สุด ชาวจีนถือว่าเป็นวันแห่งการอยู่กันพร้อมหน้าของครอบครัว สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ “ขนมไหว้พระจันทร์” ซึ่งจะมีวางขายก่อนช่วงเทศกาลเล็กน้อย ปัจจุบันมีการดัดแปลงไส้ให้เลือกมากขึ้น หลายแบรนด์เพิ่มมูลค่าด้วยการนำเข้ามาขายในช่วงเวลาดังกล่าว ทำให้การแข่งขันสูงแบบไม่มีใครยอมใคร
ด้าน แบรนด์อาหารและเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ อย่าง S&P (เอสแอนด์พี) ก็เป็นอีกแบรนด์ที่กระโดดลงมาช่วงชิงตลาดขนมไหว้พระจันทร์ ด้วยจุดเด่นที่คุณภาพ ความหลากหลายของไส้ และหาซื้อง่ายในร้านสะดวกซื้อ ทำให้ขนมไหว้พระจันทร์ เอสแอนด์พี ติดตลาดได้ไม่ยาก
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเรามักคุ้นชินกับภาพของ S&P ที่วางขายทั้งในห้างสรรพสินค้า และตามสถานีรถไฟฟ้า โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นวัยทำงานที่แวะซื้อในช่วงเช้าและหลังเลิกงาน ทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ถูกมองว่าเน้นขายเฉพาะวัยทำงาน ล่าสุด S&P จึงเดินหน้าปรับภาพลักษณ์ใหม่ ให้เข้าถึงกลุ่ม new generation หรือคนคนรุ่นใหม่มากยิ่งขึ้น
และ “ขนมไหว้พระจันทร์” (Mooncake) กลายเป็นขนมชิ้นแรก ที่ S&P เลือกหยิบมาประเดิม ภาพลักษณ์ใหม่ ผ่านกลยุทธ์แรก คือ การส่งสินค้าที่ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ด้วย 4 ไส้ใหม่ คือ ไส้ส้มช็อกโกแลตลาวา , ไส้อินทผลัมธัญพืช , ไส้เบอรี่ผสมอาซาอิเบอรี่ และ ไส้พุทราและชามะลิ พร้อมกับแอบกระซิบว่าไส้เดิมก็ยังมีขายอยู่นะ
ถัดมา คือ การบอกเล่าเรื่องราวด้วยคอนเทนท์ออนไลน์ ที่ต่างไปจากเดิม เพิ่มลูกเล่นที่แปลกประหลาด โดยใช้แนวคิด weird เพื่อให้วัยรุ่นรู้สึกอินและสนุกตามไปด้วย ผ่านภาพยนตร์โฆษณา ที่มีไอเดียเก๋ๆ ว่า ‘ปิดตาชมจันทร์ สัมผัสรสละมุน’ เรื่องราวของคู่รักนักบินอวกาศที่ถูกส่งจากโลกไปเพื่อทำภารกิจตามหากระต่ายตัวสุดท้ายที่หายไปในวันไหว้พระจันทร์ ทั้งคู่ต้องออกผจญภัยสู่ดวงดาวที่ไม่เคยเห็นมาก่อน จนกระทั่งมาพบเรื่องราวสุดประหลาดทั้งกระต่ายยิงลำแสง มนุษย์ดวงจันทร์ และขนมไหว้พระจันทร์ไส้ใหม่แสนอร่อย
แต่การที่อยู่ห่างไกลโลก นอกจากภารกิจของทั้งคู่จะไม่สำเร็จแล้ว ยังทำให้ต้องเสียใจกับการไม่ได้ทานขนมไหว้พระจันทร์ และไม่ได้มีโอกาสได้เห็นพระจันทร์ที่สวยที่สุด อย่างไรก็ตาม ด้วยปาฏิหาริย์ของ S&P ทำให้ทั้งคู่ได้ลิ้มรสของแสนอร่อยที่มีเฉพาะบนโลก และได้เห็นดวงจันทร์จากความรู้สึกที่ทั้งคู่กินไป โดยการ ‘ปิดตาชมจันทร์ สัมผัสรสละมุน’ ทำให้รู้ว่า ขนมไหว้พระจันทร์แม้ทานขณะที่มองไม่เห็นพระจันทร์ ก็ยังสัมผัสรสละมุนนั้นได้ด้วยความสมบูรณ์ของรสชาติ
https://www.facebook.com/136071060212/posts/10156151662725213?sfns
ทั้งนี้ การหยิบเอาขนมไหว้พระจันทร์มาเล่น หลังจากปรับภาพลักษณ์หมาดๆ นอกจากจะเข้าใกล้กลุ่มวัยรุ่นมากขึ้น ยังเรียกได้ว่า กล้าท้าทายความเคยชินของคน เพื่อเปลี่ยนนิยามขนมที่มีขายเฉพาะเทศกาล ให้กลายเป็นขนมทานเล่นที่คนซื้อกินเองได้ ไม่จำเป็นต้องซื้อไปไหว้เท่านั้น
และนี่ถือเป็นอีกหนึ่งแนวทาง ของจุดเริ่มต้นการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ ขยับจุดยืนของแบรนด์ให้ดูทันสมัย ด้วยวิธีการสื่อสารที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างคนรุ่นใหม่ได้มากขึ้น ฉีกกฎเกณฑ์โฆษณาเดิมๆ ที่คนจดจำมานานแสนนาน กับสโลแกนฮิตติดปาก “เอสแอนด์พี ชื่อนี้มีแต่ของอร่อย” กลายเป็นโฆษณาฮาๆ ปนความน่ารักที่ดึงคนดูได้มากขึ้นกว่าเดิม