HomeBrand Move !!เจาะลึกความคิด King Power จะสร้างภูมิปัญญาชาวบ้านให้ยั่งยืน ต้องปั้นเป็นอาชีพที่มั่นคง กับผลงานสีย้อมครามINDIGO II

เจาะลึกความคิด King Power จะสร้างภูมิปัญญาชาวบ้านให้ยั่งยืน ต้องปั้นเป็นอาชีพที่มั่นคง กับผลงานสีย้อมครามINDIGO II

แชร์ :

หลังจากเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา King Power ผลักดันโครงการ Indigo Collection นำเอาภูมิปัญญาสีย้อมครามอันเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดสกลนคร มาทำเป็นสินค้าที่ระลึกพิเศษของทีมเลสเตอร์ ซิตี้ โดยอาศัย Design Thinking ที่ทีมงานเข้าไปออกแบบสินค้า พัฒนาเทคนิค และแนวคิด จนกลายเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมจากทั้งนักฟุตบอลของทีมเลสเตอร์ซิตี้ รวมทั้งแฟนบอลที่เข้าไปชการแข่งขันใน King Power Stadium (อ่านเพิ่มเติมคลิก https://www.brandbuffet.in.th/2018/05/design-thinking-indigo-collection-by-king-power-to-leicester-city/ ) มาถึงวันนี้โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สอง ภายใต้ชื่อ INDIGO II (อินดิโก้ ทู) ที่ได้รับการออกแบบ และรังสรรค์ภายใต้แนวคิด Nature is More’

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ให้รายละเอียดโครงการนี้เพิ่มเติมว่า จากความสำเร็จของ INDIGO คอลเลคชั่นแรกที่เปิดตัวไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมาที่ประเทศอังกฤษ คิง เพาเวอร์ จึงได้ร่วมพัฒนาคอลเลคชั่นสองกับชุมชนบ้านนาขาม จังหวัดสกลนคร, ทีมครูช่างศิลปหัตถกรรม ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ และทีมนักออกแบบของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์อย่างต่อเนื่อง ออกมาเป็นแนวคิด Nature is More เพิ่มลูกเล่น และเติมความสนุกในการ mix and match โดยหยิบโทนสีครามมาเล่น มัดให้เป็นลายทางและใส่เทคนิคการไล่สี  โดยยังคงคุณสมบัติเด่นของผ้าสีย้อมคราม ได้แก่ เป็นสีธรรมชาติ 100%,  นุ่ม, ระบายอากาศได้ดี, สวมใส่สบาย และใช้ได้หลากหลายโอกาส ทุกชิ้นผ่านการย้อมด้วยมือแบบดั้งเดิม คือ ม้วน มัด และจุ่มในสีจนเกิดเป็นลวดลายเอกลักษณ์ที่งดงาม ประณีต และมีเสน่ห์เฉพาะตัว

สินค้าที่ระลึก INDIGO II นี้ ประกอบไปด้วย เสื้อยืดคอกลมแขนสั้น, เสื้อ สเวตเตอร์, เสื้อโปโลแขนสั้น, แจ็กเก็ต, แจ็กเก็ตแบบมีหมวก ผ้าพันคอ, หมวกแก๊ป, กระเป๋า, หมอนอิง และลูกฟุตบอลผ้า นอกจากการช่วยเหลือชุมชน ความพิเศษของคอลเลคชั่นนี้คือเรื่องการดีไซน์โดยทีมนักออกแบบจาก LCFC ประเทศอังกฤษได้ช่วยร่วมออกแบบให้สินค้ามีความโดดเด่นมากขึ้นเพื่อต่อยอดให้สินค้ามีคุณภาพการดีไซน์ทัดเทียมระดับโลก

สำหรับคนไทยหรือแฟนบอลของเลสเตอร์ซิตี้ สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้เช่นกัน โดยสินค้าคอลเลกชั้นนี้จะวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 16 พย. 2561เป็นต้นไป ณ คิง เพาเวอร์ สาขารางน้ำ, พัทยา (ยกเว้นแจ็กเกต และเสื้อสเวเตอร์), ศรีวารี, ภูเก็ต และคิง เพาเวอร์ มหานคร (ยกเว้นลูกฟุตบอลผ้า) ภายในสนามบินดอนเมือง, สนามบินสุวรรณภูมิ, สนามบินภูเก็ต และแน่นอนที่ เดอะ ซิตี้ แฟนสโตร์ แอท คิง เพาเวอร์ สเตเดียม เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ (ยกเว้นแจ็กเกต, ผ้าพันคอ และหมวกแก๊ป) โดยราคาดีงาม ตั้งแต่ 690 – 2,190 บาท

INDIGO เป็นโปรเจ็กต์ภายใต้โครงการ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ด้านชุมชน โดยความร่วมมือระหว่างกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ และชุมชนบ้านนาขาม จังหวัดสกลนคร โดยบริษัทฯ ได้เข้าไปให้องค์ความรู้กับผู้ผลิตในชุมชน เพื่อต่อยอดพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ตลาดต่างประเทศ และเป็นช่องทางในการจัดจำหน่ายสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก แสดงศักยภาพฝีมือคนไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในระดับสากล ซึ่ง King Power อาศัยความแข็งแรงของตัวเองในเรื่อง Know How ที่เข้าใจความต้องการของลูกค้าชาวต่างชาติ รวมทั้งช่องทางการตัดจำหน่ายของตัวเอง มาใช้ให้เกิดประโยชน์ นำเอาผลงานภูมิปัญญาขอไทยไปโชว์ให้ทั่วโลกได้เห็น ที่ผ่านมาถึงแม้ว่าโครงการเกี่ยวข้องกับ “คราม” หรือว่า Indigo จะมีมากมาย แต่สิ่งที่ King Power เน้นย้ำมาตลอดก็คือ พาร์ทเนอร์ หรือพันธมิตรของ KingPower ทุกภาคส่วนต้องสามารถสร้างความมั่นคงและยั่งยืนได้ ดังนั้น Indigo ของ King Power จึงต้องมีภาค 2 และพร้อมต่อยอดไปในระยะยาว ไม่หยุดแค่ครั้งเดียว

แนวคิดนี้ถูกสะท้อนให้เห็นมาแล้วในสินค้าหลากหลายชนิดของ King Power ที่ทีมงานเข้าไปช่วยพัฒนาสินค้า ดีไซน์ แพ็กเก็จจิ้ง ตลอดจนวิธีบริหารงาน จนกลายเป็นอาชีพที่ยั่งยืนของครอบครัวและชุมชนโดยรอบ ส่วน King Power ก็มิสินค้านั่นๆ เป็น Signature ของตัวเองเช่นกัน ความท้าทายของโปรเจ็กท์ Indigo เองก็ยังมีเรื่องที่ต้องพัฒนาต่อไปไม่หยุด ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ ที่โดนใจแฟนบอล และการซัพพลายสินค้า ที่มีพื้นฐานจากธรรมชาติแบบนี้ทำอย่างไร จึงจะมีความต่อเนื่องทั้งเรื่องคุณภาพและปริมาณ แต่ถ้าทำได้แล้วละก็ มูลค่าเพิ่มกับอาชีพที่เกิดขึ้นมานี้ จะกลายเป็นประโยชน์กับชุมชนและเศรษฐกิจไทยในภารรวมอีกมาก

 


แชร์ :

You may also like