ถาวร โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ผู้ก่อตั้งโรงแรม ถาวร บีช วิลเลจ รีสอร์ท แอนด์ สปา ภูเก็ต (Thavorn Beach Village Resort & Spa) และ ถาวร ปาล์ม บีช รีสอร์ท (Thavorn Palm Beach Resort) เปิดตัวผู้บริหารหนุ่มรุ่นที่ 4 “เลิศ ถาวรว่องวงศ์” ผู้พลิกฟื้นภาวะวิกฤติของโรงแรมจนก้าวสู่ความสำเร็จทำรายได้ 515 ล้านบาท เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี พร้อมใส่เกียร์เดินหน้าดันยอดขายแตะ 600 ล้านบาทในปี 2562 ตั้งเป้าปั้นโรงแรมให้กลายเป็นแลนด์มาร์คของภูเก็ต
เลิศ ถาวรว่องวงศ์ กรรมการบริหาร โรงแรมในเครือถาวร โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท เปิดเผยว่า “ย้อนกลับไปในปี 2557 ทางโรงแรมยังไม่มีสภาพคล่องทางการเงินและลูกค้าที่มาพักค่อนข้างน้อยถือได้ว่าเข้าขั้นวิกฤติ ซึ่งเป็นช่วงที่ตนศึกษาจบจากมหาวิทยาลัยคอร์เนล สหรัฐอเมริกา จึงได้เริ่มเข้ามาช่วยวางกลยุทธ์ของโรงแรมใหม่ทั้งหมด พร้อมตั้งเป้าหมายในการพัฒนาธุรกิจและปรับปรุงโรงแรมให้ทันสมัยขึ้น ซึ่งตลอดระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2557 ถึง ปี 2561 ถือได้ว่าเป็นช่วงพลิกฟื้นเครือถาวรและสร้างผลกำไรได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทมีกำไรเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี โดยมีรายได้รวมในปี 2561 อยู่ที่ 515 ล้านบาท คิดเป็น 56% ทั้งยังมีสภาพคล่องทางกลางเงินดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงอัตราเข้าพักโรงแรมอยู่ที่ 91% ต่อปี โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ที่เข้ามาพักเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 90 % และคนไทย 10 %
“ตนได้เข้ามาบริหารโรงแรมเป็นทายาทรุ่นที่ 4 โดยรับผิดชอบการบริหารโรงแรมในเครือของถาวร โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท อยู่ 2 แห่ง คือ ถาวร บีช วิลเลจ รีสอร์ท แอนด์ สปา ภูเก็ต (Thavorn Beach Village Resort & Spa) และ ถาวร ปาล์ม บีช รีสอร์ท (Thavorn Palm Beach Resort) ผ่านกลยุทธ์การหลีกเลี่ยงกับดักการแบ่งส่วนตลาด หรือ Over-Segmentation พร้อมสร้างจุดเด่นของโรงแรมที่คู่แข่งไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ ควบคู่ไปกับการพัฒนาสื่อของตัวเอง ทั้ง เฟซบุ๊ค, อินสตาแกรม, ยูทูป และ ไลน์ และที่สำคัญที่ถือเป็นหัวใจหลักของการบริหารงานคือการใส่ใจกระแสเงินสด มากกว่างบการเงินใดๆ”
สระว่ายน้ำของโรงแรม ถาวร บีช วิลเลจ รีสอร์ท แอนด์ สปา ภูเก็ต และที่พักโซนบนเขาทั้งหมด 6 ชั้น
โซนบ้านพักบนเขา จะมี Cable Car บริการสำหรับขึ้นที่พัก
ชายหาดส่วนตัว
โซนที่พักริมชายหาดส่วนตัว
“ภายใน 3 ปีข้างหน้า โรงแรม ถาวร บีช วิลเลจ รีสอร์ท แอนด์ สปา ภูเก็ต (Thavorn Beach Village Resort & Spa) และ ถาวร ปาล์ม บีช รีสอร์ท (Thavorn Palm Beach Resort) จะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้งในเรื่องของการบริการร่วมไปทั้งปรับปรุงให้ทันสมัยมากขึ้น และภายใน 10 ปีข้างหน้า จะต้องขึ้นแท่นเป็นอีกหนึ่งเดสทิเนชั่นที่สำคัญของจังหวัดภูเก็ต” เลิศ ถาวรว่องวงศ์ กล่าวสรุป
ข้อมูลเพิ่มเติม
รายได้และกำไรสุทธิ ของ รีสอร์ท Thavorn Palm Beach Resort และ Thavorn Beach Village Resort & Spa (รวม 376 ห้อง) (เป็นล้านบาท)
| ปี/รายได้ | 2014 ( คุณเลิศ เข้ามาบริหารช่วงกลางปี ) | 2015 | 2016 | 2017 | 2018 ( ตัวเลขประมาณการ ) |
| รายได้รวม | 290 ล้านบาท | 380 ล้านบาท | 450 ล้านบาท | 515 ล้านบาท | 525 ล้านบาท |
| กำไร – ขาดทุน (สุทธิ) | (66) ล้านบาท | (44) ล้านบาท | 13 ล้านบาท | 56 ล้านบาท | 62 ล้านบาท |
คาดการณ์ธุรกิจ 0–3 ปีข้างหน้า
- สร้างวินัยทางการเงิน ลดหนี้สินของบริษัทให้อยู่ในระดับที่ความเสี่ยงต่ำ เพื่อสร้างความมั่นคง
- พัฒนาสินค้าและการบริการของรีสอร์ทหลักของตระกูล Thavorn Palm Beach Resort, หาดกะรนภูเก็ต และ Thavorn Beach Village Resort and Spa, หาดนาคาเลย์ ภูเก็ต
- สร้างสภาพคล่องทางการเงินให้กับบริษัท
คาดการณ์ธุรกิจ 3–10 ปีข้างหน้า
- ปรับปรุงโรงแรมถาวร (โรงแรมดั้งเดิมของตระกูล) ให้กลายมาเป็น Landmark ของจังหวัดภูเก็ต และให้สมศักดิ์ศรีของการที่เป็นโรงแรม full service แห่งแรกของจังหวัดภูเก็ต
- เริ่มมุ่งเป้าพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในใจกลางเมืองภูเก็ตที่มีมูลค่าสูง แต่ขาดการดูแลพัฒนามาหลายสิบปี เป้าหมายคือดึงดูดร้านค้าผู้เช่าที่มีคุณภาพให้ได้มากที่สุด
คาดการณ์ระยะยาว
- สร้าง Vertical Integration โดยการขยายธุรกิจด้านท่องเที่ยวเน้นธุรกิจที่จะเกื้อกูลกับธุรกิจที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว รถรับส่ง เอเจนท์ขายโรงแรม ร้านอาหาร
- ซื้อหรือสร้างกิจการรีสอร์ทเพิ่มใน destination อื่น ๆ ไม่ว่าจะในประเทศเละต่างประเทศ
ประวัติของเลิศ ถาวรว่องวงศ์
จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัย Cornell University คณะ School of Hotel Administration ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยอันดับที่ 15 ของโลก และเป็นอันดับที่ 1 ของโลกในสาขาบริหารการโรงแรม และเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัย Ivy League ของสหรัฐอเมริกา
มาช่วยธุรกิจที่บ้านตั้งแต่เด็กเพราะคุณพ่อคุณแม่ปลูกฝังและพามาคลุกคลีกับธุรกิจที่บ้านมาโดยตลอด หลังจากจบการศึกษา ธุรกิจครอบครัวอยู่ในสภาวะย่ำแย่ ไม่อาจจะทิ้งมันได้ จึงตัดสินใจมาบริหารงานต่อ และดูแทบทุกเรื่องเนื่องจากเป็นคนแรกของ generation ที่ต้องกลับมาสานต่อธุรกิจ และเป็นช่วงที่บริษัทอยู่ในสภาวะย่ำแย่ที่สุด จึงไม่มีโอกาสได้เลือกส่วนที่อยากจะทำ ต้องรับไว้หมด เพราะเกือบทุกด้านมีปัญหาหมด ตัวอย่างหน้าที่ที่ต้องดูแลเองเช่น
+ เดินตลาดหาลูกค้าเอง
+ เจรจาลดหย่อนดอกเบี้ยกับธนาคาร
+ ปฎิวัติระบบบัญชี ให้แม่นและถูกหลักสากลมากขึ้น โดยเฉพาะบัญชีกำไรขาดทุน และ บัญชีกระแสเงินสด
+ คุมทุกแผนก ไม่ว่าจะเป็นแผนกหลังบ้านและหน้าบ้าน
+ ทำ Online marketing เอง
+เจรจาราคาซื้อกับ supplier สำหรับสินค้าแทบทุกชิ้นที่ใช้ในโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นไส้กรอกที่ใช้ตอนอาหารเช้า ยันสีทำผนัง
+ ถ่ายรูปโรงแรมเพื่อลงสื่อต่าง ๆ เอง เนื่องจากตอนนั้นไม่มีงบจ้างช่างถ่ายภาพดี ๆ เลยต้องเรียนรู้ศึกษาวิธีถ่ายภาพและลองผิดลองถูกเอง
สิ่งที่ยึดถือปฏิบัติมาโดยตลอด เป็นสิ่งที่ได้เรียนรู้จากพ่อแม่ คือความขยัน ตั้งใจ และไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ แม้สถานการณ์จะแย่เพียงใด การมองโลกในแง่บวก แม้ปัจจัยทุกอย่างจะชี้ไปทางแง่ลบก็ตาม และ การศึกษาอย่างจริงจัง คุณพ่อเป็นคนที่อ่านหนังสือเยอะมากและให้ความสำคัญกับการศึกษาอย่างต่อเนื่องและไม่มีวันสิ้นสุด