Photo Credit : Facebook Tesla
เวลานี้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าใหญ่ที่สุดในโลก คือ ประเทศจีน และรัฐบาลจีนเร่งผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ ให้เปลี่ยนผ่านจากยุค “รถยนต์ใช้พลังงานน้ำมัน” ไปสู่ยุค “รถยนต์พลังงานไฟฟ้า” (Electronic Vehicle : EV) อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการออกมาตรการส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า
เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา Xin Guobin รองนายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี กล่าวถึงนโยบายอุตสาหกรรมยานยนต์ในจีนต่อไปจากนี้ว่า จะทยอยลดการผลิตและการขายรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน เพื่อลดมลพิษในสิ่งแวดล้อมขณะเดียวกันจะผลักดันให้ผู้ผลิตรถยนต์ในจีน หันมาลงทุนและพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น เพื่อเปลี่ยนอุตสาหกรรมยานยนต์ในจีน ให้ไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า
หากรัฐบาลจีนสามารถกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้สำเร็จ จะเป็นหนทางให้อุตสาหกรรมยานยนต์จีน ทะยานสู่เวทีโลก ซึ่งปัจจุบันเป้าหมายดังกล่าวชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้จากขณะนี้ประเทศจีน กลายเป็นตลาดรถยนต์ไฟฟ้าใหญ่ของโลก
“Tesla” ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่จากสหรัฐฯ มองเห็นโอกาสทางธุรกิจมหาศาลในจีน จึงได้ขยายฐานการผลิตมายังประเทศจีน ล่าสุดได้บรรลุข้อตกลงกับทางการเซี่ยงไฮ้แล้ว ในการตั้งโรงงานในเขตการค้าเสรีที่มหานครเซี่ยงไฮ้
Photo Credit : Facebook Tesla
นอกจากนี้ The Wall Street Journal รายงานว่า การลงทุนในเขตการค้าเสรี “Tesla” จะได้เป็นเจ้าของโรงงานผลิตในมหานครเซี่ยงไฮ้ของตนเอง ไม่ใช่โมเดลการร่วมทุนกันระหว่างผู้ผลิตรถยนต์ท้องถิ่น กับผู้ผลิตจากต่างประเทศอย่างที่เคยเป็นมา เนื่องจากรัฐบาลจีน ผ่อนปรนมาตรการการลงทุนของบริษัทต่างชาติ กับพันธมิตรท้องถิ่น เพื่อกระตุ้นให้ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในจีนมากขึ้น
นั่นหมายความว่า “Tesla” จะเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากต่างประเทศรายแรกในจีน ที่ได้สิทธิ์ในการตั้งโรงงานของตนเอง 100% อย่างไรก็ตามถึงแม้ “Tesla” ได้สิทธิ์การลงทุนดังกล่าว แต่ยังคงต้องเสียภาษีนำเข้า 25% ทว่าเจ้าแห่งรถยนต์ไฟฟ้าจากสหรัฐฯ รายนี้ ก็มองว่าคุ้มค่าต่อการลงทุนในระยะยาว เพราะ Demand รถยนต์ไฟฟ้าในจีนมีมหาศาล ดังนั้น การมีฐานการผลิตของตนเองในจีน ย่อมลดต้นทุนค่าแรง ค่าขนส่ง ทำให้สามารถทำราคาแข่งขันได้กับค่ายรถยนต์ต่างๆ ในแดนมังกร
Photo Credit : Facebook Tesla