มิตรผล (Mitrphol) หลังจากพยายามปรับภาพลักษณ์จากแบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภค หรือสินค้าเก่าๆสำหรับแม่บ้านเท่านั้น (Commodity) ให้เป็น Lifestyle Brand (แบรนด์ในชีวิตประจำวันของผู้คน) เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้นซึ่งจะเป็นฐานลูกค้าใหม่ให้กับแบรนด์ในอนาคต ผ่านแคมเปญและการสื่อสารต่างๆที่แตกต่างและถูกจริตคนออนไลน์มากขึ้น
สิรินิจ โชคชัยฤทธิกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานกลยุทธ์การตลาด กลุ่มธุรกิจน้ำตาลกลุ่มมิตรผล กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงที่ผ่านมาพยายามสร้างการรับรู้และมุมมองใหม่ๆของน้ำตาลให้ผู้บริโภค ไม่ใช่แค่สินค้าอุปโภคบริโภคแบบเดิมๆ แต่เป็น Lifestyle Brand (แบรนด์ในชีวิตประจำวันของผู้คน) ทั้งผลิตภัณฑ์ใหม่และการสื่อสารแนวใหม่โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์
“ตั้งแต่ปี 2558 จะเป็นการสร้าง Brand Awareness เริ่มเปลี่ยนให้เป็น Lifestyle Brand ในแคมเปญ Sweet Happiness ปี 2559 เน้นที่สร้าง Engagement ทั้งออนไลนและออนกราวน์ควบคู่กันไป และ ปี 2560 ยกระดับอีกขั้น คือ ปีแห่งการ Transformation โดยกลยุทธ์ปี 2560 สื่อแบบดั้งเดิม (ทีวี,สิ่งพิมพ์) ยังคงใช้อยู่เพื่อสร้างการจดจำแบรนด์มิตรผลอยู่ แต่จะใช้ช่องทางดิจิตอลมากขึ้นเพื่อสร้าง Engagement กับผู้บริโภครุ่นใหม่ ผ่านคอนเซ็ต์ “เติมความสุข สนุกทุกความหวาน” เริ่มจากการปล่อย Vdo Interactive #สนุกทุกส่วนผสม เพื่อสร้าง Engagement กับผู้บริโภคและบอกจุดเด่นของสินค้าที่สามารถ Mix & Match กลายเป็นอาหารและเครื่องดื่มเมนูใหม่ๆได้ ต่อจากนั้นจะปล่อยไวรัลคลิปเฉพาะอออนไลน์อีกระลอกนึง
นอกจากการแคมเปญทางการตลาดและยังเตรียมเปิดตัวเว็บไซต์ E-commerce ที่สามารถซื้อสินค้าในน้ำตาลกลุ่มพิเศษอย่าง น้ำเชื่อมมิตเต้ (Mitte) เพื่อรองรับการเติบโตของช่องทางออนไลน์ที่คาดว่าจะเติบโตอย่างมากในอนาคต ขณะที่น้ำตาลทรายปกติยังไม่สามารถขายบนออนไลน์เนื่องจากติดเรื่องกฏหมาย
“แม้ว่าเว็บไซต์ E-commerce จะมีแบรนด์อื่นๆทำรุดหน้าไปมากแล้ว แต่สำหรับวงการน้ำตาลยังไม่เคยมี มิตรผลฯต้องการสร้างการเข้าถึงสินค้า (Accessibility) กับลูกค้าที่อยู่ในสถานที่ห่างไกลไม่มีร้านค้าขายสินค้ามิตรผล และมั่นใจว่าช่องทางออนไลน์จะเติบโตอย่างแน่นอน เพราะจากสถิติยอดขายน้ำตาลมิตรผลในออนไลน์ผ่าน Lazada และ Officemate สูงมากเติบโตปีละ 2 digit ”
ทั้งนี้งบการตลาดปีนี้อยู่ที่ 100 ล้านบาท แบ่งเป็นออนไลน์ 60% และ ดั้งเดิม 40% โดยงบสำหรับออนไลน์ปีนี้พุ่งสูงขึ้นกว่าปกติเนื่องจากการลงทุนในระบบ E-commerce และ Digital Platform ใหม่ทั้งหมด