HomeDigitalผู้บริหาร Line เผยวิธีพัฒนาทีมที่เต็มไปด้วยคนเก่ง

ผู้บริหาร Line เผยวิธีพัฒนาทีมที่เต็มไปด้วยคนเก่ง

แชร์ :

line-cto-euivin-park

Line เติบโตอย่างรวดเร็วในปีที่ผ่านมาด้วยมูลค่าทางตลาดเกือบ 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เสริมพลังความแข็งแกร่งในฐานบริษัทผู้นำทางเทคโนโลยีให้มั่นคงยิ่งขึ้น โดยได้รับการจัดอันดับจาก MIT Technology Review ติด 1 ใน 50 บริษัทที่ฉลาดที่สุดในอันดับที่สูงกว่ายักษ์ใหญ่อย่าง IBM และ Intel รวมไปถึงสตาร์ทอัพโตไว อย่าง Slack

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

“เราพยายามกันอย่างหนัก สิ่งสำคัญคือการได้ตัวคนเก่งมาอยู่กับเรา และสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับพวกเขา” Euivin Park Chief Technology Officer (CTO) ของ Line กล่าว

Euivin เข้าร่วมทำงานกับ Naver บริษัทแม่ของ Line หลังจากการเข้าซื้อบริษัทเดิมที่เธอทำงานอยู่ในปี 2006 หลังจากนั้นเธอจึงย้ายจากเกาหลีมาทำงานที่ญี่ปุ่นในปี 2007 เพื่อร่วมสร้างบริษัทที่กลายมาเป็น Line ในที่สุด  Euivin เล่าให้ฟังว่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัยเธอเลือกเรียนด้านโปรแกรมมิ่งเพราะเป็นกระแสในช่วงนั้น และสร้างเกมของตัวเองเกมแรกขึ้นมาลักษณะการเล่นคล้ายเตอติส หลังเรียนจบทำงานเกี่ยวกับ System Maintenance และพบว่างานด้าน Hardware ไม่ใช่ตัวเธอ จึงกลับมาทำงานด้าน Software อีกครั้ง โดยเข้าทำงานที่บริษัท Neowiz Games ในปี 2002 และย้ายมาทำบริษัท 1noon ในปี 2005

Euivin บอกเราถึงวิธีการบริหารในฐานะ CTO ของเธอ ที่เรียกมันว่า “มากาเซรุ สไตล์” (makaseru style) ที่มาจากภาษาญี่ปุ่นหมายถึงปล่อยให้แต่ละคนรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเอง เธอเชื่อว่าสิ่งสำคัญที่จะทำให้ทีมแข็งแกร่งมี 3 อย่าง 1.มีความเป็นเจ้าของในงาน 2.รับความเสี่ยง 3.เปิดรับ

เธอยกตัวอย่างถึงลูกเล่นน่ารักๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อตอนคริสมาสต์ปีที่แล้วที่มีหิมะตกในหน้าจอแชทของไลน์ ซึ่งมันเป็นไอเดียที่มาจากวิศวกร iOS คนหนึ่งของ Line ที่ทุกคนเปิดรับในไอเดีย ในการเข้าเป็นพนักงานใหม่จะได้รับ handbook ที่ในนั้นมีข้อความปลุกใจพนักงานว่า “ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ คุณมีคนที่เต็มไปด้วยความสามารถและประสบการณ์อยู่รอบตัว” ตอนนี้ไลน์จึงไม่เพียงแค่แบ่งปันความรู้ภายใน แต่ยังแชร์ประสบการณ์ให้กับคนในวงการด้วยกันอีกด้วย

นอกจากนี้  Euivin ยังเน้นเรื่องการเปิดรับ “การเปิดรับเป็นเรื่องสำคัญมาก เรามีงานจำนวนมากที่ต้องทำ และเราไม่สามารถทำมันได้ตามลำพัง” อย่างไรก็ตามเรื่องการเปิดรับนี้ ไลน์เองก็ยังมีมุมที่จำเป็นต้องเปิดให้กว้างขึ้นในบางจุด ซึ่งเป็นสิ่งที่ Euivin พยายามทำมาโดยตลอด หากแต่ยังอยู่ในขั้นตอนการคิดคำนวนว่าการเปิดที่ว่านั้นควรเปิดในระดับไหน แต่หลังจากแอปพลิเคชั่นส่งข้อความอื่นๆ เริ่มเปิดการสาธิต APIs ไลน์จึงรู้ตัวว่าต้องเปิดตัวเองให้กว้างขึ้น ในที่สุดเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้วไลน์ก็ตัดสินใจให้นักพัฒนาเข้าถึงแพลตฟอร์มได้อย่างเต็มตัว นอกจากนี้ยังประกาศเมื่อไม่นานมานี้ว่าได้พัฒนาบอทสำหรับนักพัฒนาเสร็จสมบูรณ์แล้ว

อย่างไรก็ตามในการก้าวไปข้างหน้าเรื่อยๆ ไลน์จำเป็นต้องดึงดูดวิศวกรระดับโลก (ผู้ที่มักได้รับข้อเสนอแบบเดียวกันจาก Google และ Facebook) เข้าร่วมงานให้ได้ Euivin เชื่อว่าปัจจุบันบริษัทในอเมริกาส่วนใหญ่ถึงจุดที่เติบโตเต็มที่แล้ว มันจะท้าทายกว่าสำหรับพวกเขาในการร่วมงานกับบริษัทที่กำลังเติบโตอย่างไลน์ แล้วมาลงมือทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ไปด้วยกัน

และเมื่อถึงวันที่ไลน์ไปถึงจุดที่แข็งแรงและไม่โตต่อแล้ว Euivin เองก็คงพาตัวเองไปหาความท้าทายใหม่ๆ ในที่อื่นๆ เช่นเดียวกัน

Source

แปลและเรียบเรียงโดย Prim NM


แชร์ :

You may also like